"ก้อง ห้วยไร่" รับผิด ปกปิดเรื่องในอดีต เพราะความดัง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง "ก้อง ห้วยไร่" ยอมรับผิดคบซ้อน "เอ๋ - เบลล์" ขอโทษปกปิดเรื่องในอดีต เพราะความดังทำให้กลัวเรตติ้งตก

หลังมีเรื่องออกมาให้แฟนเพลงช็อกหลายระลอก ทั้งเรื่องซุ่มแต่งเงียบและเรื่องซุกลูก 3 คน รวมถึงเรื่องคบซ้อนระหว่างอดีตคนรัก "เอ๋ พัชรพร" และ "เบลล์ ขนิษฐา" ภรรยาคนปัจจุบัน ทำให้ "ก้อง ห้วยไร่" ถูกชาวเน็ตถล่มยับ ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจเคลียร์เรื่องราวทั้งหมดและยอมรับผิดกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้น 

“ก้อง ห้วยไร่” โพสต์ยอมรับ ซุ่มแต่งเงียบ “เบล ขนิษฐา”

ถามถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้น 
"มันเป็นความผิดของตัวเราเอง ผมต้องยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำไว้ เจตนาคือเห็นแก่ตัวมาก กลัวว่าความนิยมที่เราเคยได้รับมันจะหายไปหรือเปล่า มันก็เป็นความคิดของเด็กบ้านนอกมีโอกาสได้มาอยู่ตรงนี้ มันก็เลยคิดไปต่างๆนานาให้ตัวเองรอด แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเรื่องที่ทำลายความรู้สึกพี่น้องแฟนเพลง ผมต้องขอโทษ ( ไหว้ ) ทุกๆคนนะครับ และมีพี่สื่อๆหนึ่ง ( ไนน์เอ็นเตอร์เทรนด์ ) ที่พยายามถามผมตลอดว่าแต่งงานหรือยัง มีลูกจริงไหม ผมก็โกหกเขามาตลลอด เพราะเจตนาเหมือนเดิม คิดว่าจะปกปิดให้ความนิยมของตัวเองได้ ก็เป็นความเห็นแกตัวของผมเอง ผมต้องขอโทษจริงๆนะครับ 
เรื่องราวที่เกิดขึ้นปกปิดมานานแค่ไหน 
"ถ้าผมอยากจะเล่าต่อให้จบความสงสัยไปเลย ก็ตั้งแต่มีข่าวผมกับคุณ "เอ๋" ( เอ่ พัชรพร ) คบหากัน ก่อนที่จะมีชื่อเสียง ก่อนที่จะเข้าค่าย และผมก็คบกับ "เบลล์" ( เบลล์ ขนิษฐา ) ในขณะที่คบกับคุณเอ๋อยู่ ชาวเน็ตพยายามถามว่าผมคบซ้อนไหม ผมคบซ้อนครับ ผมขอโทษเอ๋ด้วยนะครับ ผมทำร้ายจิตใจเอ๋ ทำให้ผิดหวัง เสียใจ แต่ก็พูดด้วยความจริงว่า ผมขอโทษ ผมเลือกที่จะรักเบลล์ และกลับกลายเป็นผมพร้อมที่จะแต่งงานกับเบลล์" 
"เบลล์"รู้ไหม
"ตอนนั้นเบลล์ยังไม่รู้ หลังจากที่เริ่มคุยกันได้สักพัก เพราะผมไม่เคยเปิดตัวเอ๋เลย จริงผม คือผมโสด บางคนก็ถามว่าตกลงโกหกใช่ไหมที่โดนเมียทิ้ง แล้วแต่งเพลง "ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน" ซึ่งจริงๆมันเกิดภรรยาที่ผมมีบุตรด้วยกัน 2 คน แล้วหย่าร้างกัน นี่คือไม่มีอะไรนะครับ จนผมมาทำงานที่นิติพลคลินิคและได้รักกับผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่น และตั้งความหวังว่าจะสร้างชีวิตครอบครัว เหมือนตอนนั้นเรื่องราวมันเกิดขึ้นมาเร็วมาก เป็นช่วงวัยรุ่นคึกคะนองคิดว่าตัวเองเจ๋ง และอีกอย่างหนึ่งที่ผมไม่เคยคิดเลยว่าอนาคตข้างหน้าผมจะต้องเป็น ก้อง ห้วยไร่ ณ ตอนนั้นคะนองมาก ก็สนุกสนาน เจ้าชู้ พอมีแฟนหลังจะจดทะเบียนหย่าจากภรรยาที่แต่งงานกันครั้งแรก ก็มีแฟนใหม่แล้วโดนบอกเลิก ก็กลายเป็นความเจ็บปวดที่เราเคยทำกับภรรยาเก่า มาโดนกับตัวเองเลยเขียนเพลงขึ้นมา ซึ่งเรื่องนี้ผมปิดบังอีก ก็ต้องขอโทษ ( ไหว้ ) นะครับ คือสาวนิติพลครับที่ทำให้ผมแต่งเพลง "ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน"  ขึ้นมา เพราะบางคนเอาไปโยงว่าตกลงผมไปทิ้งเอ๋มาเพื่อคบกับเบลล์ แล้วทำไมถึงโกหกแฟนเพลงว่าแต่งเพลงเพราะอกหัก นี่คือเป็นที่มาที่ไป" 
"เบลล์" รู้เรื่องแล้วว่ายังไงบ้าง
"มันรักกันไปแล้ว ผมกับเบลล์ยอมรับผิดทุกอย่าง ขอโทษเอ๋ด้วย ไม่ได้คุยกันตั้งแต่วันที่ตัดสินใจเลิก เพราะผมกับเอ๋ได้หมั้นกันพิธีทางอีสาน ไม่ได้แต่งงาน ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน"


ทาง "เอ๋" ออกมาชี้แจงเรื่องสินทรัพย์ 
"มันเป็นการเชื่อมโยงที่ไม่ใช่ตัวเราพูด แล้วเขารู้สึกว่าเขาถูกทำร้าย ซึ่งถ้าผมเป็นเขาผมก็อยากออกมาพูด จรองๆทุกคนออกมาด้วยความเจ็บปวด เอ๋ออกไปด้วยความเจ็บปวด แล้วทำไมต้องไปตอกย้ำเขาอีก ซึ่งเอ๋พูดเป็นสิ่งที่ถูกต้องครับ" 
ได้คุยหรือเคลียร์กับทาง "เอ๋" หรือยัง
"ยังไม่คุยกับเอ๋ตั้งแต่วันที่ตัดสินใจแยกทางกัน ด้วยความที่เป็นคู่หมั้นแล้วแยกทางกันนะครับ คือเงินที่หมั้นหมายกัน ผมเป็นคนผิดสัญญาหมั้น ผมเป็นคนเลิก ผมก็ให้เอ๋ไปโดยที่ไม่ได้ทวงคืน ก็เป็นในส่วนตรงนั้นไป มีส่วนที่เอ๋ออกมาพูดในส่วนรายได้จากการทำงานของผม ซึ่งผมก็..เอาอย่างนี้นะเอ๋ ถึงไม่สามารถที่ใช้คำว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขได้ ตอนนั้นผมเป็นเน็ตไอดอลแล้ว มีคนรู้จักจากการดีดกีต้าร์ลงเฟซบุ๊กเพลง "ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน" จนพี่กบเอามาทำเป็นเพลง แต่เราอยู่ในฐานะคู่หมั้นกัน เงินที่หามาได้ทุกบาททุกสตางค์แบ่งคนละครึ่งได้ไหม คือตัวผมเองก็ต้องดำเนินชีวิตต่อ ผมต้องมีค่าใช้จ่าย ผมมรเรื่องเงินเดือนของพ่อแม่ พี่สาว ญาติๆที่ผมได้เคยพูดไป ก็เลยขอเอ๋มาซึ่งเป็นเงิน 1.8 ล้านบาท แบ่งกันได้คนละ 9 แสน ใน ณ ตอนนั้น" 
แล้วตอนนี้ได้ยกหูเคลียร์ใจกับ "เอ๋" หรือยัง
"ยังไม่ได้เคลียร์ใจครับ เพราะกลัวว่าเขาจะไปรับข้อมูลว่าเราอยากทำร้ายเขา เราทำร้ายเขาไปมากแล้ว คือการยิ่งพูดถึงเขายิ่งไปทำร้ายเขาอีก ก็ได้แต่ฝากพี่ๆ คือด้วยความสบายใจของผมด้วยและของภรรยาของผมคือน้องเบลล์ เราไม่คุยกันเรื่องเก่าๆ เลยปิดช่องทางการติดต่อของผมกับเอ๋ ก็เลยไม่ได้ติดต่อกัน ก็ให้มันจบไป"
จบไม่สวยเท่าไหร่
"ไม่สวย เพราะผมเป็นคนคบซ้อนและทำให้เขาต้องเสียใจ เหมือนตอนนั้นผมเคยบอกวื่อว่า ผมแอบชอบเบลล์มานานมาก ความรักของผมกับเอ๋เกิดขึ้นเร็วมากและตัดสินใจหมั้นกัน โดยที่...ตกลงรักกันดีไหม สุดท้ายแล้วเอ๋เป็นคนดี แต่ผมกลับไม่เลือกเขา ทั้งที่เขาเป็นคู่หมั้นแล้ว ทำให้เขาต้องเจ็บช้ำน้ำใจ ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างมันกระทบตัวผมแน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว ผมต้องรับมันให้ได้"


"เบลล์"เขารู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้ไหม
“ความรู้สึกผู้หญิงเหมือนกันครับ ผมถามเขาว่า เอาตรงๆเลยนะเบล ถ้าได้พูดกับเอ๋ โดยที่ไม่ต้องผ่านใคร ถ้ามีโอกาสจริงๆ ก็อยากให้เขาได้คุยกัน แล้วก็ให้เบลขอโทษเอ๋ ผมกับน้องไข่เจียวก็อยากไปขอโทษเอ๋ ว่าถ้าไม่เลิกกันวันนั้น ถ้าไม่มีเรื่องราวร้ายๆกันวันนั้น วันนี้ฉันมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่ผมก็ต้องขอโทษความรู้สึกของแฟนเพลง ของเอ๋ ญาติของเอ๋ แล้วก็ทุกคนที่เข้าใจความรู้สึกที่ผมโพสต์รูปลูกเมียบ่อยๆ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ มันอาจจะเป็นความสุขของผม แต่ผมก็ลืมมองไปว่า ความสุขของผมมันอาจจะไปทำร้ายจิตใจคนอื่นด้วยครับ
แล้วอีกเรื่องหนึ่ง ก็อยากจะบอกผ่านสื่อ ก็คือเรื่องของลูกอีก 2 คน ก็มีคนเข้ามาถามว่าทำไมรักลูกไม่เท่ากันเหรอ ทำไมไม่โพสต์รูปลูกทั้ง 2 คนแรก ที่ 10 ขวบ กับ 11 ขวบ ไล่เลี่ยกัน เขากำลังอยู่ในวัยที่เพื่อนๆกำลังล้อ วันนั้นที่ผมเปิดตัวน้องไข่เจียว เขาก็ไม่ได้ตามข่าว แล้วเขาไปโรงเรียน เพื่อนก็ทักว่าปิ๊งโกหก เพราะว่าผมได้เลิกลากับภรรยาเก่าตั้งแต่ลูก 6 ขวบ ซึ่งผ่านมา 4-5 ปีแล้ว ไม่แน่ใจ แต่ก็หลายปีครับ”
กลัวลูกมีปมไหม
“คุยกับเขาตลอดแล้วเขาก็มาหากัน ปิ๊ง ปลื้ม ไข่เจียวจะมาหากันแล้วก็จะวิดิโอคอล ลูกๆเข้าใจครับ แต่สิ่งที่ผมไม่เอารูปลูกมาโพสต์เพราะว่าความไม่สบายใจของลูกผม เขารู้สึกไม่โอเคที่เวลาโดนเพื่อนล้อว่าถ้าพ่อก้องเป็นพ่อจริงๆ ทำไมไม่มาหาปิ๊งกับปลื้มบ้าง เพราะผมได้เลิกรากันไปแล้ว ให้เกียรติภรรยาเดิมที่จดทะเบียนสมรสกันครั้งแรกนะครับ เพราะวันที่จดทะเบียนสมรสมันต้องมีการเซ็นว่าใครเป็นคนดูแลบุตร เขาเป็นคนดูแลลูกตั้งแต่เล็กจนโต แต่พอวันนึงที่ออกสื่อปุ๊ปแล้วผมไปโพสต์อวดลูก 2 คนทั้งที่ผมไม่ได้เลี้ยงเขา เขาก็ไม่มีความสุข ซึ่งตอนนี้ที่เป็นข่าววันนั้น ผมกับปิ๊งปลื้มยังไม่ได้คุยกันเลย เขาบล็อคข้อความผม เขาไม่ได้โกรธผมนะ เขาบอกกลัวแม่ด่า"
จริงๆ ได้มีการส่งเสียเลี้ยงดูหรือเปล่า
“ก่อนที่จะเป็น ก้อง ห้วยไร่ ไม่ได้มีการส่งเสียเลี้ยงดู เพราะผมก็ยังเอาตัวเองไม่รอด เลิกรากันไปผมก็ไปทำงานก่อสร้าง ไปแจกใบปลิวที่คลินิก ก็ยังไม่มีการส่งเสีย จนเริ่มเป็นก้อง ห้วยไร่ แล้วมีงานคอนเสิร์ตที่เรณูนคร ซึ่งมันใกล้กับบ้านเขา ผมเลยคุยกับผู้จัดการว่า ผมอยากไป ผู้จัดการก็ถามว่าถ้าไปพ่อแม่ของฝ่ายหญิงเขารับก้องได้ไหม เพราะก้องทิ้งเขามา 5-6 ปีแล้วอ่ะ ผมขอเสี่ยง ก็เลยไป ลูกกอดผมร้องไห้ ซึ่งตอนนั้นได้บันทึกเพลงแล้วนะครับ แต่ว่ายังไม่ได้มีเงินอะไรมากมาย ผมก็ส่งให้เดือนละ 1 หมื่นบาท โดยที่พ่อตาเดิมท่านเป็นคนดีมากก็เปิดบัญชีให้ลูกผมอายุ 18 ปีก่อนค่อยเบิกได้ ลูกไปโรงเรียนอยากได้รองเท้าฟุตบอล อยากได้อุปกรณ์การเรียน โทรศัพท์มือถือ ให้เขาตั้งใจเรียน ถ้าเกิดว่าสอบได้ที่ 1 ก็จะซื้อให้"
ทุกวันนี้ก็ยังส่งเสียลูก
“ทุกวันนี้ก็ยังเหมือนเดิมทุกเดือนครับ ก็มีช่วงนี้ที่บอกลูกว่าพ่อซื้อรถตู้ใหม่ ใช้เงินเยอะมาก ขอสัก 2-3 เดือนนะ ก่อนเปิดเทอม ไม่เป็นตัวเงิน แล้วเดี๋ยวจะพาลูกไปเที่ยว แล้วเดือนนี้ก็พาไปซื้อกระเป๋า รองเท้าวิ่ง แม่เขาชอบวิ่ง เป็นอดีตนักกีฬาทีมชาติ”
ภรรยาเก่ากับลูกๆ เข้าใจไหม
“ถามว่าเข้าใจไหม ตั้งแต่เลิกรากันไม่ได้คุยกันเลย เขาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเขาสามารถเลี้ยงลูกๆ ได้ ชั้นเลี้ยงขนาดนี้แล้วไม่ต้องมาเลี้ยงตาอหนอก แต่ว่าก็ไปขอเขา ขอทำหน้าที่หน่อย ตอนนี้มีรายได้แล้ว”
กับภรรยาคนนี้จบกันด้วยดี ทุกวันนี้ก็ปกติ
“ปกติครับ เพราะไปเซ็นหย่าถ้าทะเลาะกันเจ้าทะเบียนเขาไม่ให้เซ็น ถ้าพูดไปก็ให้เป็นสตอรี่ที่นี่นะครับ ผมกับภรรยาเก่าเป็นนักกีฬา เราไปแอบมีอะไรกันแล้วตั้งท้อง”

พูดเพราะอยากสบายใจ
“สบายใจผมด้วยเพราะจะได้รู้ว่าเกิดขึ้นจากอะไร มึงไม่รักเขาหรอถึงพอเขามีลูกถึงไปทิ้งเขา พอท้องวัยรุ่นก็จะเอาลูกไปทำแท้ง เขาก็ไม่สามารถบอกครอบครัวเขาได้ เรียนปริญญาโทอยู่ แล้วก็เป็นนักกีฬาทีมชาติด้วย ผมก็เลยเอางี้ ปกปิดพ่อแม่คุณนะว่าติดซ้อม ในขณะที่ท้องโตใกล้คลอด ผมรับลูกของผมมาเลี้ยงคนเดียวปีครึ่งครับ ภรรยาเก่าไม่ได้มาเลี้ยงช่วยนะครับ
ตอนนั้นก้องอายุเท่าไหร่
“ตอนนั้นอายุ 21-22 กำลังคะนองเลยครับ ซึ่งเพื่อนๆที่เรียนอยู่รามคำแหงจะรู้ว่าผมจะอุ้มลูกไปเรียนหนังสือด้วย อุ้มลูกไปดีดกีต้าร์ร้องเพลงด้วย อย่างลูกคนที่สองเกิดจากการมาหากัน แล้วก็ท้องอีกครับ เขาก็ไม่ไหวแล้ว ถ้าท้องอย่างนี้อีกจะปิดก็ปิดไม่อยู่แล้วแหละเพราะว่าตอนนี้เขาเป็นอาจารย์มหาลัยแล้ว เขาไม่สามารถหลบได้ พอท้องอีก ผมก็เลยขอเบอร์พ่อของภรรยาเก่า โทรไปบอกกับพ่อ ผมทำลูกพ่อท้อง ลูกคนหนึ่งอายุขวบกว่า และอีกคนในท้องอีก 4 เดือน พ่อเขาตกใจเพราะอนาคตลูกเขากำลังไปได้ดี พ่อเขาก็บอกเอาอย่างนี้แล้วกัน กลับบ้าน น้องปิ๊งลูกคนแรกกินอะไรตั้งปีกว่าโดยที่ครอบครัวฝั่งนั้นไม่รู้เรื่องเลย ผมก็เลี้ยงตามอัตภาพของผมนี่แหละ เขาก็บอกให้มาทำให้ถูกต้อง มาแต่งงานกัน ก็เลยแต่งงาน จดทะเบียนสมรสกัน อยู่ด้วยกันได้ไม่กี่เดือนก็เลิกรากันไปด้วยความที่เขาต้องไปทำงานแล้วผมอยู่บ้านอย่างเดียวเลี้ยงลูก ตัดสินใจเลิกกันเพราะลูกโตแล้วและครอบครัวเขาโอเคครับ”

 “ก้อง ห้วยไร่” สารภาพมีลูกแล้ว 3 คน 


ช่วงเวลาที่เป็น "ก้อง ห้วยไร่" เลือกจะปกปิดเรื่องราวในอดีต รู้สึกอึดอัดใจไหม
“อึดอัดครับ ไม่อยากโกหกเลยทุกเรื่อง ขอเท้าความครั้งแรกที่ก้าวเข้ามาในเส้นทางนักร้อง ถูกกล่าวหาว่าไปโกงเงินเขา ถูกกล่าวหาว่าไปเป็นผัวอยู่ต่างประเทศ ถูกกล่าวหาว่าไปเอาโทรศัพท์มือถือ ถูกทำร้ายแต่พยายามคิดว่าถ้าเราไปสู้แล้วเรากลับไปอยู่จุดเดิมล่ะ กลับไปแล้วคนเกลียดเรา ต้องกลับไปแจกใบปลิวเหมือนเดิมมันไม่ไหว ก็นิ่งดีกว่า ทั้งที่อยากจะพูดแทบตาย”
วันนั้นอะไรที่ทำให้ตัดสินใจโพสต์ยอมรับ
“ตัดสินใจโพสต์เพราะว่าถ้อยคำที่เขาใช้โพสต์มันรุนแรงมาก เขาด่าแม่ผมว่าเป็นโสเภณี ชาวเน็ตด้วยและตัวของเขาด้วยเพื่อต้องการอยากให้ผมไปตอบโต้อะไรบ้าง”
เขาคนนั้นคือใคร
“เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ต่างประเทศครับ ซึ่งมันมีคดีความกันแล้วนะครับ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมาว่าเรา ซึ่งใครที่ติดตามข่าวตั้งแต่แรก ไหนๆก็เล่ามาแล้ว บางครั้งมันก็ต้องเก็บความอดทนตรงนั้น เราถูกคนโจมตีว่าเป็นครอบครัวที่เลวร้ายมาก ไปหลอกเมียฝรั่ง เอาเงินเขาสามสี่แสน ซึ่งไม่มีแม้แต่บาทเดียว แล้วเขาก็อัดคลิปด่าเป็นตุเป็นตะ แต่ผมก็เลือกที่จะนิ่ง เพราะคิดว่าสักวันหนึ่งผมคงมีโอกาสเหมาะๆได้พูด จนวันหนึ่งพอมันเป็นคดีความ ผมไปแจ้งความ เพราะว่ามันไม่ไหวจริงๆ เขาด่าแรงมาก ข้อหาหมิ่นประมาท สุดท้ายเขาก็ไปลบทุกอย่างออก ก็ไม่มีอะไรต้องติดใจกันแล้ว ไม่ต้องไปจองกรรมกัน ผมก็เลยไม่ได้พูดต่อแล้ว คนที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรก็คิดมาเสมอว่าผมก็ยังเป็นคนที่ไปโกงเขา ทั้งๆที่พาสปอร์ตผมเพิ่งได้ครั้งแรกตอนผมไปสวิตเซอร์แลนด์”
ณ ตอนนี้ยังมีเรื่องอะไรที่ปิดบังอยู่ไหม หรือ อยากจะพูดอะไรหรือเปล่า
“ตอนนี้อยากจะขอโทษพี่สื่อมวลชน และ ที่สำคัญพี่สื่อ ( ไนน์เอ็นเตอร์เทน )  ที่พี่เขาไปรับข้อมูลมาจริง แล้วมาถามว่าตกลงก้องแต่งงานจริงไหม ก้องมีลูกจริงไหม ซึ่งผมก็ตอบบ่ายเบี่ยง ทำให้เหมือนกับว่าพี่เขาเอาข้อความเท็จมาปรักปรำเรา เพื่ออยากดิสเครดิตเรา แต่จริงๆ มันคือความจริง แต่เราพยายามบ่ายเบี่ยงเขา และขอโทษพี่น้องแฟนเพลงทุกคน ขอโทษพี่ๆ สื่อ ขอโทษความรู้สึกของทุกๆคนที่เสียไป และสำคัญที่สุด ขอโทษทุกๆคนที่เข้ามาในชีวิตผมที่ผมทำร้ายเขาด้วยความคึกคะนอง ทำร้ายด้วยการเลิกรา ทำร้ายในช่วงวัยรุ่น และทำร้ายในความที่ มองแค่ว่า ฉันจะต้องเป็น ก้อง ห้วยไร่ ในอีก 5-6 ปี ข้างหน้าเหรอ ฉันจะต้องเป็นคนที่มีคนรู้จักเหรอ ฉันจะต้องเป็นคนที่มีคนอยากรู้เรื่องราวของฉันทุกเรื่องเหรอ ผมคึกคะนอง ผมขอโทษครับ”
ฟีดแบคจากชาวเน็ตไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“ผมไม่ได้ตามเลยครับ”
คนค่อนข้างตราหน้าเราว่าเป็นคนโกหก
“ยอมรับครับ เพราะผมโกหกจริงๆ “
ตอนนี้ออกมาพูดก็ไม่กังวลเรื่องชื่อเสียงแล้ว
“สบายใจแล้ว เพราะผมอยากให้ครอบครัวของผมที่มีปัจจุบันอยู่กันอย่างมีความสุข ครอบครัวน้องเบล คุณพ่อคุณแม่น้องเบลจะได้ไม่ต้องรู้สึกเสียใจที่ลูกเขามาแต่งงาน ใช้ชีวิตอยู่กับเรา เบลจะได้ไม่เสียใจที่เขามาใช้ชีวิตอยู่กับเรา ลูกของผมที่กำลังโต น้องไข่เจียว ผมว่าเมื่อเขาโตขึ้นเขาอาจจะไม่รู้เรื่องนี้หรอก ถึงรู้ก็อาจจะน้อย แต่ผมจะไม่อ้างว่ากลัวกระทบจิตใจลูกนะครับ ผมไม่ได้กลัวกระทบจิตใจลูก แต่ผมปิดบังเพราะผมกลัวว่าตัวเองจะเสื่อมความศรัทธา ความรัก เพราะว่าช่วงนั้นรับงานหนัง ละคร พรีเซ็นเตอร์เยอะมาก จนทำให้มองแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง”
ตอนนี้ไม่กลัวแล้ว
“ไม่กลัวตรงนั้นแล้ว สิ่งที่ผมได้รับมาผมว่าเหมาะสมและสาสมกับสิ่งที่ผมได้โกหกไปแทงทุกเรื่อง และวันนี้ได้พูดทุกอย่างแล้ว ก็จะโล่งใจ จริงๆ ช่วงปีใหม่อะไรต่างๆ ผมอยากไปหาพี่ๆสื่อ แต่กลัวพี่ๆถามแทงใจดำแล้วไม่กล้าตอบ ทำให้ทุกๆปีใหม่ผมไม่กล้าไปเหมือนศิลปินคนอื่น แต่ปีนี้ไปได้แล้ว แต่ขอพารูปไปด้วยได้ไหมครับ”
“ก้อง ห้วยไร่” เผยนาทีเชิญ “โน๊ต อุดม” ประธานงานแต่ง

“เบล ขนิษฐา” เล่านาที “ก้อง ห้วยไร่” ขอทอนค่าสินสอด “บาทนึง”

ขอบคุณภาพจาก FB ก้ง ห้วยไร่ , เอ๋ พัชรพร สาวน้อย

TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ