ทีมข่าวพีพีทีวี ได้ลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนย่านบางชัน แล้วได้ไปพบกับผู้ประกอบการคนที่ร้องเรียน และเป็นเจ้าของซองเงิน โดยเปิดใจบอกว่า ผอ. ท่านนี้เข้ารับตำแหน่งวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 26 ตุลาคม ก็มีการเรียกเธอเข้าไปพบและเรียกรับเงินตั้งแต่ครั้งแรก โดยมักจะใช้คำพูดลักษณะ ว่า “มีให้ ผอ.เท่าไร” “จะดูแลเท่าไหร่” และก็ทวงถามมาโดยตลอด
แต่ที่น่าตกใจไปกว่านั้น คือ ข้อมูลจากชุดสืบสวน ปปช. และผู้เสียหาย บอกกับเราว่าก่อนจะถูกจับ ผอ.ท่านนี้ยังพยายามที่จะเสนอให้ผู้เสียหาย
ไปประมูลเพื่อทุจริตเงินค่าอาหารกลางวันเด็กๆจากอีกโรงเรียน ซึ่งมีจำนวนราว 4,000 คน เด็กมากกว่าโรงเรียนย่านบางชัน ซึ่ง งบมากกว่าแน่นนอน โดยเปิดเผยเรื่องนี้ว่า ตัวเองสามารถแนะนำได้ผ่านนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งด้วย
"นี่ ตกลงหนูมีให้ผอ.เท่าไหร่ แล้วเนี่ยจะจ่ายให้ ผอ.ได้ช่วงไหน แล้วยอดเท่าไหร่กันนะ ตอนที่เราประมูลเข้ามาราคาก็ถูกอยู่ได้ แทบจะเป็นราคาที่ดีที่สุดแล้วมั้ง ในตอนนั้น" ผู้เสียหายร้องเรียนอาหารกลางวันเด็ก กล่าว
ข้อมูลจาก ชุดสืบสวน ปปช. ซึ่งตรวจสอบกรณีนี้ มานานกว่า 2 เดือน ยังพบเบาะแสว่า ผอ.ท่านนี้ เคยมีพฤติกรรมส่อทุจริตและเรียกรับผลประโยชน์ตั้งแต่ที่อยู่โรงเรียนเดิมย่านมีนบุรี แต่ชุดสืบสวนมองว่าเหตุผลที่ทำให้ไม่มีการร้องเรียน อาจเพราะใช้วิธีการประมูลแบบเฉพาะเจาะจง ลักษณะเดียวกับกรณีทุจริตโครงการอาหารกลางวันที่หลายๆ โรงเรียนที่มักไม่มีการร้องเรียน เพราะคนที่ประมูลกับผู้บริหารได้ประโยชน์ทั้งคู่
ทีมข่าว ยังได้ลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนเดินของ ผอ. คนดังกล่าว เพื่อไปคุยกับนักเรียน เพราะกลุ่มนี้จะกระทบมากสุด ข้อมูลที่บอกกันเป็นเสียงเดียวกัน นั้นคือ อาหารกลางวันแต่ละมื้อที่น้อย
"มันน้อยมากๆ ไม่กล้าไปเติมซ้ำ เพราะกลัวเพื่อนไม่ได้กิน ถ้าพวกหนูลงมาช้า พวกหนูก็จะได้กินน้อย เวลากลับไปบ้านมันแบบหิวมากๆ เลย มันไม่อิ่ม ถ้ากินที่โรงเรียน ตอนที่ ผอ.คนนี้ย้ายไป ข้าวก็เยอะขึ้น กินแล้วอิ่ม ผอ.ใหม่ดีอยู่ค่ะ" นักเรียน รร.ย่านมีนบุรี กล่าว
สอดรับกับข้อมูลของผู้ปกครอง ที่เคยขอเข้าไปประมูลขายอาหาร เปิดเผยว่า ถ้าไม่ใช่คนใน ก็ไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวได้
อย่างที่หนึ่งในผู้ปกครองบอกไปถ้าคน 2 กลุ่ม ที่ได้ประโยชน์ทั้งคู่มาอยู่รวมกันก็ยากที่จะตรวจสอบ แต่ยังไงก็ต้องตรวจสอบกันต่อ คดีการทุจริตโครงการอาหารกลางวันล่าสุด ผอ.ท่านที่ถูกจับยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
และจากการตรวจสอบเพิ่มเติมจาก ผู้บังคับการ ปปป. ยืนยันว่า หลักฐานที่มีเอาผิด ผอ.คนนี้ได้แน่นอน นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างการขยายผลอีกอย่างน้อย 10 โรงเรียน ในพื้นที่ กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด
