บ่อยครั้งเมื่อเราเอร็ดอร่อย กับอาหารกลิ่นฉุนอย่างกระเทียม กะปิ ปลาร้า หอมหัวใหญ่ และทุเรียน เมื่อรับประทานไปแล้ว กลิ่นของอาหารแสนอร่อยเหล่านี้ยังคงติดปาก ใครเข้าใกล้ก็มักได้กลิ่นออกจากปากเรา แม้เราจะหาวิธีแก้ ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟัน เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือใช้สเปรย์ดับกลิ่นปากแล้ว ก็ยังไม่สามารถช่วยคลายให้กลิ่นฉุนของเหล่านี้หายไป งานนี้ยิ่งทำให้ผู้รับประทานไม่มั่นใจที่จะพูดคุยกับใครใกล้อีก แต่วันนี้เรามีเคล็ดลับ ช่วยดับกลิ่นปากอาหารกลิ่นฉุนมาบอกกัน
อย่า...! มองข้ามปัญหา "กลิ่นปาก" เพราะมันสามารถบอกโรค
ไม่อยากยี้ ...มีกลิ่น!! หยุดกินผิดๆ เพื่อจุดซ่อนเร้นสุขภาพดี
กระเทียม
สำหรับกระเทียม จะเป็นพืชที่เอนไซม์ เมื่อใดที่ถูกตัด บด หรือเคี้ยว เอนไซม์ดังกล่าวจะเปลี่ยนนเป็นสารอัลลิซิน ซึ่งเป็นสารประกอบกำมะถันหรือสารซัลเฟอร์ ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว โดยประโยชน์สารดังกล่าว อัลลิซินจะเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ในการต้านอนุมูลอิสระและก็ช่วยในการลดความดันโลหิตและลดไขมันในเลือด เมื่อไหร่เรารับประทานกระเทียมไปแล้ว ด้วยสารที่ว่ามา จะติดปากและลมหายใจ ซึ่งกลิ่นนี้จะอยู่นานถึง 72 ชั่วโมงหรือ 3 วันเลย
ข้อแนะนำในการลดกลิ่น
วิธีการช่วยลดกลิ่นของกระเทียมสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1. ดื่มนม โดยเฉพาะนมที่มีไขมันจะสามารถลดกลิ่นได้ดีกว่านมพร่องมันเนยหรือนมขาดมันเนยเนื่องจากในนมมีองค์ประกอบของน้ำแล้วก็ไขมันซึ่งตัวนี้จะช่วยละลายสารประกอบซัลเฟอร์ที่ละลายทั้งในน้ำและก็ละลายทั้งไขมันได้ทำให้ลดการระเหยของกลิ่นกระเทียมออกมาได้
2. ทานน้ำผลไม้ หรือ ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว อย่างเช่นน้ำมะนาว หรือ น้ำส้ม เพราะในน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจะมีความเป็นกรด ซึ่งความเป็นกรดจะไปยับยั้งเอนไซม์ที่เปลี่ยนสารในกระเทียมให้มีกลิ่นออกมาได้
สะตอ
ด้วยความที่สะตอ เป็นพืชตระกูลถั่วฝัก โดยเจ้าตัวจะมีสารพฤกษเคมีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และช่วยลดระดับน้ำตาลได้ ส่วนสาเหตุของการเกิดกลิ่นฉุนติดปาก เพราะองค์ประกอบของสารประกอบซัลเฟอร์ตรงนี้ ก็จะมีกลิ่นออกมาทั้งกลิ่นปาก กลิ่นลมหายใจ และเมื่อเรารับประทานเข้าไปร่างกายจะมีการขับออกทางปัสสาวะ ทำให้กลิ่นปัสสาวะของเราก็จะมีของสะตอ
ข้อแนะนำในการลดกลิ่น
สำหรับวิธีการดับกลิ่นฉุนของสะตอ เราสามารถใช้อาหารด้วยกันในการแก้กลิ่น คือการรับประทานมะเขือเปราะ เนื่องจากตัวของมะเขือเปราะก็จะมีสารพฤกษเคมีและก็เอนไซม์โพลีฟีนอลออกซิเดส ซึ่ง 2 องค์ประกอบนี้จะช่วยในการทำปฏิกิริยากับสารประกอบซัลเฟอร์ทำให้ลดกลิ่นของสะตอ
หอมหัวใหญ่
เนื่งอจากตัวหอมหัวใหญ่ เป็นพืชกลุ่มเดียวกับกระเทียม ที่จะมีสารประกอบซัลเฟอร์อัลลิซินที่ทำให้เกิดกลิ่นเฉพาะตัว โดยในตัวมันเองจะมีองค์ประกอบของอาหาร สำหรับจุลินทรีย์สุขภาพหรือเรียกว่าพรีไบโอติก ซึ่งจะมีประโยชน์ช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหารให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นแล้วก็ช่วยฟื้นฟูแล้วก็รักษาเรื่องระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ข้อแนะนำในการลดกลิ่น
ในการลดกลิ่นหัวหอมใหญ่ สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยวิธีการใช้อาหารมาลดกลิ่น เพราะหากเรารับประทานในรูปแบบสลัด ร่วมกับผักกาดหอมดิบ ก็สามารถลดกลิ่นได้เนื่องจากผักกาดหอมดิบ จะมีสารพฤกษเคมีและเอนไซม์โพลีฟีนอลออกซิเดส ที่จะทำปฏิกิริยากับสารประกอบซัลเฟอร์ทำให้ลดการเกิดขึ้นของหอมหัวใหญ่ได้ค่ะ
ทุเรียน
กลิ่นทุเรียนเกิดขึ้นเนื่องจากสารประกอบซัลเฟอร์ ที่ระเหยได้ง่ายก็ทำให้มีกลิ่นปากและลมหายใจเมื่อรับประทานไป ซึ่งการรับประทานในปริมาณมากก็มีโอกาสเสี่ยงการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่นโรคเบาหวานโรคหัวใจ และหลอดเลือด
ข้อแนะนำในการลดกลิ่น
การลดกลิ่นของทุเรียน สามารถดับกลิ่นด้วยผลไม้ด้วยกันเลย นั้นก็คือแอปเปิ้ล เนื่องจากแอปเปิ้ล จะมีในตัวของสารพฤกษเคมีแล้วเอนไซม์โพลีฟีนอล ออกซิเดส ในการที่จะทำปฏิกิริยากับตัวซัลเฟอร์ทำให้ลดการเกิดกลิ่นของทุเรียนได้
กะปิ & ปลาร้า
ด้วยความที่อาหารทั้งสองอย่างเป็นอาหารที่ผ่านกระบวนการถนอมอาหารโดยกระบวนการหมัก ทำให้มีกลิ่นเกิดขึ้นมาเมื่อนำรับประทาน นอกจากตัวของกลิ่นแล้วก็จะมีในตัวของโซเดียมซึ่งการรับประทานโซเดียมในปริมาณเยอะก็ทำให้ไปและหัวใจเราทำงานหนักมากขึ้น
ข้อแนะนำในการลดกลิ่น
การลดกลิ่นกะปิและปลาร้า คือ การใช้เปลือกของผลไม้ตระกูลส้มและมะนาว เนื่องจากเปลือกของส้ม และมะนาว จะมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งก็สามารถช่วยลดกลิ่นได้โดยวิธีการใช้ก็คือให้ฝานมะนาว ติดเปลือกและให้นำมาเคี้ยว หลังรับประทานกะปิ หรือ ปลาร้า
แต่ถ้าเราจะดับกลิ่นกะปิหรือปลาร้า ที่ติดบริเวณมือของเรา สามารถใช้เปลือกของมะนาว เปลือกส้ม ถูบริเวณมือของเราและล้างด้วยน้ำสะอาดก็สามารถดับกลิ่นได้
เปิดขวด “น้ำยาบ้วนปาก” หมอเตือนอย่าใช้บ่อยเสี่ยงเชื้อราเพิ่มขึ้น
ไม่อยากยี้ ...มีกลิ่น!! หยุดกินผิดๆ เพื่อจุดซ่อนเร้นสุขภาพดี
ที่มาข้อมูล - รูปภาพ
-คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
- Phed Phed - ร้านเผ็ดเผ็ด