ภาพวงจรปิด จากร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ตรงข้ามกับบ้านเกิดเหตุ บันทึกนาทีที่ นายแสน อายุ 65 ปี ก่อเหตุยิงคนในครอบครัว ในภาพจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จนชาวบ้านที่อยู่ข้างเคียง ต่างพากันตกใจและส่งเสียงร้อง ก่อนจะหมอบ และหาที่หลบกระสุนปืน เพราะกลัวว่าจะถูกลูกหลง ขณะที่ กล้องวงจรปิดอีกตัวหนึ่ง ก็จับภาพขณะ “นายแสน” ขับรถกระบะ หลบหนี ก่อนจะเปลี่ยนในเข้ามอบตัวกับตำรวจ
อดีตผู้ป่วยโควิด รวมตัวจัดทำทีม “อาสา TAXI ปทุมฯ” ไว้รับส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาล
เช็กคลัสเตอร์ใหม่ 11 แห่ง กทม.ยอดติดเชื้อนิวไฮ หลังทีม CCRT ลุยตรวจเชิงรุก
เหตุการณ์เกิดขึ้นกลางดึกคืนวานนี้ “นายแสน” ผู้ก่อเหตุ ใช้ปืนขนาด จุด 38 ยิงคนในครอบครัวเสียชีวิต 3 คน คือ “นายโชติวัฒน์” ลูกชายอายุ 36 ปี “นางวิชุดา” น้องเมียอายุ 54 ปี และ “นายอุ้ย” พ่อตาอายุ 87 ปี ส่วน “นางอารีย์” ภรรยาอายุ 63 ปี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส
สอบสวน “นายแสน” อ้างว่า ไม่พอใจที่ภรรยาขี้บ่น ชอบดุด่าทกุเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ก็จะถูกต่อว่าถูกตำหนิต่างๆ นานา มาเป็น 10 ปี แถมเวลาที่มีปากเสียงทะเลาะกัน ฝ่ายลูกและญาติ ก็มักจะเข้าข้างภรรยา ช่วยกันรุมด่าว่า ทำให้นายแสนเก็บกด
จนเมื่อคืนนี้ “นายแสน” นั่งดื่มเบียร์อยู่ในบ้าน ส่วนเมียกับลูกชายกำลังนั่งกินข้าวกันระหว่างนั้น “นายแสน” ก็มีปากเสียงทะเลาะกับภรรยาอีก จึงโมโหใช้ปืนยิงลูกกับเมีย แล้วเดินไปยิงน้องเมียและพ่อตา
ด้านแม่ยายของ “นายแสน” บอกว่า ขณะเกิดเหตุอยู่ในบ้านอีกหลังหนึ่ง ได้ยินเสียงดังเหมือนปืน แต่ไม่ได้เอ๊ะใจ จนเสียงดังขึ้นหลายนัด จึงออกมาดู ก็เห็น “นายแสน” วิ่งออกมา และข่มขู่จะฆ่าทั้งครอบครัว ทันทีที่รู้ว่าทั้งสามี ลูกสาว และหลานถูกยิง ก็รู้สึกเหมือนถูกเอาดวงใจไป ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับครอบครัว
ด้านคดี ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนักกับ “นายแสน” คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะซึ่งตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาฝากขังในวันนี้ โดยไม่นำตัวไปทำแผนประกอบคำสารภาพ เพราะญาติผู้เสียชีวิตยังคงโกรธแค้นผู้ต้องหามาก จึงกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย และที่สำคัญจุดเกิดเหตุเป็นหมู่บ้านในชุมชนมีญาติของผู้เสียชีวิตอยู่จำนวนมาก