ความคืบหน้ากรณี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา สำรองราชการ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ฟ้องศาลปกครอง กรณีพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เมื่อครั้งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ออกคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 387/2563 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 63 ให้ พล.ต.อ.วิระชัย สำรองราชการ จากการกรณีถูกกล่าวหาทำผิดวินัยร้ายแรง และเปิดเผยความลับของทางราชการ จากกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ และพล.ต.อ.วิระชัย ในคดียิงรถ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล
ประกาศสำนักนายกฯให้ “วิระชัย” พ้นรองผบ.ตร. - สะพัดเขย่าอีกรอบโผนายพล
ย้อนชนวนย้าย 'วิระชัย' แม้คัมแบค แต่ไม่จบ ลุ้นผลสอบคลิปเสียง 'บิ๊กแป๊ะ' ชี้ชะตา
36ข่าวแห่งปี : "สีกากี" เปิดศึก ย้ายกันนัว แฉยับ ฟ้องแหลก จากยิงรถ "โจ๊ก" ถึงปล่อยคลิปเสียง
ล่าสุดวันนี้ มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ศาลปกครองกลางมีคำสั่งวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ในเรื่องคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย วิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ บ. 438/2563 ศาลปกครองกลาง ระหว่าง พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ผู้ฟ้องคดี มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-4 เรื่อง จากกรณีคำสั่งสำรองราชการ
ใจความสำคัญ ศาลพิเคราะห์ว่า เหตุที่ พล.ต.อ.วิระชัย ถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนั้น แม้จะเป็นเหตุให้ผู้บังคับบัญชามีอำนาจสั่งสำรองราชการ พักราชการ ให้ออกจากราชการไว้ก่อนได้ แต่ไม่ใช้ทุกรายที่ถูกตั้งกรรมการต้องสำรองราชการ แต่ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงเป็นกรณีไป กรณีผู้บังคับบัญชาจะสั่งให้สำรองราชการควรที่จะมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมมาประกอบการพิจารณาด้วย อีกทั้งการสั่งให้สำรองราชการจะต้องมีจุดประสงค์เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งสำรองราชการเท่านั้น หากมีการสั่งให้สำรองราชการโดยจุดประสงค์อื่นที่ไม่ได้เป็นไปตามคำสั่งให้สำรองราชการแล้วย่อมทำให้คำสั่งสำรองราชการน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ในคำสั่งผบ.ตร. ให้เหตุผลในการสั่งสำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัย ว่าเพื่อประโยชน์แห่งความเป็นธรรมในการดำเนินการทางวินัยและอาญาและเพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการ ในภาพรวมของสนักงานตำรวจแห่งชาติ ทว่าก็ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงหรือมีพยานบุคคลใดได้ร้องขอว่า พล.ต.อ.วิระชัย ไปยุ่งเหยิงกับพยานหรือเป็นอุปสรรคในการสอบสวน หรือทำให้เกิดความเสียหาย
ด่วน! “จักรทิพย์” ลงดาบ “วิระชัย” สั่ง สำรองราชการ
หลังจากนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ แต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ โดยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ระบุว่า เมื่อพล.ต.อ.วิระชัย ได้รับคำสั่งให้สำรองราชการ จะไม่สามารถเสนอชื่อเป็นผบ.ตร. ได้
ศาลวินิฉัยตามลำดับจึงเห็นว่าพฤติการณ์หรือการกระทำของผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งของผบ.ตร. ถึงแม้จะมิใช่ความไม่เป็นกลางโดยสภาพภายนอกตามมาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ก็ตามแต่เห็นว่าพฤติการณ์ของผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งของผบ.ตร. มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องดังกล่าวข้างต้น
จึงถือว่าผบ.ตร.ในขณะนั้น มีสภาพร้ายแรงอันอาจทำให้การพิจารณาทางปกครองไม่เป็นกลางโดยสภาพภายในตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ.เดียวกัน
กรณีออกคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย สำรองราชการนี้มิใช่กรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้ล่าช้าไปจะเสียหายต่อประโยชน์สาธารณะหรือสิทธิของบุคคลจะเสียหายโดยไม่มีทางแก้ไขหรือไม่มีเจ้าหน้าที่อื่นปฏิบัติหน้าที่แทนได้ การสั่งให้ผู้ฟ้องคดีสำรองราชการจึงไม่ได้อยู่ในข้อยกเว้นของมาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.เดียวกัน
ศาลพิเคราะห์ว่า คำสั่งสำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัย จึงน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีผลทำให้ประกาศของนายกรัฐมนตรี ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีลงวันที่ 31 ส.ค.63 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจพ้นจากตำแหน่งน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายไปด้วย
จึงมีเหตุอันสมควรที่จะทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองตามคำขอของ พล.ต.อ.วิระชัย ที่ขอให้ทุเลาการบังคับตามตามคำสั่ง เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น จึงมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว จนกว่าจะมีคำสั่งอย่างอื่น
ส่งผลให้ พล.ต.อ.วิระชัย ต้องกลับมาดำรงตำแหน่ง รองผบ.ตร. ตามเดิมนับตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2563
และศาลจะพิพากษาคดีนี้ ในวันที่ 22 ก.ค.นี้
"วิระชัย ทรงเมตตา" โลว์โปรไฟล์ แต่โกยรายได้มหาศาล รวยขึ้นสวนโควิด ทรัพย์สิน 2.95 หมื่นล้าน
มีรายงานว่า เมื่อศาลมีคำสั่งดังกล่าว ในวันพรุ่งนี้ 16 ก.ค. เวลา 08.30 น. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา จะเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเวลา เข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามเดิม
แต่ยังมีประเด็นปัญหาว่า ขณะนี้ตำแหน่งรองผบ.ตร.ที่ พล.ต.อ.วิระชัย เคยครองนั้น ได้แต่งตั้งผู้อื่นทดแทนแล้วตั้งแต่ 1 ต.ค.63
ด้านพล.ต.อ.วิระชัย เคลื่อนไหว ล่าสุดเมื่อวานนี้(14ก.ค.) โพสต์เฟซบุ๊กว่าทำบุญถวายภัตตาหารพระสงฆ์ 350 รูป ที่วัดวัดโมลีโลกยาราม กรุงเทพมหานคร โดยหลังจากมีกระแสข่าวได้กลับคืนตำแแหน่ง แม้เป็นการคุ้มครองชั่วคราว ก็มีผู้เข้ามาแสดงความยินดีในเฟซบุ๊ก ดร.วิระชัย ทรงเมตตา จำนวนมาก
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีมีการเสนอข่าวศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งลงวันที่ 13 ก.ค. 64 ทุเลาการบังคับตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 387/2563 ลง 29 ก.ค.63 โดยให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ซึ่งถูกสำรองราชการอยู่นั้นให้กลับเข้ามารับราชการในตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าได้รับทราบคำสั่งศาลปกครองกลางดังกล่าวจากสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะดำเนินการตามคำสั่งของศาลปกครองกลางดังกล่าวตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป
