เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน แหล่งข่าวระดับสูงฝ่ายความมั่นคง ยืนยันถึงเอกสารลับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ถึงกระทรวงมหาดไทยให้ดูแลเรื่องการระดมประชาชนร่วมชุมนุมในพื้นที่ กทม. ระหว่างวันที่ 23-27 พ.ย. ว่า เป็นฉบับจริง และมีเจตนาคือ ไม่อยากให้ทั้งสองฝ่ายเดินทางเข้ามาในกทม. เป็นม็อบชนม็อบ หากอ่านจากเนื้อหาในเอกสารทั้งหมด ก็เป็นเพียงการอำนวยความสะดวก หากดูให้ดี จะพบว่าเป็นการใช้แนวทางสันติวิธี ไม่ให้เคลื่อนมาในกทม. ที่อาจสุ่มเสี่ยงเกิดการกระทบกระทั่งกัน ส่วนม็อบในกทม.ในหนังสือก็ไม่ได้พูดถึง ปล่อยให้มีการชุมนุมไป แต่ในส่วนของต่างจังหวัดก็ให้ชุมนุมในพื้นที่ของตนเอง ไม่ได้ใช้กำลังสกัดกั้น
“ประวิตร” ปัดไม่รู้เอกสารลับสั่งสกัดชุมนุม
“ธีรรัตน์” ประณาม “บิ๊กตู่” ปล่อยเครือข่ายจัดม็อบ ข่มขู่-ทำร้ายผู้เห็นต่าง
“ในเมื่อเขามาแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบัน ผู้ว่าฯก็อำนวยความสะดวก ส่วนอีกฝ่ายก็บอกว่า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัย ไม่ได้อะไรกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง” แหล่งข่าวระดับสูง กล่าว
ส่วนการเคลื่อนย้ายการชุมนุมจากต่างจังหวัดเข้าสู่กทม.นั้น แหล่งข่าวระดับสูงรายเดิม กล่าวย้ำว่า ไม่ได้ห้าม แต่ไม่ได้อยากให้มา เพราะเกรงว่าจะกระทบกระทั่งเหมือนเหตุการณ์การชุมนุมที่หน้าอาคารรัฐสภา ซึ่งฝ่ายความมั่นคงไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้น เพราะหากเกิดเหตุก็ยากที่จะจัดการ พร้อมย้ำว่าผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ดูแล ดังนั้นการหลีกเลี่ยงจะเป็นแนวทางที่ดี ทั้งนี้ที่ประชุมครม. วันนี้ ไม่ได้พูดถึงแนวทางการรับมือม็อบในวันที่ 25 พ.ย.แต่อย่างใด ส่วนแผนรับมือนั้นให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
มีรายงานด้วยว่าเอกสารลับดังกล่าว ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน ส่งถึงผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลด้วย โดยสภาความมั่นคงแห่งชาติ สั่งการให้สันติบาล ติดตามสืบสวนหาข่าวประวัติของอดีตนักการทูต ที่เกษียนอายุราชการและแสวงหาผลประโยชน์จากการรับราชการ ในการเผยแพร่ข้อมูลเชิงลบโจมตีรัฐบาล เพื่อประกอบการปฏิบัติการข่าวสารตอบโต้
