หลากหลายมุมมอง หลังนายกฯแถลงเปิดประเทศ 1 พ.ย. รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ภายหลังการแถลงเปิดประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปรากฎว่ามีหลากหลายประเด็นเกิดขึ้นตามมา มีทั้งคนที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย มีทั้งคนที่ช่วยคิด ช่วยสนับสนุน และแม้ว่าจะครบ 24 ชั่วโมงแล้ว #ประยุทธ์ และ #เปิดประเทศ ก็ยังติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ของวันนี้แบบไม่มีร่วงเลย

ประเด็นนายกฯ แถลงเปิดประเทศ ไทยฉีดวัคซีนเร็ว Top 10 ของโลก จริงหรือ?

ด่วน!! นายกฯแถลงการณ์ 1 พ.ย.เปิดประเทศ 1 ธ.ค.64 ขายเหล้านั่งดื่มได้ เล็งเปิดสถานบันเทิง

ย้อนกลับไปดู timelineการเปิดประเทศตามที่นายกรัฐมนตรีแถลงเมื่อคืนนี้ อีกครั้ง
1 พฤศจิกายน 2564
- เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้ โดยไม่ต้องกักตัว
- ต้องฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
- เดินทางเข้าไทยโดยทางอากาศ
- มาจากประเทศความเสี่ยงต่ำ 10 ประเทศ แต่เมื่อคืนนายกเอ่ยชื่อมาเพียง 5 ประเทศ คือ อังกฤษ สิงคโปร์ เยอรมนี จีน และอเมริกา
- ผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ออกจากประเทศเป็นลบ
- ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR อีกครั้งเมื่อมาถึงประเทศไทย

1 ธันวาคม 2564
-ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนประเทศให้มากขึ้น
-เปิดสถานบันเทิง และอนุญาตให้นั่งคื่มในร้านอาหารได้

1 มกราคม 2565
-เพิ่มจำนวนประเทศความเสี่ยงต่ำให้มากขึ้นอีก

แถลงการณ์ครั้งนี้มีขึ้น เพียง 3 วัน ก่อนหน้าวันครบกำหนดเปิดเทศให้ได้ภายใน 120 วัน โดยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ตอนนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแถลงการณ์ ว่าการเดินหน้าตามแผนฉีดวัคซีน สามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้โดยเฉลี่ยประมาณเดือนละกว่า 10 ล้านโดส และประมาณต้นเดือนตุลาคมก็จะมีประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อยเข็มแรกแล้ว จำนวน 50 ล้านคน จึงตั้งเป้า เปิดประเทศทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน ซึ่งถ้านับจากวันที่16 มิถุนายน ก็จะครบกำหนด 120 วัน ในวันศุกร์ที่ 15 ต.ค.นี้ นั่นเอง

จนถึงตอนนี้จะครบ 24 ชั่วโมงแล้ว แต่ แฮ็ชแท็กประยุทธ์ และ เปิดประเทศ ก็ยังติดเทรนด์ทวิตเตอร์ และแน่นอนว่ามีทั้งมุมที่เห็นด้วย และมุมที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งที่เป็นกระแสดราม่าหนัก ๆ ก็คือ "เปิดเรียน กับเปิดประเทศ อะไรก่อนดี" เพราะหลายคนมองว่าการแถลงของนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ มีแต่เรื่องเปิดประเทศ แต่ไม่มีเรื่องการเปิดเรียน



อีกเรื่องที่่หลายคนเป็นห่วง คือเรื่องของ การฉีดวัคซีนครบโดสในประเทศไทยยังมีไม่มากพอ ขณะที่หลายคนยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มแรก ดังนั้นเมื่อมีการเปิดประเทศอาจจะทำให้มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น หรือแม้แต่การตั้งคำถามถึงความพร้อมของระบบสาธารณสุขไทยว่าพร้อมแค่ไหนที่จะรับมือกับการเปิดประเทศ
ซึ่งในประเด็นความพร้อมของระบบสาธารณสุขนั้น ก็มีความคิดเห็นจากแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญหลายๆท่านด้วยกัน

ทั้งนี้หนึ่งในถ้อยแถลงของนายกระบุว่า ว่านักท่องเที่ยวจะต้องมีหลักฐานผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ก่อนเดินทางออกจากประเทศต้นทาง และจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้งเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย

ซึ่งเรื่องนี้้ ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กตั้งข้อสังเกตุว่า ถ้านักท่องเที่ยวมาวันละ 1 แสน เราจะตรวจ RT-PCR เค้ายังไง เพราะเราไม่เคยทำได้ถึง

ขณะที่ พลอากาศโท นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย มองว่าการตัดสินใจครั้งนี้รัฐบาลคงรับฟังมาแล้วจากหลายภาคส่วน ทั้งภาคเศรษฐกิจ สังคม และสาธารณสุข และคิดว่ารัฐบาลคงต้องรับผิดชอบในการตัดสินใจอย่างเต็มที่อยู่แล้ว

แต่สิ่งที่น่ากังวล คือ สถานการณ์ไม่เท่าเทียมกันทั้งประเทศ ถ้าดูแลใน กทม.และปริมณฑล จะเห็นว่าสถานการณ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ แนวโน้มผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตลดลงอย่างชัดเจน แต่ในต่างจังหวัดโดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ตัวเลขผู้ป่วยใกล้เคียงกับ กทม.และปริมณฑล ซึ่งการที่จะรับนักท่องเที่ยวเข้ามานั้นมีความเสี่ยงที่จะมีการระบาดเพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือต้องเปิดแค่บางพื้นที่ ไม่ใช่เปิดทุกพื้นที่ และแน่นอนว่าหากเปิดประเทศและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นจะทำให้บุคลากรทางการแพทย์ทำงานหนักมากขึ้นกว่าเดิม มุมมองด้านการแพทย์จึงมองว่าการเปิดประเทศจะทำให้สถานการณ์แย่ลง

อย่างไรก็ตาม นพ.อนุตตร มองว่าหากมีการตัดสินใจเช่นนี้แล้วรัฐบาลต้องมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เช่น มีการติดตามหรือตัวชี้วัด ถ้าหากเกิดการระบาดขึ้นมาอีกครั้งก็ต้องปรับเปลี่ยนนโยบายให้ทันและป้องกันไม่ให้สถานการณ์แย่ลงอีก

เช่นเดียวกับ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเห็นหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแถลง จะเปิดประเทศวันที่ 1 พ.ย. นี้ ว่า ที่อื่นเค้าเปิดเมื่อพร้อม ทั้งเรื่องระบบตรวจคัดกรองพร้อม มีศักยภาพตรวจได้มาก ประชากรส่วนใหญ่ได้วัคซีนครบสองโดส ระบบตรวจสอบ ติดตามตัว ที่มีประสิทธิภาพ และสถานการณ์ระบาดไม่รุนแรง คุมได้ดี
แม้กระนั้น หลายประเทศเปิดแล้วเค้าก็เจอผลกระทบตามมาชัดเจน คำถามที่ควรคิดคือ หากเปิดขณะที่ระบบตรวจก็มีศักยภาพจำกัด ประชาชนในประเทศก็ยังได้รับวัคซีนครบโดสเป็นส่วนน้อย รวมถึงสถานการณ์ก็หลักหมื่นต่อวัน จะเกิดอะไรตามมา?

เรียกได้ว่าถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีเมื่อคืนนี้ เป็นเสมือนกรอบกว้าง ๆ ส่วนรายละเอียดหรือข้อปฏิบัติ ต่าง ๆ เพื่อพร้อมรับหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นมา จะต้งมีการหารือกันในที่ประชุมศบค. ชุดใหญ่ ในวันพฤหัสบดีที่ 14 นี้ เพื่อที่จะเป็นมาตรการรองรับ สำหรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน

ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็แสดงความมั่นใจ ว่าระบบสาธารณสุขของไทยจะรับมือกับการเปิดประเทศครั้งนี้ได้ ซึ่งวันนี้นายกรัฐมนตรี ก็ยังไม่ได้กำชับหรือเน้นย้ำเรื่องการเปิดประเทศ ในที่ประชุมครม. เพราะรายละเอียดต้องเข้าไปหารือกันในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันพฤหัสบดีนี้ก่อน ทั้งนี้ได้เตรียมความพร้อม และแผนรองรับแล้วทุกด้าน พร้อมทั้งได้เร่งรัดให้ 17 จังหวัดนำร่องที่จะเปิดรับการท่องเที่ยวมีการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด มั่นใจว่า ในช่วงสิ้นปีนี้จะฉีดได้ครบ ส่วนประเทศที่จะเข้าไทยได้ล็อตแรก อาจจะมากกว่า 10 ประเทศ

โดยย้ำว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่มีปัญหา และพร้อมปฏิบัติตามนโยบายด้วยความระมัดระวังสูงสุด ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้ให้แนวทางไว้แล้ว ว่าสามารถยืดหยุ่นได้ หากในอนาคตเกิดการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้น ซึ่งจะต้องพิจารณาไปตามสถานการณ์

นายอนุทิน เชื่อว่า สถานการณ์ในปีนี้ไม่เหมือนกับปีที่แล้ว ที่ไทยยังไม่มีมีวัคซีน รวมถึงไม่มีประสบการณ์ในการรักษาผู้ป่วย แต่ปัจจุบันมีพร้อมทั้งหมดตั้งแต่วัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ถึงแม้อาจจะมีพบผู้ติดเชื้ออยู่ แต่ก็เห็นได้ชัดเจนเลยว่า ผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนักเริ่มลดลง ซึ่งก็คิดว่า น่าจะควบคุมสถานการณ์ได้แล้วระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องการรักษาชีวิตของประชาชน

ส่วนประเด็นที่ว่า จะเปิดประเทศกันได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้ ไทยมีการฉีดวัคซีนเข็มสอง เพียงร้อยละ 33 ของจำนวนประชากร ก็มีคำชี้แจงจากนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคว่า สิ้นเดือนตุลาคมนี้้ จะฉีดเข็มสองให้ได้ 40% และเข็มหนึ่งให้ได้ 50%

แม้จะยังไม่มี รายละเอียด เงื่อนไข ที่มากพอ แต่การ "ประกาศ" อย่างเป็นทางการของ "พล.อ.ประยุทธ์" เมื่อค่ำวานนี้ แต่คนหนึ่งที่เห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีอย่าเต็มที่ ก็คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่มองว่าเป็นเรื่องดี ที่ประชาชนจะได้ทำงานทำการ และหากินกันได้ตามปกติ

เช่นเดียวกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่มั่นใจว่ามีความพร้อมที่จะเปิดประเทศตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยจะเร่งเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มเติมอีก 10 พื้นที่เพราะนี่คือการช่วงชิงโอกาสในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และไตรมาสที่ 1 ในปี 65 ให้ได้มากขึ้น


สำหรับ 10 จังหวัด ที่จะมีการเปิดพื้นที่พิเศษนำร่องการท่องเที่ยว 1-30 พฤศจิกายน ที่การประชุม ศบค.วันที่ 27 กันยายน ได้เคาะไว้ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร จ.กระบี่ (ทั้งจังหวัด) จ.พังงา (ทั้งจังหวัด) ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน หนองแก) จ.เพชรบุรี (เทศบาลเมืองชะอำ) จ.ชลบุรี (พัทยา อ.บางละมุง ต.นาจอมเทียน ต.บางเสร่) จ.ระนอง (เกาะพยาม) จ.เชียงใหม่ (อ.เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า) จ.เลย (เชียงคาน) และ จ.บุรีรัมย์ (อ.เมือง)

นายพิพัฒน์ ยังมั่นใจว่าการเปิดประเทศครั้งนี้ จะเป็นไปด้วยความราบรื่้น และมั่นใจว่ากระทรวงสาธารณสุขสามารถรับมือกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้

แม้ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะมีความมั่นใจ แต่ถ้าไปฟังเสียงของตัวแทนผู้ประกอบการในเมืองท่องเที่ยวแล้ว หลายพื้นที่ยังมีความกังวล เช่นที่หัวหิน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน ชะอำ กังวลการเปิดเมืองหัวหิน รับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เพราะยอดผู้ติดเชื้อโควิดยังสูง

นายอุดม ศรีมหาโชตะ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก กล่าวว่า ยอมรับว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นมากเป็นกว่า 40 กว่ารายแล้ว โดยเฉพาะคลัสเตอร์ตลาดฉัตร์ไชย ดังนั้นเห็นว่าควรเลื่อนจาก 1 พฤศจิกายน ออกไปได้ก่อน เพื่อควบคุมคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ คาดว่าในกลางเดือนธันวาคมน่าจะเหมาะสมมากกว่า เป็นช่วงที่จะให้นักท่องเที่ยวเข้ามาก่อนช่วงคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่

ขณะที่สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน ชะอำ ยอมรับว่า มีความน่าเป็นห่วงแต่ก็ขึ้นอยู่กับภาครัฐตัดสินใจ เพราะหากผิดในเงื่อนไขในความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เชื่อมั่นว่าทางสาธารณสุขต้องพิจารณาต่อไปว่าสมควรเปิดหรือไม่

 

TOP การเมือง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ