หมอวรงค์ นัด ไทยภักดี รวมตัวค้านแก้รธน. วันเดียวกับราษฎร
"รุ้ง-ไมค์-เพนกวิน-ไผ่" ยืนยัน ไม่ลดเพดานข้อเรียกร้อง
จังหวะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาพร้อมกับ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและทีมอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อพบกับมวลชนกลุ่มหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มาดักรอ โดยนายพิธา พยายามอธิบายว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกล ไม่ใช่การล้มล้างสถาบัน แต่เป็นการปฏิรูป และการลงพื้นที่ครั้งนี้ต้องรับฟังปัญหาของคนพื้นที่ ทั้งราคาพืชผลการเกษตร ปัญหาที่ดิน และปัญหายะ ซึ่งระหว่างตัวแทนมวลชนระบุว่า เห็นด้วยกับพรรคก้าวไกลที่พูดถึงปัญหาต่างๆเหล่านี้ รวมถึงเห็นดีด้วย หากจะสนับสนุนนักเรียน-นักศึกษาให้ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง แต่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอปฏิรูปสถาบัน
โดยมวลชนกลุ่มนี้ ได้พยายามบอกกับนายพิธาและส.ส.ที่เดินทางมาด้วยว่า ข้อมูลและการรับรู้ที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาเชื่อว่า พรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้าที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นแกนหลัก อยู่เบื้องหลังการชุมนุมสนับสนุนกลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหว เพราะนายธนาธรและตัวแทนจากพรรคก้าวไกลกับคณะก้าวหน้าไปเข้าร่วมด้วยหลายครั้ง แถมยังชู 3 นิ้วเหมือนกัน พร้อมตั้งคำถามว่า เหตุใดจึงสนับสนุนและเข้าร่วมกับคนรุ่นใหม่ ทั้งที่ความเป็นจริงต้องสอนเด็กๆเหล่านี้และเห็นความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย โดยตัวแทนของพรรคก้าวไกลยืนยันว่า นายธนาธรและพวกเขาไม่มีส่วนชักจูงทางความคิดกับคนรุ่นใหม่ แต่ยอมรับว่า มีบางส่วนที่คิดเหมือนกันโดยเฉพาะการปฏิรูปสถาบันให้มั่นคงขึ้น ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเป็นการล้มล้าง
กลุ่มมวลชนจึงขอให้พรรคก้าวไกล นำเรื่องนี้ไปคุยกันในสภา และขออย่าให้นำประเด็นที่กระทบจิตใจพวกเขามาเคลื่อนไหวเป็นเครื่องมือทางการเมือง
ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า วันนี้ร่วมเสวนาที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยช่วงหนึ่งให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ที่ตัวเองและทีมงานถูกขับไล่ ต่อต้าน ระหว่างลงพื้นที่จากกลุ่มคนคิดต่างว่า การลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครท้องถิ่นหาเสียงในภาพรวม หลายพื้นที่ประชาชนก็ต้อนรับอย่างดี แต่กลุ่มคนที่เห็นต่างก็มีบ้าง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เกิดกับเฉพาะพื้นที่มีการแจ้งกำหนดการล่วงหน้าเท่านั้น
นอกจากนี้นายธนาธร ยังอ้างว่า มีผู้สมัครสมาชิกสภาอบจ.ในพื้นที่จังหวัดพะเยา ของกลุ่มตัวเองถูกข่มขู่ ซึ่งภาพรวมก็ถือว่าเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ เพราะการเมืองท้องถิ่นหลายพื้นที่ มีการผูกขาดอิทธิพลกันมาอย่างยาวนาน