เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบว่าจากสถานการณ์โควิด-19 ครม. เห็นชอบให้มีการจ้างพนักงานราชการเฉพาะกิจ จำนวน 10,000 อัตรา เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงิน 2,200 ล้านบาท โดยเป็นการเปิดรับผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีจบใหม่ จัดสรรอัตราในหน่วยงานราชการ ที่มีภารกิจสำคัญและเร่งด่วนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในส่วนภูมิภาค
“พลภูมิ” หวั่น เป็นคลัสเตอร์ใหม่ พบติดเชื้อแล้ว 10 คน แคมป์ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู
“วิสาร” ซัด “บิ๊กตู่” มีอำนาจมาก ทำงานไม่เป็น ชี้ ลาวมีวัคซีนฉีดให้ปชช.มากกว่าไทย
นายรัฐมนตรี ระบุว่า กลุ่มที่ครม.อนุมัติจ้างงาน เป็นพนักงานราชการเฉพาะกิจ มีค่าตอบแทน 18,000 บาทต่อเดือน สัญญาการจ้างงานไม่เกิน 1 ปี ได้รับสิทธิประโยชน์เทียบเท่าพนักงานราชการปกติ และอยู่ในระบบประกันสังคม
ด้านนางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ครม.เห็นชอบแนวทางการจัดสรรกรอบอัตรากำลังและกลไกการบริหารจัดการพนักงานราชการเฉพาะกิจจำนวน 10,000 อัตรา เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด - 19 และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และบรรเทาการว่างงานของบัณฑิตจบใหม่ในระยะสั้น
สำหรับอัตรากำลัง 10,000 อัตรา ที่จะจ้างงานนั้นจะอยู่ในกลุ่มงานบริหารทั่วไป กลุ่มเป้าหมายคือ ผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี ส่วนหน่วยงานที่ขอรับการจัดสรรอัตรากำลังจะเป็นหน่วยงานในราชการบริหารส่วนภูมิภาค ระดับจังหวัด หรือหน่วยงานในราชการบริหารส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่เป็นหน่วยปฏิบัติ โดยเป็นส่วนราชการที่มีภารกิจสำคัญและเร่งด่วนจำนวน 28 ส่วนราชการ
ระยะเวลาการจ้างงานไม่เกิน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาจ้าง หรือไม่เกินวันที่ 30 ก.ย. 2565 และไม่มีการต่อสัญญาจ้าง ได้รับอัตราค่าตอบแทน 18,000 บาทต่อเดือนตลอดสัญญาการจ้างงาน และได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับพนักงานราชการปกติ
ตามแผนงานส่วนราชการจะเริ่มดำเนินการเพื่อจ้างในเดือน มิ.ย.นี้ และส่วนราชการจะรายงานผลการจ้างงาน ภายในวันที่ 16 ก.ค. 2564