ไฟเขียวปรับพื้นที่สีฟ้าเพิ่ม 17 จังหวัดมีกทม.ด้วย เริ่ม 1 พ.ย. นำร่องรับนักท่องเที่ยวเข้าไทย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ เห็นชอบให้ปรับพื้นที่สีฟ้าเพิ่มอีก 17 จังหวัด น้ำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วง 1-30 พ.ย. นี้ กทม.ติดโผด้วย

วันนี้ 14 ต.ค. 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงภายหลังประชุมศบค.ชุดใหญ่ ว่า แผนรองรับการเปิดประเทศ วันนี้ได้พูดคุยให้ยกเลิกประเทศกำหนดดินแดนความเสี่ยง เมื่อเข้ามาแล้วจะจัดเป็นพื้นที่สีฟ้า โดยก่อนหน้านี้มีการกำหนดพื้นที่สีฟ้านำร่องท่องเที่ยวจำนวน 4 จังหวัด ภูเก็ต สุราษฎร์  พังงา  กระบี่  และ ขยายพื้นที่ออกไปอีกเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว

เช็ก! มาตรการผ่อนคลาย เริ่ม 16 ต.ค. นี้ “ลดเคอร์ฟิว-ปรับพื้นที่แดงเข้ม-ร้านอาหารเปิดได้ไม่เกิน 22.00...

ศบค.ยังไม่มีมติให้เปิด “กรุงเทพฯ แซนด์บ็อกซ์” ย้ำต้องรอบคอบรัดกุม

โดยหลักการพื้นที่สีฟ้าคงไม่ได้อยู่แค่ 4 จังหวัดนี้ แต่มีแผนออกมาว่า ในวันที่ 1-30 พ.ย. จะเพิ่มพื้นที่สีฟ้าเป็น 17 จังหวัด เป็นพื้นที่นำร่องเศรษฐกิจ เช่น กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ (เฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิ) พังงา(ทั้งจังหวัด) กระบี่ (ทั้งจังหวัด) ประจวบคีรีขันธ์ (แค่ ต.หัวหิน และหนองแก) เพชรบุรี(ชะอำ) ชลบุรี (พัทยา อ.บางละมุง ต.นาจอมเทียน ต.บางเสร่ เกาะสีชัง อ.ศรีราชา) ระนอง (เกาะพยาม) เชียงใหม่ (อ.เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า) เลย (เชียงคาน) บุรีรัมย์ (เมือง) หนองคาย (เมือง ศรีเชียงใหม่ ท่าบ่อ สังคม) อุดรธานี (เมือง นายูง หนองหาน ประจักษ์ศิลปาคม กุมภวาปี บ้านดุง) ระยอง (เกาะเสม็ด) และ ตราด (เกาะช้าง) โดยเลือกที่เป็นเมืองท่องเที่ยว และเกณฑ์จะเป็นพื้นที่นำร่องเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ และ ในเดือนธ.ค. 16 จังหวัดรวมเป็น 33 จังหวัด เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน แพร่ เป็นพื้นที่นำร่องเป็นเมืองหลัก

จับตา! 14 ต.ค. ศบค.ชุดใหญ่ถกลดเคอร์ฟิว ขยับเวลาห้างร้าน รับเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้

WHO อนุมัติฉุกเฉินแล้ว วัคซีนโควิด-19 แอสตร้าเซเนก้า "ล็อตผลิตในไทย"

ส่วนแผนการรองรับแบบไม่ต้องกักตัวทางทีมงานได้แปลงออกมา อันที่ 1 คือการเปิดประเทศอย่างปลอดภัยความสำคัญตรงนี้ก็คือ จะต้องมีปรับมาตรการเข้าราชอาณาจักร เชน มีการจัดทำแผนเปิดประเทศ ลดวันการตัว ปรับการตรวจหาเชื้อ ลดค่าประกัน ซึ่งถ้าป่วยแล้วเข้ามารักษาจะต้องทำอย่างไร รายละเอียดก็จะต้องมีการพูดคุยกันต่อ รวมถึงการเฝ้าระวังการลักลอบเข้าประเทศ ซึ่งตรงนี้มอบหมายกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม ไปดำเนินการ

อันที่ 2 คือ เฝ้าระวังกลุ่มเปราะบาง อันที่ 3 คือเตรียมความพร้อม ด้านสาธารณสุข อันที่ 4 คือ พัฒนาระบบฐานข้อมูล และ อันที่ 5 คือ บริหารจัดการแบบบูรณาการ

โดยทั้งหมดทั้งปวงได้เสนอที่ประชุมเมื่อเช้านี้แล้ว และให้กลับไปจัดทำแผนในช่วง 2 เดือนที่เหลือให้ศบค.อนุมัติแผนนี้ และให้ทุกหน่วยงานตัดทำแผนขึ้นมา เพื่อจะได้เริมดำเนินการ และ ให้วันที่ 1 พ.ย. -30 พ.ย. นี้ ถือเป็นระยะที่ 1 ก็จะให้มีการดำเนินการตามแผน ระยะที่ 2 ดำเนินการและก็ประเมิน ระยะที่ 3 วันที่ 1 ม.ค. เป็นต้นไปก็ทำการตามความสำเร็จของงาน

“ตอนนี้ให้ที่ประชุมศปก.ศบค.ไปพิจารณาการเข้าราชอาณาจักรแบบไม่ต้องกักตัว แลละจำกัดพื้นที่ โดยมีแนวทางตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้นำเสนอ โดยสรุปก็คือ
1.ให้เข้าประเทศแบบไม่กักตัว ไม่จำกัดพื้นที่ แต่ยังไม่มีการแจ้งประเทศเพิ่มเติม
2.ยกเลิกการกำหนดประเทศที่เป็นความเสี่ยง โควิด-19
3.เห็นชอบแผนการรองรับเปิดประเทศ และแผนเร่งรัดในการเปิดประเทศ

โดยรายละเอียด ที่ประชุม ศปก.ศบค. จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ