หอการค้าไทย ชี้ “คนละครึ่ง” ทำเงินสะพัดแสนล้าน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หอการค้าไทย มอง อานิสงค์จากนโยบาย “คนละครึ่ง” ที่ถือเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จของรัฐบาล ทำให้เงินสามารถหมุนเงินในระบบเศรษฐกิจกระจายไปยัง ร้านหาบเร่ โรงงาน และแหล่งวัตถุดิบ ราว 150,000 ล้านบาท รวมถึงยังเกิดผลในทางจิตวิทยา คนรู้สึกว่าเศรษฐกิจเริ่มดี กล้าใช้จ่ายมากขึ้น

หอการค้าไทย หนุน “คนละครึ่ง เฟส 2” กระตุ้นเศรษฐกิจปีหน้า

ก.คลัง เล็งขยาย “คนละครึ่งเฟส 2” ของขวัญปีใหม่

โครงการ คนละครึ่ง ถือว่าได้รับการตอบรับจากหลายฝ่าย ทั้งประชาชน ภาคเอกชน รวมถึงนักวิชาการต่างๆ รวมถึง นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่า โครงการ คนละครึ่ง ถือเป็นมาตรการที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่พูดถึงมากที่สุด เมื่อเทียบกับมาตรการต่างๆที่รัฐบาลออกมา ในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจาก พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย ร้านเล็กๆ ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ระบบมีความสะดวกในการใช้งาน รวมถึงส่งผลดีไปถึงภาคธุรกิจโดยรวม

เมื่ออธิบายถึง หลักการทำงานของเงินที่หมุนในระบบเศรษฐกิจ จาก “คนละครึ่ง” หลังจากลงทะเบียนและดาวน์โหลด - ติดตั้ง แอปพลิเคชันเป๋าตัง เริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ที่ รัฐบาลช่วยจ่ายครึ่งหนึ่ง เพดานสูงสุด 150 บาทต่อวัน บวกกับที่รัฐบาลสมทบให้ 150 บาท หากใช้เต็มสิทธิ์ จะทำให้ตลอดโครงการ ประชาชน 10 ล้านคน จะใช้จ่ายด้วยเงินเฉลี่ยคนละ 3,000 บาท หรือ รวม 30,000 ล้านบาท บวกกับเงินที่รัฐบาลสมทบให้อีกคนละ 3,000 บาท หรือ สมทบให้รวม 30,000 ล้านบาท ก็จะทำให้มีเงินวิ่งเข้าในร้านค้า หาบเร่ แผงลอย 60,000 ล้านบาท

การหมุนของเงินในระบบที่สะพัดสูงสุด 3 รอบ มาจากรอบแรก คือ 60,000 ล้านบาท ที่ถูกใช้จ่ายไปในร้านค้า หาบเร่ แผงลอย ที่เข้าร่วมโครงการ รอบที่ 2 คือ เงินจาก พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย นำเงิน 60,000 ล้านบาท ไปซื้อสินค้าที่โรงงาน หรือ ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก มาขาย ส่วนรอบที่ 3 คือ การที่โรงงาน หรือ ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ไปสั่งสินค้า จากผู้ผลิต หรือ แหล่งผลิตวัตถุดิบ เช่น แพปลา สวนผลไม้ นาข้าว เป็นต้น จึงประเมินได้ว่า การหมุนของเงินจะส่งอานิสงค์สูงสุดไปยังร้านค้าเล็กๆ ส่งต่อไปยังภาคอุตสากรรม ไปถึงภาคการเกษตร 2 - 3 รอบ หรือ คิดเป็นเงินราว 120,000 - 180,000 ล้านบาท แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังซื้ออาจจะชะลอตัว จึงประเมินว่าจะมีเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจได้จริงราว 100,000 – 150,000 ล้านบาท

ส่วนมาตรการ คนละครึ่ง เฟส 2 ที่รัฐบาล เตรียมจะออกในปีหน้า นายธนวรรธน์ แนะว่า รัฐบาล อาจจะมีการขยายเพดานผู้รับสิทธิให้เพิ่มเป็น 15 ล้านคน หรือ 20 ล้านคน และปรับเงื่อนไข การลงทะเบียนให้คนทุกระดับให้เข้ามาใช้สิทธิ์ได้มากขึ้น

โดยหากใน ปี 2564 รัฐบาลขยายจำนวนผู้รับสิทธิ์ คนละครึ่ง เป็น 15 ล้านคน จะทำให้ มีเงินหมุนรอบแรก 90,000 ล้านบาท ส่วนกรณีเงินหมุนสูงสุด 3 รอบก็จะอยู่ที่ 270,000 ล้านบาท ส่วน กรณีขยายเพดานการรับสิทธิ์เป็น 20 ล้านคน เงินจะหมุนรอบแรก 120,000 และหากหมุนสูงสุด 3 รอบ ก็จะอยู่ที่ 360,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการ คนละครึ่ง ถือเป็นมาตรการที่ทำให้ประชาชน กล้าใช้จ่ายมากขึ้น และรู้สึกว่าเศรษฐกิจเริ่มกลับมาดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในไตรมาส 4 ปีนี้กลับมาฟื้นตัว

 

 

 

 

 

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ