“ถ้าเอารถยนต์เอาจากถนนไม่ได้ เราจะไม่มีวันได้อากาศที่ดีคืนมา” ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC-CEUS) ชี้ สาเหตุปัญหามลภาวะทางอากาศจากฝุ่น PM 2.5 เกิดจากรถยนต์บนท้องถนน หากเมืองไม่สามารถแก้ไขปัญหาจากการจราจรได้สำเร็จ ก็ไม่มีทางแก้ไขปัญหามลภาวะอากาศจากฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างยั่งยืน
ด่วน!! กทม. สั่งงดก่อสร้าง ห้ามเผา ปิดโรงเรียน แก้วิกฤตฝุ่น PM2.5
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิรมล เสรีสกุล ผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC-CEUS) เปิดเผยว่า ปัญหามลภาวะทางอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีสาเหตุสำคัญจาก การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของรถยนต์บนท้องถนน
“กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีปริมาณรถยนต์มหาศาลสวนทางกับสัดส่วนพื้นที่ถนน ก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดและยิ่งเป็นสาเหตุของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และมลภาวะทางอากาศที่เกิดขึ้นซ้ำเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะช่วงปลายปีถึงต้นปี”
ห้ามเผาใน กทม.-ปริมณฑล แก้ฝุ่นPM 2.5 วอนปชช.ลดใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หันใช้สาธารณะแทน
สัดส่วนรถยนต์ในกรุงเทพฯ ไม่สอดคล้องกับพื้นที่ถนน
ถ้าไปดูข้อมูล ของกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า ตัวเลขรถยนต์จดทะเบียนในกรุงเทพฯ มีสูงถึง 11 ล้านคันและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึงปีละกว่า 300,000 คัน หรือร้อยละ 17 ซึ่งสูงกว่าทุกเมืองในโลก
สอดคล้องกับ ข้อมูลของ UddC-CEUS ยังชี้ว่า สัดส่วนรถยนต์ในกรุงเทพฯ ไม่สอดคล้องกับพื้นที่ถนน ที่มีเพียงร้อยละ 7 ขณะที่เมืองที่ดีควรมีพื้นที่ถนนร้อยละ 25-30 ของพื้นที่ทั้งหมด ประกอบกับ เป็นเมืองที่ผู้คนต้องพึ่งพารถยนต์ตลอดเวลา จึงทำให้กรุงเทพฯ มีสภาพการจราจรติดขัด
ยิ่งรถติดยิ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็น 2 เท่า
ข้อมูลชี้ ว่า เมื่อรถติดจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ 400 กรัม ต่อ 1 กิโลเมตร ขณะที่ผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยบอกว่า รถยนต์ในกรุงเทพฯ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากเท่ากับตึกมหานคร 23,000 ตึกต่อปี ซึ่งเป็นปัญหาของเมืองที่น่ากังวลและต้องเร่งหาทางออกอย่างเร่งด่วน
ปั้นเมืองเดินได้-เมืองกระชับ ลด PM 2.5
คนกรุงเทพฯ ยินดีที่จะเดินเท้าในระยะ 800 เมตร ซึ่งเทียบเท่าผู้คนในเมืองพัฒนาแล้ว เช่น ฮ่องกง โตเกียว นิวยอร์ก ฯลฯ จึงควรสนับสนุนให้เกิดการฟื้นฟูเมืองเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนหันมาเลือกวิธีการสัญจรด้วยการเดินเท้าและปั่นจักรยาน พร้อมกับพัฒนาระบบขนส่งมวลชนคุณภาพ อันเป็นแนวทางสำคัญในการแก้ไขปัญหามลภาวะทางอากาศและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
โดยมีข้อเสนอแนวทางแก้ไขมลภาวะทางอากาศ 2 แนวทางคือ
1.ส่งเสริมให้คนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเดินทาง นั่นแปลว่าต้องส่งเสริมระบบขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพ รวมทั้งส่งเสริมการเดินทางที่ไม่ใช้รถยนต์ (non-motorized transportation) อย่างการเดินเท้าและการปั่นจักรยาน
2.เมืองต้องลดการเดินทางของผู้คน ต้องเป็นเมืองกระชับ (compact city) ที่บ้านและงานอยู่ไม่ไกลกัน ภายในย่านมีทั้งที่อยู่อาศัย แหล่งงาน แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ แหล่งจับจ่ายใช้สอย เพื่อเอื้อให้ผู้คนใช้ชีวิตในย่านนั้นๆ ได้โดยไม่ต้องเดินทางไกล หรือถ้าต้องการเดินข้ามย่าน ก็ใช้ระบบขนส่งมวลชนคุณภาพ
“ปัญหามลภาวะทางอากาศถือเป็น wake up call ที่ทำให้ทุกฝ่ายตื่นตัว และยอมรับว่าปัญหาเมืองเป็นเรื่องของทุกคน”