พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การกำหนดเวลาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่กทม.เจ้าหน้าที่ไม่ได้เน้นไปที่เรื่องหลักนิติศาสตร์ แต่ถ้าหากขายเกินก็ย่อมผิดกฎหมายแน่นอน โดยในช่วงนี้จะเน้นสร้างความเข้าใจกับประชาชนก่อน
ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการขอเพิ่มเวลานั่งดื่มจาก 21.00 น.เป็น 23.00 น. ผู้ว่าฯ กทม.ระบุว่าจะขอดูสถานการณ์อีกระยะหนึ่งและจะประเมินทุกๆ 14 วัน หากสถานการณ์ทรงตัวหรือดีขึ้นก็อาจพิจารณาขยับเวลาให้ดึกขึ้น โดย กทม.จะหารือกับกระทรวงสาธารณสุข
ผู้ว่าฯกทม.ย้ำเสียงแข็ง ผับ-บาร์ยังไม่เปิด
ถ.ข้าวสาร แนะรัฐควรแจ้งมาตรการก่อนเปิดประเทศ
ก่อนหน้านี้ ผู้ว่าฯกทม.เคยลงพื้นที่และแนะนำ ประชาชนว่ากรณีถ้าดื่มไม่หมดภายในเวลา 21.00 น.ให้รีบดื่มให้หมด หรือไม่ก็ให้เททิ้งไปทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทำนองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผล
ทีมข่าวพีพีทีวีได้พูดคุยเรื่องนี้กับ นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับให้ความเห็นว่า ถึงแม้จะมีการจำกัดเวลาในการดื่มไม่เกิน 3 ทุ่ม แต่นักดื่มไม่ควรดื่มเหล้าแบบรวดเดียวหมด เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากๆอย่างรวดเร็วจะเกิดอันตรายอย่างยิ่งต่อร่างกายถึงขั้นเกิดภาวะช็อกจนเสียชีวิตทันทีได้ เนื่องจากแอลกอฮอล์ถือเป็นสารพิษชนิดหนึ่ง เมื่อร่างกายได้รับแอลกอฮอล์ปกติจะถูกขับออกมาอย่างรวดเร็วผ่านทางเหงื่อ ลมหายใจ ปัสสาวะ ถ้าระบบร่างกายขับแอลกอฮอล์ออกมาไม่ทันจะทำให้ไปปิดกั้นการทำงานของสมองส่งผลให้เกิดภาวะหยุดหายใจเฉียบพลัน
นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการแพร่เชื้อได้ง่ายมาก เพราะพฤติกรรมของคนเมามักจะขาดสติ มีการตะโกน กอดคอกัน แม้ว่าจะมีการจำกัดเวลาในการดื่ม นายแพทย์แท้จริง ก็มองว่า ก็ไม่ได้มีผลมากนักในแง่ของการควบคุมโรค ถ้าหากคิดจะออกไปดื่มจริงๆควรจะวางแผนดีๆ ค่อยๆดื่มไปเรื่อยๆจะดีกว่า หากทานไม่หมดก็ไม่ควรจะใช้วิธีการกระดกรวดเดียวหมด