ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ( 21 ก.ย.2565 ) น.ส.ปวีณา งามสุด แม่น้องโชค และมูลนิธิสยามนนทบุรี ได้เคลื่อนย้ายศพน้องโชคไปฝากไว้ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพราะทางครอบครัวยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และไม่เชื่อว่าเกิดจากอุบัติเหตุปืนลั่นเหมือนที่คู่กรณีให้ปากคำ
ย้อนไปช่วงเช้า น.ส.ปวีณา และ นายเกียรติคุณ ต้นยาง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา ยัง ได้ไปที่กระทรวงยุติธรรมเพื่อยื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ขอความเป็นธรรมให้ลูกชาย
เปิดข้อหา ด.ช.ต้าร์-เพื่อน ทำปืนลั่น-ทิ้งปืน
ญาติน้องโชคคาใจ ประกันตัวแค่หมื่นเดียว
เพราะเมื่อวานนี้ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดในโรงเรียน พบว่าภาพช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุหายไป 1 ชั่วโมงครึ่ง จึงรู้สึกข้องใจอยากหาความจริงในเรื่องนี้
นายเกียรติคุณ ทนายความ เล่าเหตุการณ์ที่เห็นจากกล้องวงจรปิดให้สื่อมวลชนฟังว่า เมื่อวานนี้ได้ให้พนักงานสอบสวนย้อนคลิปให้ดูตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ซึ่งช่วงเช้าเห็นน้องโชคและคู่กรณีเดินเข้าโรงเรียนปกติ และช่วงพักเที่ยงน้องโชคเล่นกับเพื่อนและผู้ก่อเหตุบริเวณรั้วโรงเรียน
จากนั้นภาพตัดไปที่ช่วงเวลาประมาณบ่ายโมงกว่าๆ เห็นน้องโชคเดินเข้าห้องคอมพิวเตอร์ จากนั้นผู้ก่อเหตุเดินตามเข้าไปในห้อง จังหวะนั้นเห็นว่ามือขวาของคู่กรณีถือบางอย่างคล้ายปืนเดินตามเข้าไปในห้องเพียง 6 วินาที ได้ยินเสียงปืนลั่น จากนั้นคู่กรณีเดินออกมาหน้าห้องท่าทางลุกลี้ลุกลนและเดินกลับเข้าไปในห้อง และเดินออกมาอีกครั้ง จังหวะนั้นสังเกตเห็นว่ามือขวาถือบางอย่างคล้ายปืนวางบนเสื้อที่ถือด้วยมือซ้าย และนำปืนไปให้รุ่นพี่
ซึ่งเหตุการณ์ในวงจรปิดที่หายไป 1 ชั่วโมงครึ่ง คือช่วงหลังน้องโชคเล่นหยอกล้อกับผู้ก่อเหตุที่รั้วโรงเรียน จากนั้นภาพได้ตัดไปที่หน้าห้องคอมพ์ฯ ทำให้ตั้งข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาที่ภาพหายไป ซึ่งตนและครอบครัวได้ขอภาพจากกล้องวงจรปิดมาด้วยแต่พนักงานสอบสวนไม่อนุญาต
ทนายความบอกอีกว่าการสืบสวนสอบสวนในครั้งนี้ตนไม่ได้มองว่าใครเข้าข้างใคร แต่สิ่งที่เห็นจากกล้องวงจรปิดเหมือนเป็นการเตรียมตัวมาล่วงหน้า อีกทั้งการนำปืนเข้าไปในโรงเรียนเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ซึ่งประเด็นนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้รับคำตอบ จึงอยากให้สถาบันนิติวิทยาศาตร์กระทรวงยุติธรรมเข้าไปร่วมจำลองเหตุการณ์ว่าวิถีกระสุน พยาน และภาพจากกล้องวงจรปิดสอดคล้องกันหรือไม่ และถ้ายังไม่คลายความสงสัยครอบครัวก็ยืนยันว่าจะไม่ฌาปนกิจศพน้องโชค
ด้าน ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่าผลชันสูตรพลิกศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เบื้องต้นพบว่า กระสุนทะลุเข้าท้ายทอยด้านซ้าย ส่วนร่างกายไม่พบการต่อสู้หรือได้รับบาดเจ็บ
ส่วนผลพิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียดจะต้องรอจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้งว่า มีเขม่าดินปืนที่มือของผู้ก่อเหตุหรือไม่ หากพบว่ามีเขม่าดินปืนก็จะต้องมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุและแรงจูงใจอีกครั้ง
แต่ถ้าหากไม่พบก็ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งตนเชื่อว่าพนักงานสอบสวนน่าจะมีประสบการณ์ในการทำงานมาหลายปี ไม่น่าพลาดช่วงเวลาที่หายไป และสิ่งที่คนในครอบครัวต้องการมากที่สุดคือหลักฐานที่ชัดเจนในการคลี่คลายคดีเพื่อทวงความยุติธรรมให้ลูกชาย
อย่างไรก็ตามกรณีนี้ กรมคุ้มครองสิทธิ์และเสรีภาพได้รับเรื่องแล้วและจะแจ้งให้ครอบครัวทราบถึงสิทธิ์ที่จะได้รับในฐานะผู้เสียหาย และทางกระทรวงยุติธรรมจะเข้าไปช่วยหาข้อเท็จจริง โดยให้เจ้าหน้าที่นิติเวชและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จไปจำลองเหตุการณ์ให้เห็นแนวทางชัดเจนขึ้น