แพทย์แนะการรักษาพิษจากตะขาบที่ถูกต้อง ป้องกันการติดเชื้อทางผิวหนัง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรมการแพทย์ แนะนำการรักษาพิษจากตะขาบควรรักษาให้ถูกวิธีเพื่อบรรเทาอาการที่จะเกิดขึ้นเพราะพิษของตะขาบมีฤทธิ์ทำลายระบบประสาท

จากกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ว่า พบชายโดนตะขาบกัดแล้วนำคางคกมารักษาโดยการถูบริเวณแผลนั้น ในเรื่องนี้นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เผยว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดผิวหนังติดเชื้อได้มากขึ้นได้อีกด้วย เพราะโดยทั่วไปแล้วพิษของตะขาบจะมีฤทธิ์ทำลายระบบประสาท เละจะมีอาการทางผิวหนังที่พบได้บ่อยหลังโดนตะขาบกัด คือ อาการปวด บวม แดง หรือมีเหงื่อออกเฉพาะที่

แพทย์เตือน การฝังทรายบำบัดผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตเสี่ยงอันตรายอาจช็อกได้

“ต้อหิน”กับความเชื่อผิดๆที่เข้าใจกันไปเอง รักษาไม่ตรงจุดเสี่ยงตาบอด

 

 

 

นอกจากนี้อาจพบมีเลือดออกในบริเวณที่ถูกกัดได้ และโดยมากผู้ที่ถูกตะขาบกัดมักเกิดอาการชา ซึ่งเป็นผลมาจากพิษของตะขาบดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น หากไม่ได้รับการดูแลแผลที่ดี อาจลุกลามเกิดเป็นแผลลึกหรือมีการติดเชื้อตามมาได้ อย่างไรก็ดีในบางกรณีที่พบได้ไม่บ่อยนัก การถูกตะขาบกัดอาจทำให้เกิดอาการรุนแรงต่อระบบอื่น ๆ ในร่างกายได้ เช่น ภาวะหัวใจขาดเลือด ภาวะกล้ามเนื้อสลาย หรือไตวาย

ขณะที่แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การรักษาเบื้องต้นหลังถูกตะขาบกัด ควรทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาดก่อน หลังจากให้ปฏิบัติ ดังนี้ 1. ประคบด้วยน้ำแข็ง หรือแช่บริเวณที่ถูกกัดในน้ำอุ่นเพื่อลดอาการปวด 2. ใช้ยาแก้ปวดชนิดรับประทานหรือสเปรย์ลดอาการปวด 3. รับประทานยาแก้แพ้กลุ่ม antihistamines 4. ผู้ที่ถูกตะขาบกัดควรได้รับการฉีดวัคซีนบาดทะยัก และ 5.รับประทานยาฆ่าเชื้อหากพบว่ามีการติดเชื้อที่ผิวหนังร่วมด้วย

ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้ความเห็นว่าการใช้วิธีนำคางคกหรือสิ่งอื่นใดมาถูหรือพอกบริเวณที่ถูกกัดนั้น จะยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ผิวหนังได้มากขึ้น หากมีความผิดปกติหรืออาการแพ้รุนแรงเกิดขึ้นหลังถูกตะขาบกัด แนะนำให้รีบไปพบแพทย์แพทย์ทันที

TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ