การเปิดใจทางโทรศัพท์กับทีมข่าวพีพีทีวีของนายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สุมทรปราการ ที่ตัดพ้อว่า คนนอกพื้นที่ไม่เข้าใจเรื่องในตำบล โดยเฉพาะที่มาและการใช้งบประมาณสร้างเสาไฟกินรี พร้อมมั่นใจว่าคนในพื้นที่ ต.ราชาเทวะ เข้าใจการทำงาน ที่ผ่านมาของตัวเอง เพราะหากตัวเองไม่โปร่งใส คงไม่ได้รับความไว้วางใจจากคนในพื้นที่ เลือกตั้งให้เป็นตัวแทนบริหารท้องถิ่นตลอด
ชาวบ้าน ตัดพ้อ อบต.ราชาเทวะ ไม่ดูแลปชช.
"บางกอกไฟถนน" บริษัทรับงาน 900 ล้าน เสาไฟกินรี อบต.ราชาเทวะ ประกาศปิดชั่วคราว
ส่วนกรณีที่มีชาวบ้านใน ต.ราชาเทวะ ออกมาบอกว่าไม่ได้อยากมีเสาไฟกินรี นายก อบต. ระบุว่า เป็นแค่เสียงส่วนน้อย ที่กลุ่มเห็นต่างกับตัวเองเลือกมา ให้สัมภาษณ์ เพราะเสียงส่วนใหญ่ ประชาชนเสนอในประชาคมว่า อยากได้เสาไฟรูปกินรี
นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า หากเข้าใจการใช้งบประมาณของท้องถิ่น การใช้จ่ายเงินทั้งหมด ตัวเองในฐานะนายกอบต.ราชาเทวะ ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว ต้องอาศัยเสียงส่วนใหญ่ของ สภา อบต. ส่วนที่ถูกโจมตีว่า ใน อบต.มีคนในครอบครัวนกขมิ้นหลายคน เรื่องนี้นายก อบต.ราชาเทวะ ชี้แจงว่า กรรมการแผนพัฒนาตำบล มีกรรมการที่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนอีก 2 คน และมีผู้ใหญ่บ้าน 5 คน รวมถึงมีตัวแทนชาวราชาเทวะ อีก 6 คน ส่วนในสภา อบต.ราชาเทวะ มีประธานสภา คือ นายประสิทธิ์ นกขมิ้น เป็นพี่ชาย นายก อบต. จริง แต่ยืนยันว่า ประธานสภา อบต. ไม่ได้ร่วมโหวตหรือลงมติใดๆส่วนฝ่ายบริหารอบต.ก็ไม่มีสิทธิ์ออกเสียง เพราะเป็นผู้นำเรื่องเสนอเข้าสภาเท่านั้น
สตง.สมุทรปราการ ตรวจสอบ เสาไฟกินรี
ส่วนประเด็นเรื่องเสาไฟอยู่ในพงหญ้า ไม่มีถนน ยืนยันว่าตามแผนการพัฒนาพื้นที่จะมีถนนเกิดขึ้นในจุดนั้นปี 2565 ส่วนประเด็นเสาไฟกินรีอยู่ในรั้วบ้านประชาชน ที่ซ.กิ่งแก้ว 9ก. นายก อบต. บอกว่า ต้องอะลุ่มอล่วยกัน เพราะบ้านในไทยปลูกติดถนนเกือบทั้งหมด และสาเหตุที่โคมไฟไม่ได้หันออกถนน เพราะต้องหลบสิ่งปลูกสร้างของบ้านที่ตั้งอยู่ พร้อมย้ำว่า ไฟโซล่าเซลล์ สว่างไม่เท่า LED ทำให้ต้องติดไฟ 2 ฝั่งถนน จนถึงเวลานี้ จึงอยากตั้งคำถามกับโซเชียลมีเดียและสื่อมวลชนที่ตรวจสอบเรื่องนี้ว่า บอกได้หรือไม่ว่าตัวเองผิดอะไร เพราะเรื่องนี้คสช.เคยสั่งยึดตำแหน่งของตัวเองไปตรวจสอบแล้ว เมื่อตรวจสอบเสร็จก็คืนตำแหน่งมาให้ จึงไม่คิดว่าจะมามีปัญหาอะไรเช่นนี้อีก