สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองในประเทศวันหยุด
เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด จ่อยับอีก 0.50-0.75% ในเดือนก.ย.
ผลกระทบแบงก์ไทย หากเลื่อนขึ้นดอกเบี้ยเพื่อช่วยลูกหนี้
- ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 30,000.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 30,100.00 บาท/บาททองคำ
- ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 29,455.88 บาท/บาททองคำ และขายออก 30,600.00 บาท/บาททองคำ
ทองคำในประเทศ ยังอ้างอิงตลาดสปอต 1,735.50 ดอลลาร์/ออนซ์ อิงเงินบาทที่ 36.67 บาท/ดอลลาร์
โดยราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 1% หลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐขยับลง แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด
แต่นักลงทุนตีความคำแถลงของประธานเฟด คาดว่าจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยแรงเหมือนสองครั้งที่ผ่านมา
ราคาทองคำตลาดสปอต เพิ่มขึ้นกว่า 1% เคลื่อนไหวที่ระดับ 1,735 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนทองคำฟิวเจอร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.1% เคลื่อนไหวที่ระดับ 1,720 ดอลลาร์/ออนซ์
เทรดเดอร์ล่าวว่านักลงทุนคาดว่าเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยแรงเหมือนสองครั้งที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลดีต่อราคาทองคำ ในขณะที่ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจยังมีอยู่ รวมทั้งภาวะสงคราม
อย่างไรก็ตาม ราคาทองขยับขึ้นจำกัด จากแรงกดดันจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนก.ย. เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ไม่มีผลตอบแทน
โดยราคาทองสปอตแกว่งตัวในกรอบแคบต่อเนื่องจากการซื้อขายต้นสัปดาห์ เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกดดันให้ราคาทองอ่อนตัวลง ในขณะที่เงินบาทที่อ่อนค่าลงเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองในประเทศ ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐส่งให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองให้อ่อนตัวลง
ประเด็นหลักที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวต่อราคาทองยังอยู่ที่สถานการณ์เงินเฟ้อและทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐ โดยในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง จนนักลงทุนต่างประเมินว่าเงินเฟ้อในเดือนนี้อาจเริ่มชะลอตัวลง
และจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยตามที่เคยประเมิน ส่วนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงค่ำที่ผ่านมานั้น มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% จาก 1.75% สู่ระดับ 2.5% ตามที่นักลงทุนส่วนใหญ่ประเมิน
ธนาคารกลางสหรัฐยังคงให้ความสนใจกับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเวลาต่างๆเพื่อเป็นข้อมูลปรับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งโดยรวมแล้วเงินเฟ้อในเดือนนี้แม้จะเริ่มทรงตัวหรืออาจปรับลงตามราคาน้ำมัน แต่ยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูง ทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐในภาพรวมจึงยังมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นต่อ และจะเป็นปัจจัยกดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองผ่านการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ต่อไป
“การบินไทย” ไตรมาส 1 ขาดทุนลดลง 73% ที่ 3,243 ล้านบาท
เศรษฐกิจปี 65 เฝ้าระวังความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลกและหนี้ครัวเรือน
ภาพเทคนิคของราคาทองยังมีแนวโน้มฟื้นตัว โดยมีแนวรับสำหรับซื้อเก็งกำไรอยู่ที่บริเวณ 1,710-1,715 ดอลลาร์ และมีจุดขายตัดขาดทุนอยู่ที่ 1,700 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านของวันบริเวณ 1,740-1,745 ดอลลาร์ หากสามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ ก็จะเป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวขึ้นไปยังแนวต้านบริเวณ 1,760-1,770 ดอลลาร์ ต่อไป
