เชฟร้านดังเอกมัยเจอพิษโควิด-19 หนี้ท่วม
เจ้าของโกดังชาบู หลั่งน้ำตา วิตกโดนปิดหน้าร้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำตาแห่งความอัดอั้นของ คุณมธุรา อดเหนียว เจ้าของร้านโกดังชาบู ที่ระบายออกมาผ่านทางไลฟ์เฟซบุ๊กหลังต้องแบบกรับภาระหนี้สินและค่าใช้จ่ายของร้านมาตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิด-19 ในระลอกแรกจนถึงระลอก 3 ที่มีคำสั่งไม่ให้ลูกค้านั่งรับประทานอาหารที่ร้านจนสุดยื้อไปต่อไม่ไหวต้องตัดสินใจออกมาไลฟ์เฟซบุ๊กประกาศเตรียมปิดร้านถาวรในอีก 3 เดือนข้างหน้า เนื่องจากไม่มีค่าเช่าร้านที่ค้างอยู่ 1 ปีกว่า
จึงจำเป็นต้องย้ายออกและหยุดกิจการ เธอยังได้สะท้อนไปถึง นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานรัฐบาล มองว่าสิ่งที่แก้ปัญหาไม่ถูกจุด และ ถ้าร้านจะเจ๊งขอให้ร้านเธอเป็นร้านสุดท้าย
คุณมธุรา เล่าว่า โควิดระบาดระลอกแรกและระลอก2 ทางร้านเริ่มติดขัดต้องกู้เงินมาพยุงธุรกิจแต่ก็ยังกัดฟันอดทนเพื่อให้ผ่านไปได้ จนแพร่ระบาดระลอก3 รอบนี้ไม่สามารถกู้เงินได้เพราะกู้ไปเต็มวงเงินแล้ว รวมถึงร้านไม่สามารถเปิดได้เพราะลูกค้านั่งทานที่ร้านไม่ได้ ทำให้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาพยายามปรับตัวขายแบบเดลิเวอรี่ โดยจัดเป็นชุดชาบู ทางร้านจัดส่งเองไม่คิดค่าส่ง แต่ก็ทำได้ไม่นานเพราะไม่คุ้มกับค่าจึงต้องยกเลิก จากนั้นก็เปลี่ยนมาไลฟ์ขาย โพสต์ขายน้ำจิ้มชาบูทางออนไลน์ ขวดละ 59 บาท แต่ก็ขายได้เพียงวันละ 1-2 ออเดอร์เท่านั้น
“แล้วทีนี้หนูเซ้งร้านเซ้งที่นี่ใช่ไหมคะ เช่าเซ้ง 3 ปีต่อสัญญา ทีนี้รอบนี้มันจะถึงสัญญาของเขาแล้วก็คือเดือนกันยา ทั้งนี้ทั้งนั้นวันศุกร์นี้ ศุกร์นี้หนูต้องมีการเคลื่อนไหวไปจ่ายก่อนสัก 1 เดือน หนูถึงจะมีสิทธิต่อสัญญาแต่ก่อนต่อสัญญาหนูต้องหาเงินก้อนไปจ่ายของเก่าให้หมดแล้วหาเงินก้อนต่อสัญญาใหม่ ซึ่งมันหนักมาแค่ค่าเทอม ค่าหนังสือลูกสองพันกว่าบาท พันกว่าบาทเรายังไม่มีเลย” คุณมธุรา กล่าว
คุณมธุรา เจ้าของร้านโกดังชาบู เล่าต่อว่า ทุกวันนี้ต้องเก็บใบหูกวางแห้ง ๆ ที่หล่นอยู่ตามพื้นบริเวณร้าน ไปขายทางออนไลน์ให้กับคนที่เลี้ยงปลากัดนำไปใส่โหลเพื่อรักษาแผลปลากัด ซึ่งขายในราคาห่อละ 15 บาท แต่ก็ขายไม่ได้มาก เธอได้ไปฝากถึงภาครัฐว่าถ้าหากร้านโกดังชาบูต้องปิดกิจการ ขอให้ภาครัฐอย่าทอดทิ้งร้านอื่น ๆที่ เหลือให้เร่งเข้าไปช่วยเหลือเพื่อที่จะไม่ต้องผู้ประกอบการรายอื่นมาจุดจบแบบร้านตนอีก