ยายวัย 78 ปีแจ้งความถูกแก๊งเงินกู้กักขังในบ้าน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




มีเรื่องราวร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ โดยคุณยายวัย 78ปี ถูกแก๊งเงินกู้หยอดกาวตาช้างใส่ในรูกุญแจ ทำให้ไขกุญแจออกจากบ้านไม่ได้ หลังไปกู้เงินนอกระบบแต่เกิดประสบปัญหาวิกฤตช่วงโควิดทำให้ขาดรายได้ และไม่มีเงินมาจ่ายหนี้นอกระบบ ล่าสุดทางผู้ช่วย ส.ส. เขตสายไหม ได้เข้าช่วยเหลือคุณยาย และพาเข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว

การเข้าช่วยเหลือ คุณยายวัย 78 ปี ซึ่งเป็นลูกบ้านเขตสายไหม หลังถูกแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบใช้กาวตราช้างหยอดรูกุญแจ และทำการกักขังยายพร้อมกับครอบครัวไม่ให้ออกจากบ้าน โดยอ้างว่าจะต้องหาเงินมาจ่ายค่าดอก วันละ 2,000บาท  หลังลูกสาวกู้เงินมาลงทุนขายผลไม้ แต่ระยะหลังประสบปัญหาโควิด  ทำให้ขายของไม่ได้  และไม่มีเงินมาจ่ายหนี้

ล่าสุด นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตสายไหม  ได้พานางประคอง บุญศรี คุณยายวัย 78 ปี  พร้อมด้วยน.ส.ธัญพร หนองน้ำขาว ลูกสาว เดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.บางเขน

ตร.ศรีราชา เร่งกวาดล้างแก๊งเงินกู้นอกระบบ

เปิดใจ ลูกหนี้เจ๊ปากแดง ไม่กล้าเดินถนน

นางประคอง เปิดเผยว่า ตนเองกลับมาจากวัดก็ล็อกกุญแจประตูบ้านตามปกติ แต่ระหว่างที่อยู่ในบ้านได้ยินเสียงโซ่ที่หน้าประตู ตอนแรกก็คิดว่าไม่มีอะไรเนื่องจากล็อคบ้านเรียบร้อยแล้ว แต่หลังจากนั้นขณะที่ตนเองกำลังจะออกไปทิ้งขยะ กลับพบว่าไม่สามารถออกจากบ้านได้ แม้ว่าจะไขกุญแจยังไงก็ไม่ออก จึงโทรเรียกให้คนมาช่วย และท้ายที่สุดต้องนำใบเลื่อยมาตัดแม่กุญแจทิ้ง 

ด้านลูกสาวของคุณยาย ระบุว่า ตนเองกู้เงินมาประมาณ 4-5 เจ้าโดยมียอดรวมทั้งหมดประมาณ 40,000 บาท แต่มีเจ้าหนึ่งที่กู้มา 10,000 บาท คิดดอกเบี้ยแบบดอกลอย หรือประมาณร้อยละ 60 ต่อเดือน

ทำให้ทุกวันนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมทุกเจ้าเป็นเงินวันละ 2,000 บาท ซึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยไปจนกว่าจะนำเงินต้นมาจ่ายคืนให้ครบทั้งหมด  แต่เนื่องจากวิกฤตโควิดทำให้ค้าขายไม่ได้  ประกอบกับหนี้นอกระบบมีดอกเบี้ยสูง

 ซึ่งทุกวันนี้แม้จะส่งเงินให้เจ้าหนี้แต่เงินต้นกลับไม่ลดลง เหมือนส่งแต่ดอกเบี้ยอย่างเดียว ทำให้ตนเองและครอบครัวเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ขณะที่ นายเอกภพ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนว่าผู้ก่อเหตุเป็นเซลล์เงินกู้จริงหรือไม่ หากเป็นจริงถือว่ากระทำเกินกว่าเหตุและเอาเปรียบลูกหนี้อย่างมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมความไม่ได้

 โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิดแบบนี้  พร้อมฝากไปถึงรัฐบาลว่าควรจะมีกองทุนที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายและไม่ยุ่งยาก แต่เมื่อการเข้าถึงกองทุนต่างๆของธนาคารมีหลายขั้นตอนและใช้เวลานาน ทำให้ประชาชน ต้องไปกู้เงินนอกระบบ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ระบุว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายความผิดในข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ และกักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วน พ.ร.บ.เกี่ยวกับเงินกู้ และการทวงถามหนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้  มาจากเรื่องของหนี้สินเงินกู้จริงหรือไม่ ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ก่อนหน้านี้ทีมข่าวพีพีทีวี ได้เคยพูดคุยกับ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ความเห็นว่า การทวงหนี้แบบนี้เข้าข่ายผิดกฎหมายหลายข้อ ถึงแม้จะเป็นเจ้าหนี้ก็ตาม แต่กฎหมายพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ.2558  กำหนดว่าการทวงนี้สามารถทวงได้ไม่เกินวันละ 1 ครั้ง กำหนดช่วงเวลาทวงหนี้  วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 08.00-20.00 น. และวันวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ ตั้งแต่ 08.00-18.00 น. ห้ามประจาน ข่มขู่ และทำร้ายร่างกายลูกหนี้ 

หากลูกหนี้ไม่ยอมจ่าย เจ้าหนี้ต้องไปฟ้องศาลสั่งบังคับคดี ถ้าเป็นหนี้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิ์ทวงเพราะถือว่าผิดกฎหมาย และหากทวงหนี้อย่างไม่เป็นธรรม มีโทษตามพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้พ.ศ.2558  จำคุกไม่เกิน 1-5 ปี  หรือ ปรับไม่เกิน 100,000-500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(แล้วแต่ฐานความผิด)

นอกจากนี้การที่เจ้าหนี้ถ่ายคลิประจานลูกหนี้  ก็ยังถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และลูกหนี้สามารถฟ้องกลับได้  หรือฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้อีกด้วย

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ