"ประวิตร" ฉุนถูกจี้ถามปรับ ครม.ลั่น"ผมไม่เสนอใครทั้งนั้น"
"ประวิตร" ปรี๊ดแตก ลั่น "ผมผิดอะไร จะเอาคืนผม" ปมภูมิใจไทยวอล์กเอาท์แก้ รธน.
วันนี้ 25 ก.พ. 2564 นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราชเขต 7 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี หลังรัฐมนตรี 3 คนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองและพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่า เป็นอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนตัวมีความเห็นว่า พรรคพลังประชารัฐมี ส.ส.ภาคใต้ 13 คน ควรมีตำแหน่งรัฐมนตรีไว้ขับเคลื่อนงาน จะเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการหรือรัฐมนตรีว่าการก็ได้
“ทำงานผ่านมา แล้ว 2 ปี พล.อ.ประยุทธ์อาจจะเห็นว่าใครโดดเด่นอย่างไร มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ คิดอยู่ในใจอยู่แล้วในการปรับ ครม.ให้สัดส่วนรัฐมนตรีภาคใต้ของพรรค ผมมองว่าควรมีตั้งแต่ตั้งรัฐบาลด้วยซ้ำ แต่ขณะนั้น ส.ส.ภาคใต้ เป็น ส.ส.ใหม่หมด การทำงานอาจจะยังไม่ประสานกัน แต่ตอนนี้ทำงานมาแล้ว 2 ปี ถึงไม่มีรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งจากคำพิพากษา หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ควรมีการปรับ ครม. ภาคใต้ควรมีรัฐมนตรีอย่างน้อย 1 คน”
สำหรับเหตุที่ควรมีรัฐมนตรีนั้นนายสายัณห์ อธิบายว่า เพื่อทำให้นโยบายรัฐบาลขับเคลื่อนสู่พื้นที่ได้ นอกจากนั้นยังเพื่อเตรียมความพร้อมเลือกตั้ง อีก 2 ข้างหน้า
“เพื่อไว้ดูโครงการต่างๆ ซึ่งรัฐบาล มีโครงการใหญ่เยอะในพื้นที่ เช่น การสร้างสะพานเกาะสมุยถึงอำเภอขนอม ในโครงการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้, โครงการขุดคลองไทย ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นรัฐมนตรีช่วย หรือ รัฐมนตรีว่าการ มั่นใจว่าตำแหน่งใดก็ได้ เพราะตนเองเคยกล่าวไว้ว่า ส.ส.ใต้พรรคพลังประชารัฐ เป็นรัฐมนตรีได้ทุกคน จำเป็นต้องมีเพราะอีก 2 ปีก็เลือกตั้งใหญ่ จะได้เป็นหน้าเป็นตาให้ภาคใต้”
นายสายัณห์ ยืนยันว่าทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่ความเห็นของกลุ่มด้ามขวานไทย ที่มี ส.ส.รวมทั้งหมด 13 คน “ยืนยันไม่ใช่การกดดดันเพื่อเอาตำแหน่ง เพราะการทำแบบนั้นไม่ใช่นิสัยคนใต้ ตอนนี้ครบ 2 ปี นายกฯ ก็น่าจะเรียนรู้ว่า ส.ส.ใต้ สามารถผลักดันโครงการต่างๆ ได้ จะได้นโยบายที่แถลงต่อนโยบายในส่วนภาคใต้ปฎิบัติได้เป็นจริง ใครก็ได้ ทั้ง 13 คน ให้ พล.อ.ประยุทธ์จิ้มมาเลย ทุกคนยอมรับอยู่แล้ว เพราะทุกคนสามัคคีกัน”