ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านทอง ห้างทองทวีชัย ที่บันทึกภาพของคนร้าย หลังจากโรยตัวจากหลังคาลงมาภายในห้องน้ำชั้นสองของบ้าน ซึ่งคนร้ายมีตำหนิรูปพรรณ คือ ใส่หมวกสีดำ สวมไอ้โม่งสีดำ ใส่เสื้อแขนยาวสีดำมีแถบขาวตรงกลาง นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ใส่ถุงมือ สวมรองเท้าสีดำมีแถบสีขาว ในมือถือมีดยาวประมาณ 20 ซม. พร้อมกับไม้หน้าสามอีก 1 อัน เดินอยู่ภายในร้าน ทั้งบริเวณหน้าร้านที่จำหน่ายทองและภายในห้องที่ติดตั้งตู้เซฟ
โจรแสบเจาะเพดานโรยตัวชิงทองกลางภูเก็ต
ไล่ล่าโจรเจาะเพดานชิงทองหนัก 300 บาท มูลค่ากว่า 10 ล้าน
ก่อนที่คนร้ายรายนี้จะทำร้ายนางพวงเพ็ญ ศักดิ์เกษมกฤต และ นายหวังดี อินทวงศ์ เจ้าของร้าน ขณะที่นอนหลับพักผ่อนอยู่ในห้องนอนชั้น 2 ของร้านทอง จนได้รับบาดเจ็บ และได้ลงไปชั้นล่างของร้าน พร้อมหยิบสร้อยทองคำน้ำหนักประมาณ 300 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท หลบหนีไป โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 24 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ได้เดินทางลงพื้นที่ห้างทองทวีชัย และร้านค้าโดยรอบ เพื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งอยู่ตามร้านค้าต่างๆทุกๆร้าน ที่ถนนระนอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยเน้นตรวจสอบภาพตั้งแต่เวลา 06.00 น ของวันที่ 23 ตุลาคม 2546 จนถึง เวลา 03.00 นของวันที่ 24 ตุลาคม 2564 ที่อาจจะพบผู้ต้องสงสัย หรือคนร้ายในขณะก่อนและหลังเกิดเหตุ
โดยเบื้องต้น ได้มีการเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุและมีการสอบถามพยานแวดล้อมซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ใก้ลเคียงที่เกิดเหตุเพราะบริเวณดังกล่าวมีร้านทองจำนวนหลายร้านแต่คนร้ายตัดสินใจปีนเข้าร้านทองที่เกิดเหตุ ทางเจ้าที่จึงได้มีการนำประวัติและรูปถ่ายของผู้ต้องสงสัยที่เป็นต่างชาติในระบบมาให้พยานในบริเวณที่เกิดเหตุได้ยืนยันตัวบุคคลเพื่อสืบหาคนร้าย
ออกหมายจับแก๊งหลอกนำบัตรประชาชนกู้เงินแสน
เปิดคลิปชายโดดใส่รถก่อนขโมยรถแท็กซี่
ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าน่าจะมีข่าวดีในเร็ววันนี้ ส่วนหลักฐานที่พบหลังร้านคือหน้ากากอนามัยสีแดงตกอยู่ เจ้าหน้าที่ได้เก็บไปตรวจสอบ ดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือแฝงแล้ว ขณะที่เจ้าของร้านทองยืนยันว่า คนร้ายน่าจะเป็นชาวเมียนมา เพราะขณะก่อเหตุสำเนียงที่พูดออกมาไม่ใช่สำเนียงของคนไทยแน่นอน
