หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ทวิตเตอร์ภายใต้การบริหารงานของ อีลอน มัสก์ ซึ่งเพิ่งปิดดีลซื้อกิจการไปได้สำเร็จ จะเก็บ “ค่ายืนยันตัวตน” จากผู้ใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถคงสถานะผู้ยืนยันตัวตน (Verified) หรือมีเครื่องหมาย “ติ๊กถูกสีฟ้าข้างชื่อ” ไว้ได้
โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) อีลอน มัสก์ ได้ออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า บัญชีผู้ใช้งานที่มีการยืนยันตัวตน จะต้องจ่ายเงิน 8 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 300 บาท) ทุกเดือน
“อีลอน มัสก์” จ่อเก็บ “ค่ายืนยันตัวตน” ในทวิตเตอร์ 750 บาท/เดือน
“อีลอน มัสก์” ยุบบอร์ดบริหารทวิตเตอร์ทิ้งทั้งคณะ
“อีลอน มัสก์” คุม “ทวิตเตอร์” ปุ๊บ เชิญผู้บริหารชุดเก่าออกปั๊บ
เจ้าตัวทวีตข้อความว่า “ระบบศักดินาในปัจจุบันของทวิตเตอร์สำหรับผู้ที่มีหรือไม่มีเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้านั้นเป็นเรื่องไร้สาระ มอบอำนาจให้ประชาชน! ทวิตเตอร์บลูราคา 8 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน”
นี่เป็นการบอกโดยนัยว่า เขาสามารถมอบเครื่องหมายติ๊กถูกให้กับบัญชีที่สมัครใช้บริการระดับพรีเมียมของทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า “ทวิตเตอร์บลู (Twitter Blue)” หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “บลู” ซึ่งเป็นระบบ Subscription (ระบบสมาชิก) ของทวิตเตอร์ เก็บเงินผู้ใช้แลกกับฟีเจอร์พิเศษ เช่น ฟีเจอร์เซฟข้อความทวีตพร้อมแยกหมวดหมู่ หรือฟีเจอร์ Undo ข้อความที่ทวีตไป เป็นต้น
อีลอน มัสก์ เสริมว่า ราคานี้อาจมีการผกผันแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่ปัจจุบันฟีเจอร์บลูนี้เปิดให้ใช้บริการเฉพาะในบางประเทศ เช่น สหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
เขายังบอกอีกว่า ผู้ที่ซับสไครบ์ฟีเจอร์บลูเวอร์ชันใหม่ของทวิตเตอร์นี้ จะมีสิทธิพิเศษในการตอบกลับ กล่าวถึง และค้นหา ซึ่งเขากล่าวว่า “จำเป็นต่อการกำจัดบัญชีสแปม” นอกจากนี้ ผู้ใช้จะเห็นโฆษณาแค่ครึ่งหนึ่งของคนทั่วไป และสามารถโพสต์วิดีโอและคลิปเสียงขนาดยาวได้
ทั้งนี้ ยังไม่มีการประกาศกำหนดเวลาที่แน่ชัดสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แต่ก่อนหน้านี้มีรายงาน มัสก์ได้สั่งให้พนักงานเร่งเปิดตัวฟีเจอร์บลูใหม่นี้ภายในวันที่ 7 พ.ย. มิฉะนั้นจะโดนไล่ออก
แผนการใหม่ของมหาเศรษฐีรายนี้จะส่งผลกระทบต่อบัญชีผู้ใช้ที่เดิมได้รับการยืนยันตัวตนแล้ว 400,000 บัญชี ซึ่งส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีหลายคนที่สนับสนุน
เดิมทีระบบการยืนยันตัวตนนี้มีขึ้นเพื่อรับมือปัญหาที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับคนดังที่กังวลเกี่ยวกับการแอบอ้างหรือบัญชีปลอม แต่ในภายหลังได้กลายเป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะมากกว่า
เรียบเรียงจาก AFP / The Guardian
ภาพจาก AFP