3 รัฐมนตรี "พุทธิพงษ์ - ณัฏฐพล - ถาวร" หลุดเก้าอี้ ศาลพิพากษา คุกกปปส. "สุเทพ" 5 ปี แกนนำโดนกราวรูด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เกือบ​ 7 ชั่วโมงแล้วที่​ศาลชั้นต้น​ อ่านคำพิพากษาคดีชุมนุมปี​ 2557​ ของกลุ่ม​กปปส.​ ที่วันนี้นำโดยนายสุเทพ​ เทือกสุบรรณ​ อดีตเลขาธิการ​ กปปส.​และ​ 3 รัฐมนตรี​ นำแกนนำรวมกว่า​ 30​ คน​ ฟังคำพิพากษาของศาล​

วันนี้ (24 ก.พ.64) ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีกลุ่มกบฏคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  หรือ กปปส. ตามที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการกปปส.กับพวกรวม 39 คน เป็นจำเลยความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย ล้มล้างระบอบการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง 

แกนนำกปปส. ยัน น้อมรับคำพิพากษา ด้าน “สุเทพ” ลั่น ต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง

อุทธรณ์ ยกฟ้อง 8 กปปส. ปรับ 2หมื่น แกนนำ ขวางเลือกตั้ง 'สุเทพ'ครวญ ไม่หวังนิรโทษกรรม

จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ 

จำเลย 39 คน ประกอบด้วย  1. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

2. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย

3. นายชุมพล จุลใส

4. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส

5. นายอิสสระ สมชัย

6. นายวิทยา แก้วภราดัย

7. นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

8. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

9. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์

10. นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก

11. พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ  เสียชีวิตแล้ว 

12. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์

13. นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์

14.นายถนอม อ่อนเกตุพล

15. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข

16. นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ พุทธะอิสระ

17. นายสาธิต เซกัล

18. นางสาวรังสิมา รอดรัศมี

19. พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี

20.พลเรือเอกชัย สุวรรณภาพ

21. นายแก้วสรร อติโพธิ

22. นายไพบูลย์ นิติตะวัน

23. นายถวิล เปลี่ยนศรี

24. เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์

25. นายมั่นแม้น กะการดี

26. นายคมสัน ทองศิริ

27. พลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร์

28. นายพิภพ ธงไชย

29. นายสาวิทย์ แก้วหวาน

30.นายสุริยะใส กตะศิลา

31. นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด

32.นายสุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์

33.นายสำราญ รอดเพชร

34.นายอมร  อมรรัตนานนท์

35. นายพิเชฐ พัฒนโชติ

36. นายสมบูรณ์ ทองบุราณ

37.นายกิตติชัย ใสสะอาด

38.นางทยา ทีปสุวรรณ

39. นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ในส่วนความผิดฐานกบฎและก่อการร้าย พฤติการณ์ชุมนุมไม่มีการใช้กำลังประทุษร้ายบุคคลใด เพื่อล้มล้างการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ นิติบัญญัติ อำนาจบริหาร จึงไม่เป็นความผิดฐานกบฎ และก่อการร้าย 

ส่วนข้อหาอื่นพิพากษาจำคุก

1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จำคุก 5 ปี

2.นายสาทิตย์วงศ์หนองเตย ยกฟ้อง

3.นายชุมพล จุลใส จำคุก 9 ปี 24 เดือน

4.นายพุทธิพงษ์ปุณณกันต์ จำคุก 7 ปี

5.นายอิสสระ สมชัย จำคุก 7 ปี 16 เดือน

6.นายวิทยา แก้วภราดัย จำคุก1ปีเเละปรับ 13,333 รอลงอาญา 2 ปี

7.นายถาวร เสนเนียม จำคุก 5 ปี

8.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ จำคุก 6 ปี 16 เดือน

9.นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ จำคุก 1 ปีปรับ 13,333บาท รอลงอาญา 2 ปี

10.น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก จำคุก 1 ปีปรับ 13,333บาท รอลงอาญา 2 ปี

11.พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ตาย

12.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333บาท รอลงอาญา 2 ปี

13.นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์ ยกฟ้อง

14.นายถนอม อ่อนเกตุพล จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333บาท รอลงอาญา 2 ปี

15. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข จำคุก 3 ปี

16. พระพุทธะอิสระ หรือ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ จำคุก 4 ปี 8 เดือน

17.นายสาธิต เซกัลป์ จำคุก 2 ปี ปรับ 26,666 รอลงอาญา 2 ปี

18.นางสาวรังสิมา รอดรัศมี ยกฟ้อง

19. พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333บาท รอลงอาญา 2 ปี

20. พลเรือเอกชัย สุวรรณภาพ จำคุก 1 ปีปรับ 13,333บาท รอลงอาญา 2 ปี

21. นายแก้วสรร อติโพธิ ยกฟ้อง

22.นายไพบูลย์ นิติตะวัน ยกฟ้อง

23.นายถวิล เปลี่ยนศรี ยกฟ้อง

24. เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ จำคุก 4 ปี 16 เดือน

25. นายมั่นแม่น กะการดี จำคุก 1 ปีปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี

26.นายคมสัน ทองศิริ จำคุก 2 ปี

27.พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ยกฟ้อง

28.นายนายพิภพ ธงไชย ยกฟ้อง

29.นายสาวิทย์ แก้วหวาน จำคุก 2 ปี

30.นายสุริยะใส กตะศิลา จำคุก 2 ปี

31. นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ยกฟ้อง

32.พ.ต.ท.ภัทรพงศ์ สุปิยะพาณิชย์ ยกฟ้อง

33.นายสำราญ รอดเพชร จำคุก 2 ปี 16 เดือน

34. อมร อมรรัตนานนท์ (เปลี่ยนชื่อบ่อย) จำคุก 20 เดือน

35.นายพิเชษฐ พัฒนโชติ จำคุก1ปีปรับ 13,333บาท รอลงอาญา 2 ปี

36. นายสมบูรณ์ ทองบุราณ ยกฟ้อง

37.นายกิตติชัย ใสสะอาด จำคุก 4 เดือน ปรับ 6,666 รอลงอาญา 2 ปี

38.นางทยา ทีปสุวรรณ จำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 26,666 รอลงอาญา 2 ปี

39.นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ยกฟ้อง

 

สรุปยกฟ้องจำเลยที่ 2,13,18,21,22,23,27,28,31,32,36,39

 

จำเลยทั้ง 12 คนที่รอลงอาญานั้นเพราะยางคนเป็นเพียงผู้ร่วมชุมนุมเท่านั้นเเละเเม้บางคนจะเป็นเเกนนำในการชุมนุมด้วยก็ตามเเต่ความผิดที่จำเลยเเต่ละคนกระทำนั้นน้อยกว่าจำเลยอื่นอีกทั้วไม่ปรากฎว่ามีพฤติการณ์อุกอาจหรือรุนเเรงจากการชุมนุมประกอบกับไม่ปรากฎว่าจำเลยดังกล่าวเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนจึงเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยดังกล่าวกลับตัวเป็นพลเมืองดี นอกจากนี้ยังให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยที่ 3,5,8,16,24,33,38 มีกำหนดคนละ 5 ปี เเละให้นับโทษของจำเลยที่ 15,25,30 ต่อจากโทษตามท้ายฟ้องด้วย

 

ข้อหาที่ศาลพิจารณาพิพากษาลงโทษ  อาทิ

ผิด​ 116​ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย

ม.117 วรรค 1  ผู้ใดทราบความมุ่งหมายดังกล่าวและเข้ามีส่วนหรือเข้าช่วยในการร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างหรือการร่วมกันไม่ยอมค้าขายหรือติดต่อทางธุรกิจกับบุคคลใด ๆ นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ม. 115 วรรค 2 ถ้าความผิดนั้นได้กระทำลงโดยมุ่งหมายจะบ่อนให้วินัยและสมรรถภาพของกรมกองทหารหรือตำรวจเสื่อมทรามลง ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี

ม 358 ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ม. 363 ผู้ใดเพื่อถือเอาอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเป็นของตนหรือของบุคคลที่สาม ยักย้ายหรือทำลายเครื่องหมายเขตแห่งอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ม. 364. ผู้ใด โดยไม่มีเหตุอันสมควรเข้าไป หรือ ซ่อนตัวอยู่ในเคหสถาน อาคารเก็บรักษาทรัพย์ หรือ สำนักงานในความครอบครองของผู้อื่น หรือไม่ยอมออกไปจากสถานที่เช่นว่านั้น เมื่อผู้มีสิทธิที่จะห้ามมิให้เข้าไปได้ไล่ให้ออก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน หนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้จากคำพิพากษา นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ดังกล่าว ทำให้ 3 รัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีทันทีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา160 (7) ที่ระบุว่า ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี 

"ไม่เป็นผู้ต้องคําพิพากษาให้จําคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุด หรือมีการรอการลงโทษ เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทําโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท (8) ไม่เป็นผู้เคยพ้นจากตําแหน่งเพราะเหตุกระทําการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 186 หรือมาตรา 187 มาแล้วยังไม่ถึง 2 ปีนับถึงวันแต่งตั้ง"

ขณะที่รัฐะรรมนูญ มาตรา 98  ระบุว่า บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คือ ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล คือ เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

 

 

TOP การเมือง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ