คำสัมภาษณ์เปิดใจของนักเรียนคนแรกที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดของโรงเรียนคำสร้อยพิทยาสรรค์ โดยนักเรียนคนนี้มีชื่อว่าเด็กหญิงนิสา กลางประพันธ์ อายุ 14 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นิสา ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวเมื่อเช้านี้ ตอนที่เธอยังอยู่ในโรงพยาบาลสนาม และ เพิ่งทราบว่า จริงๆแล้วเธอและเพื่อนๆ ไม่ได้ติดโควิด แต่ผลการตรวจคลาดเคลื่อน ทำให้ตอนที่คุยกัน นิสา ยิ้มได้ และ บอกกับทีมข่าวว่า รู้สึกโล่งใจมาก ที่ไม่ได้เป็นต้นเหตุการระบาดในโรงเรียน
รอดหมด! รร.คำสร้อยพิทยาสรรค์ ผลตรวจโควิดซ้ำ "เป็นลบ" ปล่อยเด็กกลับบ้านแล้ว - สั่งปิดเรียน on site
ตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยงที่รู้ว่าตัวเองและเพื่อนเกือบ 100 คน ติดเชื้อโควิด เธอเครียดและรู้สึกผิดมาก ช่วงที่คุณครูพาตัวเธอและเพื่อนรวม 5-6 คนไปกักตัวที่ห้องพยาบาล เธอร้องไห้ กลางวงเพื่อนเพราะ คิดว่า เป็นต้นตอการระบาด เมื่อคืนก็นอนไม่หลับทั้งคืน
นิสา เล่าย้อนเหตุการณ์ ว่า เมื่อวาน คุณครูประจำชั้นเดินมาสอบถามเรื่องคนในหมู่บ้านเธอที่ติดเชื้อโควิด เธอยอมรับว่าเป็นความจริง แต่ได้ยืนยันว่าในครอบครัวยังไม่มีใครติด หรือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง แต่เพื่อความสบายใจ ครูประจำชั้นจึงให้เธอตรวจหาเชื้อโควิด พบออกมาเป็นบวก หมายถึง เธอติดเชื้อโควิด ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก จากนั้นคุณครูเรียกเพื่อนสนิทของเธอรวม 5-6 คน มาตรวจหาเชื้อโควิด เพราะ เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ผลปรากฎว่า เพื่อนทุกคนมีผลเป็นบวกเหมือนกัน จึงถูกพาไปตรวจ RT-PCR โดยมีแพทย์และพยาบาลตรวจให้ รวมถึงถูกแยกกักตัว
จากนั้น คุณครู ไปประกาศเสียงตามสาย สั่งให้ทั้งโรงเรียนหยุดการเรียนการสอนให้นักเรียนทุกคนในโรงเรียนลงไปรวมตัวกันที่สนาม ส่วนห้องเรียน ม.3/1 ของนิสา และห้องเรียน ม.3/2 ซึ่งอยู่ติดกัน คุณครูให้แยกตรวจโควิดในห้องเรียน เพราะ เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง
ช่วงแรกพบการติดเชื้อรวม 40-50 คน ก่อนที่ต่อมาจะเพิ่มเป็น 86 คน โดยคุณครูแยกคนที่มีผลเป็นบวก ออกจากนักเรียนส่วนใหญ่ และให้แพทย์และพยาบาลจากสาธารณสุขจังหวัดเข้ามาทำ RT-PCR ให้ จากนั้นช่วงเย็นถึงค่ำ มีการทยอยลำเลียงนิสาและเพื่อนๆที่ผลเป็นบวกไปโรงพยาบาลสนามวัดภูด่านแต้
นิสา บอกอีกว่าเหตุการณ์ผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ไม่ได้เตรียมข้าวของมากักตัว เพื่อนบางคนก็ไม่มั่นใจในความสะอาด ทำให้หลายคนไม่กล้าอาบน้ำ แต่ส่วนตัวเธอมองว่าเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดี มั่นใจในสุขลักษณะ หลังจากออกจากโรงพยาบาลสนามแล้ว แพทย์ประเมินว่าเธอสามารถกลับออกไปใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องกักตัว
ส่วนข้อกังวลที่หลายคนมองว่า กลุ่มนักเรียนถูกพาไปอยู่โรงพยาบาลสนาม แม้ว่าสุดท้ายจะพบว่าไม่ติดเชื้อ แต่เมื่อเข้าไปในโรงพยาบาลสนามแล้ว เข้าข่ายมีความเสี่ยงหรือไม่ นิสา บอกว่า ที่โรงพยาบาลสนามที่เธอไปอยู่ มีแค่กลุ่มนักเรียนเท่านั้น ไม่มีคนติดเชื้อโควิดคนอื่นๆ
ทั้งนี้หลังจากนิสาคุยกับทีมข่าวพีพีทีวีเสร็จ ไม่นานเธอและเพื่อนๆก็ถูกส่งตัวกลับบ้าน ตามขั้นตอนทั้งหมดจะกลับไปเรียนออนไลน์ที่บ้านและสังเกตอาการต่อเนื่อง โดยจะมีอสม.สลับกันไปติดตามอาการ
