“มงคลกิตติ์” ด่า “บิ๊กตู่” กลางสภาฯ “หน้าทนเหลือเกิน” ถามมีปัญญาใช้หนี้เงินกู้หรือไม่
“มาดามเดียร์” ซัด สธ. ล่าช้า-ประมาท ทำโควิดบานปลาย
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2564 ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงในการอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ยืนยันว่า ให้เกียรติสภาฯ เสมอ แต่ก็ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซึ่งตลอดการติดตามก็รู้สึกสะท้อนใจกับการใช้คำพูดวาจา รวมถึงเหตุการณ์ฉีกกระดาษ ฉีก พ.ร.ก. เป็นเรื่องที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และควรเกิดขึ้นหรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า บางเรื่องรัฐบาลได้ชี้แจงไปหมดแล้ว แต่ ส.ส.บางคนก็ไม่รับฟัง พร้อมขอให้ประชาชนติดตามว่าอะไรไม่ใช่ข้อเท็จจริง และขอ ส.ส. อย่าดูถูกประชาชน ก่อนชี้แจงเรื่องการระบาดโควิด-19 ว่ายังไม่มีใครตอบได้ว่าสถานการณ์จะจบเมื่อไหร่ ก็ต้องเตรียมพร้อมงบประมาณ เตรียมการต่าง ๆ ไว้รับมือ บางเรื่องก็ถูกตำหนิว่าล่าช้า แต่รัฐบาลก็ต้องทำอย่างรอบคอบ ทบทวนก็หาว่าล่าช้า ไม่ทบทวนก็หาว่าทุจริต
“โชคดีที่ในสภาคุ้มครอง เอกสิทธิ์คุ้มครอง ถ้าพูดข้างนอกก็มีปัญหาเหมือนกันแหละ ไอ้พวกชอบพูดข้างนอกระวังด้วยก็แล้วกัน ผมเอาข้อเท็จจริงมาสู้ท่าน ผมไม่ได้เอาเรื่องบิดเบือนโกหกมาสู้ท่าน ผมพูดไม่ได้ ผมเป็นคนหนึ่งที่ถวายสัตย์ปฏิญาณไว้แล้วว่า ผมจะไม่พูดโกหก เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต จงรักภักดีต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นั่นคือผม” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทำให้ นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ประท้วง พล.อ.ประยุทธ์ ที่ใช้กริยาวาจา ไม่ให้เกียรติคนอภิปราย และขอให้ประธานตักเตือนให้ใช้กริยาที่เหมาะสม และเป็นการข่มขู่ผู้อภิปราย
โดย พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า "อะไรที่ไม่ดีก็ขอโทษก็แล้วกัน ผมขอโทษ ผมรู้จัก บางทีก็อยู่ในใจ" ก่อนที่จะอภิปรายต่อว่า เมื่อเช้าก็โดนไล่เหมือนหมู เหมือนหมา การที่จะให้คนอื่นให้เกียรติก็ต้องให้เกียรติคนอื่นก่อนบ้าง
