ทบ.แจ้งเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ กลับหน่วยในกทม. 11 พ.ย.นี้
เปิดลงทะเบียน “คนละครึ่ง” รอบเก็บตก 2.3 ล้านคน 6 โมงเช้า 11 พ.ย.นี้
การจัดงานรวมพลังแสดงความจงรักภักดีของชาวไทยมุสลิม ที่สำนักจุฬาราชมนตรีวันนี้ น่าจับตา เพราะจัดขึ้นท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย เพราะเป็นองค์กรศาสนา และหนึ่งในประเด็นสำคัญ คือการประกาศเจตนารมณ์ของชาวไทยมุสลิม
สาระสำคัญของการประกาศเจตนารมณ์ของชาวไทยมุสลิม ซึ่งนัดทำกิจกรรมสวมเสื้อเหลือง ภายในหอประชุมศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ
โดยนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ประธานเปิดงาน ได้พูดถึงจุดประสงค์ของการจัดงาน ว่าต้องการนำชาวไทยมุสลิม ร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่มีต่อชาวไทยมุสลิม และต้องการให้เกิดความรัก ความสามัคคี และเกิดการประนีประนอมในสถานการณ์ขณะนี้
โดยบรรยากาศของการจัดกิจกรรมวันนี้ มีชาวไทยมุสลิม ร่วมกันสวมเสื้อเหลือง พร้อมนำป้ายผ้าที่มีข้อความ สะท้อนจุดยืนของกลุ่ม รวมทั้งนำธงชาติ ธงสัญลักษณ์ โบกสะบัดในห้องประชุม
ไฮไลต์สำคัญของการจัดงานวันนี้ คือการเสวนา ของบรรดาผู้บริหารในสำนักงานคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นอดีตนักการเมือง เช่น พลตำรวจตรีสุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย นายสมัย เจริญช่าง กรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร
โดยหัวข้อการเสวนาคือ สถาบันพระมหากษัตริย์ ทีมีต่อชาวไทยมุสลิม ซึ่งเนื้อหาภาพรวมพูดถึงพระราชกรณียกิจ ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยมุสลิม จุดที่น่าสนใจ คือการจัดงานวันนี้จัดขึ้นท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของชาวไทยมุสลิมส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ที่มองว่าเป็นกิจกรรมที่แสดงให้เห็นว่าเป็นการสนับสนุนการเคลื่อนไหวทางการเมือง ขณะเดียวกันสำนักจุฬาราชมนตรี เป็นองค์กรศาสนา จึงไม่ควรแสดงออกในลักษณะนี้
ด้าน สำนักจุฬาฯ ออกแถลงการณ์ชี้แจง ว่าการจัดงานครั้งนี้เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมุสลิมขณะเดียวกันสำนักจุฬาราชมนตรีตระหนักดีว่า ประเทศไทยกำลังมีความขัดแย้งและมีความเห็นต่างทางการเมืองสูง และเพื่อเป็นการหาทางออกให้สังคมไทย จึงขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเปิดพื้นที่เพื่อการพูดคุยหาทางออกและ ให้มีการอำนวยความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อสร้างความสงบสันติให้เกิดขึ้นในสังคมไทยโดยเร็ว