ด่วน! พิพากษาประหารชีวิต 'บรรยิน' อุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ให้การเป็นประโยชน์เหลือคุกตลอดชีวิต


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ศาลอาญาคดีทุจริตและพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษา คดีที่ "บรรยิน ตั้งภากรณ์"และพวก รวม 6 คน ในคดีอุ้มฆ่าอำพรางศพ พี่ชายผู้พิพากษา

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 15 ธันวาคม ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและพฤติมิชอบกลาง ถนนนครไชยศรี เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคเพื่อไทยหลายสมัยจำเลยในคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาอาวุโส ศาลอาญากรุงเทพใต้ จากเรือนจำบางขวางมายังศาล เพื่อฟังคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำ อท.69/2563 

เปิดประวัติ “บรรยิน” อดีตรมช.สู่ ผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่า

ย้อนรอยคดี“เสี่ยชูวงษ์” ปริศนาโยง “บรรยิน” เอี่ยวอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา

คดีนี้ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 56 ปี  กับพวก  นายมานัส ทับทิม อายุ 67ปี นายณรงค์ศักดิ์ ป้อมจันทร์ อายุ 48ปี  นายชาติชาย เมณฑ์กูล อายุ 31 ปี  นายประชาวิทย์ หรือตูน ศรีทองสุข อายุ 33 ปี และ ด.ต.ธงชัย หรือ สจ.อ๊อด วจีสัจจะ อายุ 63 ปี ทั้งหมดภูมิลำเนา จ.นครสวรรค์ เป็นจำเลยที่ 1-6 ก่อเหตุอุ้มฆ่า อำพรางศพ นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งเป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนที่ พ.ต.ท.บรรยิณ เป็นจำเลยคดีโอนหุ้น จากนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือ “เสี่ยจืด” นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เพื่อบีบบังคับให้ผู้พิพากษาเอนเอียงเข้าข้างตน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในตอนนั้นส่งกำลังตำรวจกองปราบปราม ไปจับกุมตัวพ.ต.ท.บรรยิน ได้เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2563 หลังหลักฐานปรากฏชัดว่า เขาเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของพี่ชายผู้พิพากษา โดยมีภาพวงจรปิด ข้อมูลเยี่ยมโยงจุดฆ่า เผาอำพรางศพ

วงจรปิดมัด “บรรยิน” อุ้มพี่ชายผู้พิพากษา ชำแหละยัดถุงทิ้งเจ้าพระยา

คดีนี้อัยการสั่งฟ้อง ในความผิดหลายข้อหา

ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 289

ฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้ใดเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอาตัวไปถึงแก่ความตาย มาตรา 309, 313

ฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มาตรา 310

ฐานร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป มาตรา 139, 140

ฐานเป็นซ่องโจร โดยสมคบกันเพื่อกระทำผิดที่มีระวางโทษประหารชีวิต มาตรา 210

ฐานร่วมกันพยายามข่มขืนใจผู้อื่น ให้กระทำการใดโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป มาตรา 213

ฐานร่วมกันซ่อนเร้น ทำลายศพเพื่อปิดบังการตายและสาเหตุการตาย มาตรา 199

ฐานร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นเพื่ออำพรางคดี

แจ้งข้อหาเพิ่ม 'บรรยิน ตั้งภากรณ์' ลุ้นชี้ชะตาคดีอุ้มฆ่า อำพราง พี่ชายผู้พิพากษา - ชูวงษ์

ศาลอาญาคดีทุจริตและพฤติมิชอบกลาง ได้ไต่สวนพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยแล้วเสร็จ จึงได้นัดฟังคำพิพากษาคดี

ลุ้นศาลตัดสิน! ย้อนคำสารภาพ 'บรรยิน' รับโกรธแค้น วางแผน อุ้ม รีด ข่มขู่ อำพรางศพ พี่ชายผู้พิพากษา

ศาลพิพากษาให้ประหารชีวิต พ.ต.ท.บรรยิน พร้อมพวก 5คน ที่ร่วมกันก่อเหตุอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา แต่จำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ยกเว้นจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นคนขับรถ พิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต แต่ศาลเห็นให้การเป็นประโยชน์จึงลดโทษเหลือจำคุก 33 ปี 4เดือน โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้มีหลักฐานชัดเจน ทั้งจากการสอบปากคำพยาน  และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์  โดยเป็นการกระทำความผิดในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ และพยานหลักฐานมีน้ำหนักเพียงพอที่จะชี้ชัดให้เห็นว่ากลุ่มจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุจริง  

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นจนถึงแก่ความตายฯ ลงโทษประหารชีวิต, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ ตาม ป.อาญา มาตรา 289(4)(7) ลงโทษประหารชีวิต, ฐานแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานฯ จำคุก 1ปี สวมเครื่องแบบเจ้าพนักงานฯ จำคุก 1 ปี, ซ่อนเร้นทำลายศพฯ จำคุก 4 ปี แต่จำเลยที่ 1 ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1 ใน 3 ทุกข้อหาคงจำคุกจำเลยที่ 1 ทั้งสิ้นตลอดชีวิตสถานเดียว

ส่วนจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานสนับสนุนให้กระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน

จำเลยที่ 3 กระทำผิดฆ่าโดยไตร่ตรอง (คนลงมือ) พิพากษาประหารชีวิต เเละกักขังหน่วงเหนี่ยวให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตาย พิพากษาประหารชีวิต ให้การเป็นประโยชน์ลดเหลือจำคุกตลอดชีวิต

จำเลยที่ 4-6 มีความผิดฐานร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายฯ(เรียกค่าไถ่) ลงโทษประหารชีวิต แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต โดยจำเลยที่ 1 ให้นับโทษต่อจากคดีโอนหุ้นจำคุก 8 ปี ของศาลอาญากรุงเทพใต้

ในการอ่านคำพิพากษา ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง และไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวอยู่ในห้องพิจารณาคดี แต่ให้แยกออกมานั่งอีกห้องพร้อมถ่ายทอดผ่านคอนเฟอเรนซ์ออกมา ให้ผู้สื่อข่าวฟังการพิจารณาคดี โดยการการอ่านคำพิพากษาในห้องพิจารณาคดีเป็นไปอย่างรัดกุม โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นั่งประกบจำเลย แบบ1ต่อ1

 

  

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ