จอห์นสันฯ เสนอขายวัคซีนให้ไทยราคาทุน
WHO แนะใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาแม้ต้านโควิดกลายพันธุ์ต่ำ
องค์การยาแห่งยุโรป หรือ EMA ประกาศอนุมัติการใช้วัคซีนต้านโควิดของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา คำประกาศนี้ได้รับการยืนยันผ่านทวิตเตอร์ของ นางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมการสหภาพยุโรป โดยระบุว่า วัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเจ้าใหม่กำลังจะมาถึง ข่าวล่าสุดส่งผลให้ขณะนี้วัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน นับเป็นวัคซีนต้านโควิดตัวที่ 4 แล้วที่ใช้ในสหภาพยุโรป ตามหลังวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์, แอสตราเซเนกา และโมเดอร์นา
คำประกาศของสหภาพยุโรปมีขึ้น หลังจากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทางองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ ก็เพิ่งจะอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันเป็นการฉุกเฉินไป ข้อโดดเด่นของวัคซีนชนิดนี้ก็คือ ใช้เพียงโดสเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการป้องกันไม่สูงเท่ากับของไฟเซอร์และโมเดอร์นา แต่ก็ถือว่าสูงในระดับผ่านเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก โดยสามารถป้องกันผู้ติดเชื้อที่มีอาการปานกลางไปจนถึงอาการรุนแรง ร้อยละ 66
การอนุมัติล่าสุดนี้นับเป็นคำประกาศสำคัญ เพราะไม่เพียงช่วยเติมปริมาณวัคซีนเข้าไปในตลาด ที่ขณะนี้กำลังขาดแคลนจากปัญหาการผลิต แต่วัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ยังมีราคาถูกกว่าอีกด้วย
โดยวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน มีราคาราวโดสละ 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 300 บาท ขณะที่วัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นามีราคาราวโดสละ 20-33 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 600-990 บาท ซึ่งไฟเซอร์และโมเดอร์นาได้พัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด 2 โดส หมายความว่า วัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นาจะแพงกว่า 4-6 เท่า
ส่วนการจัดเก็บ วัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันสามารถจัดเก็บได้ในอุณหภูมิปกติ 2-8 องศาเซลเซียส ด้านวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นาต้องถูกเก็บรักษาไว้ในอุณหภูมิต่ำมากๆ ราว -20 ถึง -70 องศาเซลเซียสหากต้องการเก็บรักษานานหลายเดือน
อย่างไรก็ตามด้วยคุณลักษณะที่ใช้เพียงโดสเดียว อีกทั้งยังผลิตจากเทคโนโลยีแบบเก่า คือใช้เชื้อตายหรือเชื้อที่อ่อนแอ ส่งผลให้มีต้นทุนถูกกว่าวัคซีนจากไฟเซอร์และโมเดอร์นาที่ใช้เทคโนโลยี RNA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่
ผู้คนจำนวนไม่น้อยเลยตั้งข้อสังเกตว่า ประสิทธิภาพตลอดจนภูมิคุ้มกันที่ได้ จะเทียบเท่ากับวัคซีนแบบสองโดสหรือไม่
ประเด็นนี้ล่าสุด พอล สโตฟเฟลส์ รองประธานคณะกรรมการบริหารและ หัวหน้าเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ออกมาสร้างความมั่นใจโดยระบุว่า วัคซีนของเขาผ่านการทดสอบที่ยืนยันได้ถึงประสิทธิภาพ และยังไม่พบว่ามีเคสที่เจ็บป่วย หรือมีอาการข้างเคียงรุนแรงหลังการฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ทางจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ระบุว่า วัคซีนล็อตแรกจำนวน 55 ล้านโดสจะพร้อมแจกจ่ายให้กับสหภาพยุโรปในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ หรือราวเดือนเมษายน ส่วนเป้าหมายใหญ่กว่านั้นทางบริษัทตั้งเป้าไว้ว่า ในปี 2022 จะผลิตวัคซีนให้ได้ราว 2,000 ล้านโดส สำหรับแจกจ่ายไปทั่วโลก