กรมชลฯ เผย “วิกฤตน้ำเค็ม” คลี่คลาย แต่มาอีกระลอก 18-19 ก.พ. ชี้ทะเลหนุนตลอดเดือน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรมชลประทาน เผยค่าความเค็มแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังปรับแผนระบายน้ำ พร้อมเตรียมรับมือค่าความเค็มจะขึ้นสูงอีกครั้ง 18-19 ก.พ. นี้

ชาวนนทบุรี วอนหน่วยงานแก้ปัญหาน้ำประปาเค็ม

ค่าความเค็มน้ำประปา กทม.พุ่ง เพจดัง หวั่นกระทบกลุ่มเสี่ยง ความดัน -หัวใจ-ไต-เด็กทารก

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2564 นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยหลังการประชุมมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า ส่วนสถานการณ์น้ำค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน เมื่อเวลา 07.00 น. ที่สถานีสูบน้ำประปา-สำแล วัดค่าความเค็มได้ 0.14 กรัมต่อลิตร (เกณฑ์เฝ้าระวัง 0.25 กรัมต่อลิตร มาตรฐานเพื่อการผลิตน้ำประปาไม่เกิน 0.50 กรัมต่อลิตร) ที่สถานีปากคลองจินดา แม่น้ำท่าจีน วัดค่าความเค็มได้ 0.46 กรัมต่อลิตร (เกณฑ์เฝ้าระวังสำหรับกล้วยไม้ 0.75 กรัมต่อลิตร เกณฑ์เฝ้าระวังเพื่อการเกษตรไม่เกิน 2 กรัมต่อลิตร) ที่สถานีวัดน้ำปากคลองดำเนินสะดวก แม่น้ำแม่กลอง วัดค่าความเค็มได้ 0.15 กรัมต่อลิตร (เกณฑ์เฝ้าระวังสำหรับกล้วยไม้ 0.75 กรัมต่อลิตร เกณฑ์เฝ้าระวังเพื่อการเกษตรไม่เกิน 2 กรัมต่อลิตร) 

ทั้งนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมชลประทานได้ปรับแผนการระบายน้ำ และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการควบคุมค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ปัจจุบันสามารถควบคุมค่าความเค็มให้อยู่ในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปา อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันที่ 18-19 ก.พ. 64 นี้ ค่าความเค็มจะขึ้นสูงอีกครั้ง กรมชลประทาน ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักเป็น 75 ลบ.ม./วินาที ในวันที่ 16 ก.พ.64 ตั้งแต่เวลา 06.00น. เป็นต้นไป ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนพระรามหกจาก 45 ลบ.ม./วินาที เป็น 60 ลบ.ม./วินาที และตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. 64 สูบผันน้ำจากแม่น้ำท่าจีนผ่านคลองพระยาบรรลือ ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่ ปตร.สิงหนาท 2 ในอัตรา 18 ลบ.ม./วินาที เพื่อผลักดันค่าความเค็มดังกล่าว นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำทะเลหนุนตลอดช่วงเดือนนี้ พร้อมประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์น้ำให้แก่ประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามปัจจุบันอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 42,980 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 57 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีน้ำใช้การได้รวมกันประมาณ 19,049 ล้าน ลบ.ม. จนถึงขณะนี้มีการใช้น้ำไปแล้ว

TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ