หมอเผยความจริง อย่าติดโควิดเลย หมอน้อย อาการหนักเยอะ เครื่องช่วยหายใจ เครื่องช่วยชีวิตขาดจริงหรือ!
เริ่มเคอร์ฟิว! ยะลา ประเดิม จับตาชายแดนใต้ เช็กจังหวัดสั่งงดออกนอกเคหสถานยามวิกาล
เฟซบุ๊กส่วนตัวของรศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ขอรับบริจาคเงิน เพื่อซื้อเครื่องไฮโฟลว์ ทั้งหมด 60 เครื่อง มูลค่า 12 ล้านบาท โดยจะนำมาใช้รักษาผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรง หลักการทำงานของเครื่องไฮโฟลว์ จะช่วยผู้ป่วยหายใจด้วยอัตราการไหลของอากาศสูงถึง 60 ลิตรต่อนาที พร้อมให้ความชื้นอุณหภูมิที่เหมาะสมผ่านทางสายเข้าจมูก ในความเข้มข้นของออกซิเจนคงที่
ซึ่งจะช่วยกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ที่ค้างในโพลงหลังจมูก เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายเสมหะ และเพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกาย ทำให้ชะลอการลุกลามของปอดอักเสบไม่ให้รุนแรง
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ อธิบายว่า ในจำนวนทั้งหมดของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มีปริมาณ 5 เปอร์เซนต์ ที่จะพบมีอาการปอดอักเสบรุนแรงโดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และใส่เครื่องช่วยหายใจ โดยผู้ที่ใส่เครื่องช่วยหายใจก็จะมีความเสี่ยงเสียชีวิตถึง 35 – 50 เปอร์เซ็นต์ การนำเครื่องมือนี้มาช่วยควบคู่กับการรักษาโดยใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ และยาสเตียรอยด์ จะช่วยชะลอ และลดจำนวนคนไข้ที่จะต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ หรือหากต้องใส่เครื่องช่วยหายใจในไอซียู ก็จะช่วยลดจำนวนวันลง เหลือ 10 วัน หรือในบางคนเหลือ 3-5 วัน จากเดิมผู้ป่วยอยู่ในห้องไอซียู เฉลี่ย 20 – 30 วัน
ส่วนการระบาดระลอกนี้ ที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ป่วยโควิด-19 มีอาการปอดอักเสบรุนแรงและเร็วขึ้น รศ.นพ.นิธิพัฒน์ ระบุว่า อัตราการเกิดภาวะปอดอักเสบรุนแรงไม่ได้แตกต่างจากการระบาดระลอก 1 และระลอก 2 แต่ครั้งนี้พบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดจึงดูเหมือนสถานการณ์ปอดอักเสบรุนแรงกว่า
หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ยังประเมินตัวเลขผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยหายใจวันนี้ 270 คน จะเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 50-70 คน ในอีก 10 วันข้างหน้า จึงเสนอให้รัฐบาลมีการจัดหาเครื่องไฮโฟลว์ให้กับโรงพยาบาลต่างๆโดยเร็ว