เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (29 ต.ค. 64) ศาลแพ่งออกประกาศต่อสื่อมวลชน แจ้งว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะว่า เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล กับพวกรวม 4 คน ยื่นฟ้องพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับพวกรวม 2 คน เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ5080/2564 ของศาลแพ่ง ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 15) ข้อ 3
"พระมหาไพรวัลย์" ร่ำไห้กลางไลฟ์ ระบายความในใจ เตรียมสึก!
เปิด 6 ชุดประจำชาติ “มวยไทย” ลุ้นชุดไหนไป “Miss Universe” กับ “แอนชิลี”
และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง ฉบับที่ 12 และให้ไม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้น และให้จำเลยทั้งสองมีคำสั่งห้ามเจ้าหนักงานภายใต้บังคับบัญชาปฏิบัติการในลักษณะกีดขวางการชุมนุมของโจทก์ทั้งสี่ และให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและเสรีภาพของประชาชน พร้อมยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในกรณีฉุกเฉินโดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้ระงับการบังคับใช้ข้อกำหนดและประกาศดังกล่าวและห้ามมิให้นำมาตรการ คำสั่ง หรือการกระทำใด ๆ ที่สั่งการตามประกาศดังกล่าวมาใช้กับโจทก์ทั้งสี่และประชาชนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด นั้น
บัดนี้ ศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ พ5080/2564 ได้ออกนั่งพิจารณาไต่สวนพยานหลักฐานแล้วมีคำสั่งอันสรุปใจความได้ว่า "แม้ข้อกำหนดและประกาศตามฟ้องที่มีเนื้อหาห้ามมิให้มีการชุมนุมจะเป็นการกระทบสิทธิเสรีภาพของบุคคลในการแสดงความคิดเห็นหรือการชุมนุม แต่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นข้อเท็จจริงซึ่งรู้กันอยู่ทั่วไปว่ายังคงมีการแพร่ระบาดอยู่ ทั้งได้ความตามคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินของโจทก์ทั้งสี่ว่า ในวันที่ 31 ตุลาคม 2564 จะมีประชาชนทำกิจกรรมรวมตัวกันไม่น้อยกว่า 10,000 ราย อันมีความสุ่มเสี่ยงที่อาจจะมีการแพร่ระบาดของโรคที่เป็นภัยต่อความปลอดภัยสาธารณะ กรณีจึงยังคงมีความจำเป็นที่ต้องบังคับใช้มาตรการตามข้อกำหนดและประกาศดังกล่าวต่อไป เพื่อป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคและประโยชน์สาธารณะโดยส่วนรวม ทั้งนี้ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เปลี่ยนแปลงไปและส่งผลให้ความปลอดภัยสาธารณะโดยส่วนรวมดีขึ้น ก็อาจจะไม่มีความจำเป็นในการบังคับใช้ข้อกำหนดและประกาศดังกล่าวต่อไป
ในชั้นนี้ตามคำร้องของโจทก์ทั้งสี่จึงไม่มีเหตุเพียงพอที่จะนำวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254 (2) มาบังคับใช้ ให้ยกคำร้อง”