ข้อมูลจากสมาคมธนาคารไทย แจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 1-17 ตุลาคม ที่ผ่านมา มิจฉาชีพดูดเงินไปทั้งหมด 10,700 ใบ เป็นการตัดเงินจากบัตรเดบิต 4,800 ใบ โดยมีมูลค่าความเสียหาย 30 ล้านบาท ส่วนบัตรเครดิต 5,900 ใบ เสียหายสูงถึง 100 ล้านบาท
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการรั่วไหลของระบบข้อมูลแบงก์ แต่มิจฉาชีพ ใช้โปรแกรมอัตโนมัติ หรือ โปรแกรมบอต หรือแมชชีน เข้ามาสุ่มรหัสบัตรต่ผ่านการนำรหัส 6 หลักแรกที่ระบุสถาบันการเงิน แล้วใช้บอตสุ่มรหัส 6 ตัวหลัง
เงินหายจากบัญชี บัตรเครดิต - เดบิตถูกแฮก ติดต่อคอลเซ็นเตอร์แบงก์ขอเงินคืน นายกฯจี้แก้ปัญหา
ระงับบัตรแล้ว แบงก์ให้คืนถูกดูดเงิน ให้รีบติดต่อ "แบงก์ชาติ - ส.ธนาคารไทย" แถลงชี้แจงสาเหตุ
เมื่อเจอแล้วก็นำไปตัดเงินในบัตร โดยตัดเงินทีละน้อย เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้รหัส ยืนยันตัวตนหรือ OTP โดยที่มิจฉาชีพไม่ได้มีการใช้รหัส 3 ตัวหลังบัตร หรือ CVV เลย
ประธานสมาคมธนาคารไทย ย้ำด้วยว่า แบงก์จะไม่มีการตัดเงินใดๆ ของลูกค้า และจะเร่งคืนเงินให้ภายใน 5 วัน โดยให้ลูกค้าที่ถูกตัดเงินหรือดูดเงินออก โทรหา Call Center ของธนาคารทันที พร้อมระงับการใช้บัตรใบนั้น
ด้านนางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันเช่นกันว่า แบงก์มีระบบการตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติอยู่แล้ว พร้อมกับได้กำชับให้ทุกแบงก์เพิ่มระดับความปลอดภัย ไม่ว่าจะกรณีจำนวนเงินเพียงเล็กน้อย ไปจนถึงธุรกรรมในต่างประเทศ ยิ่งต้องตรวจสอบเป็นพิเศษ
พร้อมขอให้ประชาชน ตรวจสอบธุรกรรมการเงินของตนเองอย่างสม่ำเสมอ ระมัดระวังการผูกบัตรออนไลน์กับแพลตฟอร์มที่ไม่มีการยืนยันตัวตน หรือเว็บไซต์ที่มีความสุ่มเสี่ยง ทั้งยังมีการประสานกับทาง สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ , กระทรวง ดีอีเอส, กสทช. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ หามาตรการรับมือกับมิจฉาชีพต่อไป
กรุงไทย เตือนระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง “คนละครึ่ง” ส่ง SMS ดูดข้อมูลส่วนตัว
บช.ก.ปฏิบัติการจันทบูร จับยกแก๊ง 'นายกอบจ.จันทบุรี - เจ้าคณะอำเภอสอยดาว' เปิดพฤติกรรมทุจริตสร้างพุทธ...
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่าขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนเส้นทางการเงินว่าถูกตัดในแพลตฟอร์มใด ใครได้ประโยชน์ เพราะถือว่าเป็นความผิด พร้อมระบุว่าปัญหาที่เกิดขึ้น มาจากการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล ที่มีผู้ขายอยู่หลายราย ซึ่งรัฐบาลจะต้องเข้าไปกำกับดูแลให้มีมาตรฐานตรวจสอบได้ การรับจ่ายเงินจะต้องมี OTP ก่อนที่จะตัดเงิน เพื่อความปลอดภัยของเงินในบัญชีด้วย
ส่วนกฎหมายในการกำกับธุรกิจและแพลตฟอร์มออนไลน์ นายชัยวุฒิ ระบุว่าได้ยกร่างไว้เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเสนอเข้า
ครม. เร็ว ๆ นี้ โดยสาระสำคัญ คือ ต้องการให้แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ทำธุรกิจออนไลน์กับประชาชน มาจดแจ้งการประกอบธุรกิจ เพื่อให้เกิดกำกับดูแล มีการยืนยันตัวตนผู้ซื้อผู้ขายในระบบ ให้มีความปลอดภัยในการทำธุรกรรมมากขึ้น