เปิดลงทะเบียน “คนละครึ่ง” รอบเก็บตก 2.3 ล้านคน 6 โมงเช้า 11 พ.ย.นี้
TDRI หนุนมาตรการกระตุ้น ศก. แต่ ปชช.ต้องเข้าถึงได้จริง
วิกฤตเศรษฐกิจโควิด-19 ถือว่าเป็นวิกฤติครั้งใหญ่ ที่มีรูปแบบแตกต่างจากในอดีต เพราะผลกระทบเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ฉับพลัน แถมกระทบเป็นวงกว้าง ทำให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต้องเร่งปรับตัวรับวิกฤติครั้งนี้ โดยเฉพาะภาครัฐ ที่ต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
ทั้ง ช้อปดีมีคืน ที่เน้นกลุ่มผู้มีรายได้สูง ให้ลดหย่อนภาษี 30,000 บาท ถัดมากลุ่มผู้มีรายได้น้อยก็เลือกที่จะโอนงินตรงเข้าบัญชีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขณะที่ชนชั้นกลาง ก็เลือกใช้โครงการคนละครึ่ง โดยตั้งเป้ากระตุ้นเศรษฐกิจ 200,000 ล้านบาท
ในทางปฎิบัติหลายฝ่ายมีความกังวลว่าจะได้รับการตอบรับหรือไม่ โดยเฉพาะมาตรการ “คนละครึ่ง” ที่รัฐบาลออกให้ถึงครึ่งหนึ่ง หรือ 50% ของการใช้จ่ายไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 3,000 บาทตลอดโครงการ เนื่องจากต้องลงทะเบียน ใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน แต่เมื่อลงพื้นสำรวจแล้วพบว่า ร้านค้าส่วนใหญ่ก็ตอบรับไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากเป็นการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ตอบรับกับโครงการ “คนละครึ่ง” เนื่องจากการใช้งานแอปพลิเคชันมีความสะดวก หลังจากธนาคารกรุงไทยมีการปรับปรุงรูปแบบ แก้ไขระบบต่างๆให้ใช้งานง่ายขึ้น
แม้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากร้านค้าและประชาชน ก็ยังต้องจับตาดูผลการใช้จ่ายว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามเป้าหมายที่ 60,000 ล้านบาทหรือไม่ รวมถึงปัญหาการทุจริตที่เริ่มมีให้เห็น ซึ่งกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทย ก็ยืนยันว่า มีระบบการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ล่าสุดได้ตัดสิทธิ์ร้านค้าและยึดเงินคืนไปแล้วหลายแห่ง พร้อมเตรียมจ่อดำเนินคดีด้วย
