“พลังประชารัฐ” ดักคอ “บิ๊กตู่” ลงชื่อค้านเอาคนนอกนั่งรัฐมนตรี ชี้ “บิ๊กป้อม” เลือกคือจบ
สมาพันธ์สมาคมครูฯ เสนอ “บิ๊กตู่” 5 คุณสมบัติ รมว.ศึกษาคนใหม่
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกสารที่ถูกเปิดเผยออกมา คือ เอกสารที่ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 90 คน ร่วมกันลงลายมือชื่อ หัวข้อเอกสารระบุว่า ขอมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ คัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่างลง ซึ่งหนังสือฉบับนี้ถูกส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ยอมรับว่า เป็นเอกสารจริง แต่เป็นเอกสารลับที่พูดคุยกันภายในพรรคเท่านั้น โดยวันที่มีการล่ารายชื่อ คือวันที่ มีการ ประชุมพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 2 ที่รัฐสภา แต่กลับมีส.ส.ในพรรคแอบถ่ายและส่งต่อจนเปิดเผยสู่สาธารณะ ส่วนตัวมองว่าเมื่อเอกสารถูกเปิดเผยแล้ว ไม่จำเป็นที่ต้องชี้แจง เพราะไม่ได้มีสาระสำคัญนอกเหนือจากรายละเอียดในเอกสารดังกล่าว โดยในช่วงแรกมีส.ส.รับรอง 60-70 คน แต่มีผู้มาขอลงชื่อเพิ่มเติมภายหลังจนครบ 90 คน
“ก็บังเอิญว่ามีบางคนมาแอบถ่ายแล้วส่งออก เพราะฉะนั้นผมอยู่ตรงนี้ก็ในเมื่อมันออกไปแล้ว เราก็ไม่จำเป็นจะต้องไปบอกเหตุผลว่ามันจะต้องทำอย่างไร หรือเป็นเพราะอะไร แต่ในเมื่อว่ามันเป็นลักษณะอย่างนี้ก็เป็นไปตามหนังสือ ในลักษณะนั้นอยู่แล้ว ด้วยเหตุและผล” นายวิรัช กล่าว
สำหรับกรณีที่มีข่าวว่าการเข้าชื่อดังกล่าวทำให้เสียงในพรรคพลังประชารัฐแตกออกเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่เห็นด้วยให้นำคนนอกมาเป็นรัฐมนตรีในโควต้าของพรรคพลังประชารัฐ และอีกกลุ่มคือไม่เห็นด้วย นายวิรัช ยืนยันว่าการเข้าชื่อ ส.ส.ไม่ใช่เป็นการกดดันใคร พร้อมย้ำว่าพลเอกประยุทธ์ และ พลเอกประวิตร รับทราบแล้ว และไม่ได้ต่อว่าอะไร หลังจากนี้จะไม่ขอพูดประเด็นนี้อีกแล้ว ให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งกลุ่ม 3 ช. ก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารพรรค จะเป็นผู้คัดเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ตามโควต้าของพลังประชารัฐที่ว่างอยู่ และไม่ขอตอบว่าใครเหมาะสมที่จะมาแทนในตำแหน่งที่ว่าง
ขณะที่โผการปรับคณะรัฐมนตรี ตอนนี้มีอย่างน้อย 2 โผ คือ โผแรก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไปเป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ส่วนนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน พยายามขอไปนั่งเป็น รมว.ศึกษา
ส่วน โผที่สอง ร.อ.ธรรมนัส รมช.เกษตรฯ เป็นรมว.ดีอีเอส นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ขยับไปเป็น รมว.ศึกษา แล้วให้นางนฤมล รมช.แรงงาน สลับไปเป็นรมช.คลังแทน
ขณะที่ตำแหน่งคาดว่าจะว่างลง คือ รมช. 2 ตำแหน่ง ซึ่งก็มีแคนดิเดตที่แกนนำกลุ่มผลักดับส่งเสริมเต็มที่ โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.พลังประชารัฐ ดันนายชัยุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส่วน ร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมล ผลักดันนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ส่วน 13 ส.ส.ภาคใต้ ก็เรียกร้อง 1 ตำแหน่งให้กับส.ส.ในกลุ่มด้วย
ขณะที่หนึ่งพรรคที่มีความเคลื่อนไหว เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี คือ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีโควตารัฐมนตรีช่วยอยู่ 1 ตำแหน่ง ล่าสุด นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าตอนนี้ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ได้คุยถึงการปรับ ครม.เพราะเป็นช่วงปิดประชุมสมัยสามัญ ส.ส.ของพรรค และบุคลากรของพรรค อยู่ระหว่างการลงพื้นที่เพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช และยังไม่ได้หารือว่าจะให้ใครมาดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลง มองว่าอำนาจการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นของนายกรัฐมนตรี
ส่วนกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาจำคุก นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ นั้น นายราเมศย้ำว่า หลังตรวจดูข้อกฎหมาย สมาชิกภาพความเป็น ส.ส. ของนายถาวร ยังคงอยู่ ไม่เข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เหตุเพราะคดียังไม่ถึงที่สุด ซึ่งหลักกฎหมายระบุไว้ชัดในมาตรา 101 (13) ส่วนใครจะตีความอย่างไร ก็เป็นสิทธิ์ ส่วน กกต. จะไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่นั้น ทางพรรคฯ พร้อมที่จะชี้แจง
