นักบิน สู่ ปาท่องโก๋พรีเมียม ปั้น Brand Story ดึงลูกค้า

หลายครั้งที่เราอาจจะเคยได้ยินว่า มีผู้ประกอบการเริ่นต้นทำธุรกิจเพราะต้องการที่จะประสบความสำเร็จ อยากร่ำรวย แต่ก็ธุรกิจไม่น้อยที่เกิดขึ้นจากแรงกดดัน หรือ ความกังวล ความกลัวในชีวิต อย่างธุรกิจนี้ก่อตั้งจากการที่เจ้าของธุรกิจกลัวว่าจะตกงาน หรือ ถูกเลิกจ้างจากการเป็นพนักงานประจำ นั่นคือ “แบรนด์  โก๋ นักบิน” ปาท่องโก๋พรีเมียม

ชูคาแรคเตอร์สุดกวน ปั้น โกโก้ร้านไอ้ต้น สู่แฟรนไซส์ 220 สาขา ใน 1 ปี

โอม คาเฟ่ ร้านกาแฟสุดปัง ดังเพราะมู (เก็ตติ้ง)

คุณณัฐธร และขวัญ เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ โก๋ นักบิน ปาท่องโก๋พรีเมียม เล่าให้ฟังว่า เริ่มมีความคิดริเริ่มอยากทำปาท่องโก๋ขาย

 

 

 

เพราะความไม่แน่นอนช่วงโควิดระบาด ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เป็นช่วงจุดเปลี่ยน จากเดิมคิดว่าการเป็นนักบินของสายการบินชื่อดัง เป็นความมั่นคงในชีวิต

แต่ทันทีที่ทราบว่ามีโอกาสถูกปลดจากการเป็นนักบินเพราะสถานการณ์โควิด ทำให้ คุณณัฐธร เปลี่ยนความคิดเริ่มอยากหาทางเลือกสำรองให้กับตัวเองและครอบครัว ประกอบกับในช่วงเวลานั้นได้ไอเดีย จากกระแสคนแห่ไปซื้อปาท่องโก๋ของสายการบินไทย จึงคิดว่า น่าจะลองเอามาปรับสูตรเป็นของตนเอง และลองขายดู ปรากฎว่าเมื่อลองขายก็ได้รับการตอบรับอย่างดี

สร้างเรื่องราวให้กับแบรนด์ (Brand Story) กลยุทธ์สร้างภาพจำ โก๋ นักบิน ปาท่องโก๋พรีเมียม

สำหรับสาเหตุที่แบรนด์ โก๋ นักบิน ปาท่องโก๋พรีเมียม ได้รับการตอบรับที่ดี คุณณัฐธร เชื่อว่ามาจากการสร้างเรื่องราวให้กับแบรนด์ (Brand Story) ให้เป็นภาพจำว่า เจ้าของแบรนด์เป็นนักบินที่ได้รับผลกระทบจากโควิด แล้วหันมาขายปาท๋องโก๋ รวมถึงโลโก้สะดุดตาเป็นที่จดจำได้ง่าย ลูกค้าจึงหันมาให้ความสนใจ และที่สำคัญจุดขายของแบรนด์ คือ ปาท่องโก๋พรีเมียม เป็นปาท่องโก๋ตัวใหญ่ เปลี่ยนน้ำมันทุกวัน ที่ไม่ใส่แอมโมเนีย สารกันเสีย บอแร็กซ์ หรือ น้ำประสานทอง แต่รสสัมผัสยังยังคงกรอบนอกนุ่มใน สินค้าจึงออกมาโดดเด่นไม่เหมือนแบรนด์อื่นๆที่มีอยู่ในท้องตลาด ลูกค้าทุกเพศ ทุกวัยชื่นชอบได้รับการตอบรับมาตลอด 2 ปี

ภายใน 2 ปี ขยายแฟรนไชส์ได้ 119 สาขา ปี 66 เตรียมขยายสาขาบริหารเอง 50 สาขา

การคัดเลือกผู้รับสิทธิ์ในการดำเนินธุรกิจ หรือ แฟรนไชส์ซี (Franchisee) ทั้ง 119 สาขา คือ สิ่งที่เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ โก๋ นักบิน ให้ความสำคัญมาก โดยจะมีการฝึกอบรมแฟรนไชส์ซีแบบตัวต่อตัวด้วยตนเอง ให้ความสำคัญกับสินค้าในเรื่องความสะอาด คุณภาพ ชิมก่อนขาย เพื่อให้สินค้าเป็นไปตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ ก่อนจะปล่อยให้แฟรนไชส์ซีจำหน่ายสินค้าจริงแก่ลูกค้า รวมถึงช่วยแฟรนไชส์ซี คัดเลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมกับแบรนด์อีกด้วย

“เราต้องมี Motto(คติ) ของแบรนด์ คือ ในการสอนแฟรนไชส์ซี ผมจะสอนด้วยตัวเองทุกครั้ง คือ ผมจะใส่ทัศนคติให้กับแฟรนไชส์ซี ต้องสะอาด คุณภาพต้องดี อร่อย ชิมก่อนขาย ก่อนจะปล่อยให้ลูกค้าได้”

คุณณัฐธร และขวัญ เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ โก๋ นักบิน

สำหรับ 119 สาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน เป็นการขยายธุรกิจแบบขายแฟรนไชส์ทั้งหมด ส่วนในปี 2566 นี้ คุณณัฐธร เตรียมเพิ่มทีมงานเพื่อขยายสาขาและบริหารเอง 20-50 สาขา รวมถึงภาพรวมของธุรกิจจะมีการพัฒนาสินค้าเพิ่มขึ้น เช่น ปาท่องโก๋เคลือบ ปาท่องโก๋ย่าง และ น้ำเต้าหู้ เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายยอดขายได้มากขึ้น

ซื่อสัตย์ทุกอาชีพ ทำงานหลักให้ดี งานเสริมค่อยหา Passion

คุณณัฐธร เล่าว่า ตอนเริ่มต้นทำธุรกิจมันเกิดจากช่วงที่สถานการณ์บีบบังคับให้ชีวิตต้องบริหารความเสี่ยง เพราะความกลัวว่าจะตกงาน การทำธุรกิจจึงเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยส่วนตัวเขาเป็นคนมองโลกในแง่ดี จึงคิดว่าถ้าถูกสั่งปลดจากการเป็นพนักงานก็คงหันมาขายปาท๋องโก๋  ถือเป็นการวางแผนสำรองให้กับชีวิต ซึ่งแนวความคิดนี้ก็ประยุกต์มาจากการเป็นนักบิน เพราะต้องวางแผนสำรองในการทำงานอยู่เสมอ จึงนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตและการทำธุรกิจ และค่อยๆเรียนรู้ พัฒนาระบบธุรกิจ จนทำให้ประสบความสำเร็จในวันนี้

พร้อมทิ้งทายว่า การทำงานต้องมีความซื่อสัตย์กับทุกอาชีพ หากใครที่เป็นพนักงานประจำและอยากจะหารายเสริม หรือ อาชีพเสริม อย่างแรก ต้องมีทัศนคติที่ดีกับงานประจำก่อน อย่าบ่น อย่าเบื่อ ทำงานหลักออกมาให้เติมที่ เพราะหากทำงานหลักได้ดีก็จะสามารถจัดสรรเวลา หรือ คิดหารายได้เสริมเป็นทางเลือก ลองมองหางานเสริมที่เป็นความหลงไหล (Passion) เพราะหากทำออกมาได้ดี ก็จะสามาถทำงานทั้งคู่ออกมาได้ดี

“ต้องมีความซื่อสัตย์ต่ออาชีพ งานที่ทำประจำอยู่ อย่าไปบ่น อย่าไปเบื่อ ทำให้เต็มที่ พองานมันออกมาดีแล้ว เรามีความคิดที่ดี เรามีเวลาว่าง เราก็ค่อยไปทำอย่างอื่น ทำอะไรที่มันเป็น Passion เราจะทำได้ดี พอเราทำได้ดี เราจะสามารถทำได้ควบคู่กันทั้งสองงานได้”

คุณณัฐธร และขวัญ เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ โก๋ นักบิน