อช.แก่งกระจาน ผลักดันชาวกะเหรี่ยงรอบ 2
"กะเหรี่ยงบางกลอย"ขอจุด"ถางป่า"ทำกิน
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564 ครอบครัวชาวกะเหรี่ยงประมาณ 20 คน พยายามสอบถามความเป็นอยู่ของญาติ ที่ตกเป็นผู้ต้องหา 22 คน ในข้อหาบุกรุก ครอบครองแผ้วถางป่า และเก็บหาของป่า ซึ่งถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำกลางเพชรบุรี มีผู้ช่วยพัศดีเรือนจำ ให้ข้อมูลโดยระบุว่า ด้วยมาตรการป้องกันเชื้อโควิด-19 จึงงดเยี่ยมพร้อมบอกว่า ผู้ต้องหาต้องอยู่ในห้องกักตัวตามระเบียบ 14 วัน แทุกคนแข็งแรงดี หากต้องการเยี่ยมให้เขียนจดหมายฝากนำส่งเข้าไปได้ และในจำนวน 22 คน มีผู้หญิง 3 คน เป็นแม่ลูกอ่อน ถูกจับพร้อมสามี ฝากขังอยู่ในเรือนจำ เด็ก 3 คน อายุ 1-2 ขวบ ต้องแยกออกจากครอบครัว แต่ตำรวจ สภ.แก่งกระจาน ไม่ได้ประสานส่งคืนให้ญาติรับตัวกลับ หรือประกาศตามหา แต่พาไปส่งที่ พมจ.เพชรบุรี สร้างความกังวลใจให้ครอบครัวชาวกะเหรี่ยง ทำให้วันนี้ตามหาทั้งวัน เพราะเด็กยังเล็กและกินนมแม่ จึงไปขอความช่วยเหลือจาก น.ส.วราภรณ์ อุทัยรังษี ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน
ขณะที่การช่วยเหลือผู้ต้องหาชาวกะเหรี่ยงทั้ง 22 คน น.ส.วราภรณ์ คาดว่า วันจันทร์จะเริ่มกระบวนขอประกันตัวต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี เพราะต้องใช้เวลารวบรวมหลักทรัพย์รวมหนึ่งล้านสามแสนบาท ล่าสุดได้ประสานนักการเมืองกลุ่มชาติพันธุ์ นักสิทธิมนุษยชน เพื่อระดมเงิน และเมื่อวานนี้รู้สึกว่าถูกกีดไม่ให้เข้าร่วมรับฟังการแจ้งข้อกล่าวหาชาวกะเหรี่ยง ทั้งที่ครอบครัวชาวกะเหรี่ยงเรียกร้องขอใช้ทนายความมาตั้งแต่ข้อพิพาทระหว่างครอบครัวปู่คออี้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับในขณะนี้ยังมีอีก 8 คน ที่ยังไม่ถูกจับกุม เพราะขณะปฏิบัติการเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ไม่พบตัวอาศัยอยู่ที่บ้านบางกลอยบน ทนายความ จะช่วยติดตาม ให้เข้ามามอบตัวสู้คดีต่อไป