“ต้นหอม” ตอกกลับ “ปู ไปรยา” เป็นฝ่ายไม่ทำตามสัญญา


โดย PPTV Online

เผยแพร่




“ต้นหอม ศกุนตลา” เผยสาเหตุแตกหัก “ปู ไปรยา” เหตุอีกฝ่ายไม่ทำตามสัญญา ลั่นอีกฝ่ายเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์เอง

เรียกว่าเป็นศึกพ่นน้ำลายผ่านโซเชียลอย่างดุเดือด สำหรับกรณีที่นางเอกสาว ปู ไปรยา ออกมาบอกผ่านสื่อว่าได้ถอนตัวจากธุรกิจอาหารเสริมของ ดีเจมะตูม เตชินท์ และ ต้นหอม ศกุนตลา นานแล้วและปล่อยให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของกฏหมายพร้อมย้ำว่าตนเองทำหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ดีที่สุดแล้ว แต่เหมือนว่าจะให้ฝั่ง ดีเจมะตูม ไม่พอใจฉะกลับแบบทันควัน ล่าสุดสาว ต้นหอม หนึ่งในหุ้นส่วนได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวผ่านสื่อว่า 

ซัดเดือดโซเชียล ปม “ปู ไปรยา” ถอนตัวธุรกิจอาหารเสริมร่วม “มะตูม - ต้นหอม”


"หอมจะไล่ไปเท่าที่ไล่ได้ มันมีเรื่องคดีความที่เกี่ยวข้อง คดีความเรายังไม่ได้ถูกตัดสินสิ้นสุด ฉะนั้นมันไม่สามารถลงดีเทลลึกได้ เอาเรื่องคดีความก่อนเลยว่า เรามีปัญหาด้านธุรกิจกัน แล้วคดีของการฟ้องร้อง ที่เรายื่นฟ้องร้องเขาไปเนี่ย มันประมาณปีที่แล้ว แล้วบอกเลยว่าในเรื่องของการฟ้องร้องเป็นเส้นทางสุดท้ายที่เราเลือกจริงๆ เราพยายามเหลือเกินที่ไม่อยากเห็นภาพนี้เกิดขึ้น ในวันที่เราตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกัน เราคุยกันแล้วว่าไม่อยากเห็นภาพนี้ ไม่อยากเห็นภาพของการฟ้องร้อง ไม่อยากเห็นภาพของการสัมภาษณ์สื่อแล้ววางบอมพ์ใส่กัน กลายเป็นว่าวันนี้ทุกอย่างเกิดขึ้นหมดเลย แม้กระทั่งตัวหอมเองที่น่าจะเบากว่านี้ก็ไม่ มันเริ่มจากการที่เราร่วมงานกัน คือการทำธุรกิจขนาดนี้ มันจะมีหนังสือสัญญาอยู่แล้ว ทุกคนมีสัญญาฉบับเดียวกัน ทุกอย่างน้องเป็นคนเขียน ตั้งแต่เราติดต่อไปแล้ว ใจเราอยากได้เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ณ ตอนนั้น แต่เราก็ให้ทางเลือกน้อง ว่าน้องอยากเป็นพรีเซ็นเตอร์หรืออยากเป็นบอส ทุกอย่างน้องเป็นคนเลือก เลือกเป็นบอส เราให้น้องร่างสัญญาเลยอยากได้แบบไหนร่างมา แล้ว ณ วันนี้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือพอมีอะไรที่มันผิดสัญญาเกิดขึ้น มันเลยพาทุกอย่างให้มาไกลถึงการฟ้องร้อง แต่หอมจะพูดในมุมบริษัทว่ากว่าที่เราจะเลือกฟ้องร้อง บริษัทเลือกประนีประนอมมาก่อนนะคะ เรายื่นโนติสถึง 3 ครั้ง 3 ฉบับด้วยกัน ฉบับที่หนึ่งเป็นการบอกว่ากลับมาทำงานนะ มันยังมีสัญญาระหว่างกัน สิ่งที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นตอนตลาดออนไลน์ล้ม มันไม่ได้ล้มเป็นโดมิโน่ มันล้มเหมือนสึนามล้ม แล้วบริษัทเราล้ม พอล้มปุุ๊บ ณ ตอนนั้นเจ้าของไม่มีสิทธิ์สละเรือ เพราะถ้าเจ้าของแบรนด์สละเรือ กลายเป็นตัวแทนจะลำบาก ซึ่ง ณ วันนั้นเราก็ยื่นโนติสว่าน้องกลับมาทำงานนะ แล้วโนติสฉบับที่สองถูกยื่นไปอีกครั้งหนึ่ง ก็เหมือนเดิมว่ากลับมาทำงานนะ ซึ่งแต่ละฉบับมันใช้เวลาห่างกัน เราไม่ได้รับการติดต่อเลย โนติสสองฉบับเราได้รับการเพิกเฉยมาโดยตลอด จนกระทั่งฉบับที่สามมันเหมือนฟางเส้นสุดท้ายจริงๆ เพราะว่าตัวแทนเราก็ไม่ไหวแล้ว บริษัทเราต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราจึงทำการปลดออก ทีนี้ข่าวนำเสนอออกไปเหมือนเขาถอนตัว ถ้าถอนตัวมันเหมือนบริษัททำผิด แต่ไม่ใช่นะคะ ณ วันนี้บริษัทเราเป็นผู้ถูกกระทำ เราปลดเพื่อที่เราจะได้ดำเนินการต่อ ฉะนั้นพอเป็นการปลด การฟ้องร้องจึงเป็นสิ่งที่ตามมา อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
เป็นการแตกหักเรื่องเงินใช่ไหม
“ต้องไปถามเขา แต่สำหรับหอม หอมรู้สึกว่าความคาดหวังของน้อง ผลประโยชน์มันน่าจะประมาณนี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น หอมคอนโทรลไม่ได้จริงๆ เพราะตลาดออนไลน์มันล้ม ล้มแล้วเราทำได้เพียงแต่ลุกขึ้นมาช่วยกันสร้าง ฉะนั้นวันนี้มันเป็นแบบ “มะตูม” ก็ต้องอุ้มบริษัทขึ้นมา”
เหมือนเป็นการสาดน้ำลายใส่กัน
“ก็รู้สึกแย่ที่เกิดภาพแบบนี้เกิดขึ้น”
เหตุผลการฟ้องเกิดจากอะไร 
“เหตุผลคือไม่ได้รับความร่วมมือในฐานะเจ้าของแบรนด์ เจ้าของแบรนด์ทิ้งแบรนด์ไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าทิ้งแบรนด์เท่ากับทิ้งตัวแทน”
เขาบอกมีปัญหาอะไร เขาต้องออกมาออกหน้าคนเดียว
“ประโยคนี้ เวลามีปัญหาน้องต้องออกมาแทนที่จะเป็นเจ้าของออกมา น้องคือเจ้าของ หน้าที่น้องไม่ใช่แค่ตอบสื่อและดูแลภาพลักษณ์ น้องต้องทำงานมากกว่านั้น น้องไม่ใช่พรีเซ็นเตอร์ ฉะนั้นถ้าวันนี้เจ้าของแบรนด์บอกว่าการออกมาสัมภาษณ์เป็นเรื่องที่เหน็ดเหนื่อย ไม่แปลกที่วันนี้แบรนด์เราเจ๊ง
“ปู” เป็นเจ้าของไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์เหรอ
“น้องเป็นเจ้าของหุ้นค่ะ เจ้าของหุ้นโปรดักซ์ของเรา แล้วก็คือการสัมภาษณ์ของน้อง ชี้ชวนให้รู้สึกว่าเราเอาชื่อเสียงเขามาอย่างเดียว มันเหมือนบริษัทหลอกลวงประชาชนว่า แค่เอาชื่อเขามาเหรอ เขาไม่ได้เป็นเจ้าของจริงๆ แต่น้องเป็นเจ้าของจริงๆ ตรงนี้หอมยืนยัน น้องก็พูดว่าเขาคือเจ้าของ ทุกคลิปทุกการเปิดตัว น้องบอกน้องเป็นเจ้าของ”
มีเรื่องที่โยงกันว่า “หอม” ไปว่าเขา
“เอาเรื่อง “มะตูม” ก่อน ทีละอัน มะตูมกับน้อง เขาเป็นคนทำงานกับมะตูมมาโดยตลอด มะตูมกับปูต้องทำงานร่วมกัน เพราะเขาอารมณ์พอกัน มีมะตูมดีลกับเขาได้คนเดียว มะตูมดีลกับเขาโดยตลอด ถ้าเขาขึ้นมะตูมขึ้น ถ้าเขาด่ามะตูมด่า ถ้าเขาเหวี่ยงมะตูมเหวี่ยง ฉะนั้นมะตูมคือคนที่ทำงานกับเขามาโดยตรง พอเขาสัมภาษณ์แบบนี้ปุ๊บ แน่นอนว่าเอฟเฟ็กต์มันตีกลับมาทางนี้ เพราะคนเข้าใจผิด แล้วเขาก็จะโดนตัวแทนเหมือนกัน เพราะตัวแทนตีกลับไปหาเขาเหมือนกัน มันทำให้ความเคยชิน พอเขาให้สัมภาษณ์แบบนี้ปุ๊บ มะตูมก็ขึ้น มะตูมเป็นคนธรรมดาคนนึงเลย ส่วนหนึ่งมะตูมรู้สึกผิดที่พาเขาเข้ามา มะตูมเคยโทรมา วันที่เราแตกหักทะเลาะกันนี่แหละ มะตูมร้องไห้แล้วบอกว่าขอโทษนะที่พาเขาเข้ามา  เราบอกว่าไม่เป็นไรมะตูม ถ้าย้อนเวลากลับไปได้พี่ก็ยังอยากร่วมงานกับเขา เพราะ ณ วันนั้นเขาคือคนที่เหมาะสมจริงๆ แล้วถ้าย้อนเวลากลับไปได้เราคงคุยกันดีกว่านี้ หอมจะพยายามไม่ให้เกิดเรื่องถึงการฟ้องร้องอย่างทุกวันนี้ อยากทำให้ดีที่สุด คือก่อนหน้านี้เอาจริงๆ ส่วนตัวหอมไม่ได้มีอะไร แต่พอหลังฟังคำสัมภาษณ์ หอมยอมรับว่าหอมมีอารมณ์ขึ้นจริงๆ มันรู้สึกช็อก ไม่รู้รู้สึกอะไร แต่หอมรู้สึกไม่ดีแหละ อารมณ์ไม่ดี"


หลังจากวันที่เขาสัมภาษณ์เขาติดต่อมาไหม
“หลังวันที่เขาสัมภาษณ์ น้องติดต่อมะตูมมา โดยการไลน์หาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่มะตูมก็พูดกับเขาตรงๆนะ ว่าเขาไม่ควรสัมภาษณ์แบบนี้ เพราะยูพูดแบบนี้ดีเข้าตัวแล้วทุกอย่างมาลงทางนี้ โอเค น้องไลน์มาแล้วอยากจบ จริงๆ วันนี้เป็นเรื่องของเราและเขาแหละไม่ใช่คนนอก ไม่อยากบอกให้คนนอกรับรู้มากมาย มันควรเป็นเรื่องภายในบริษัท ควรเป็นเรื่องที่คุยกันหลังบ้าน ซึ่งมะตูมจะบอกว่าทำไมไม่คุยกันหลังบ้าน เรื่องแบบนี้ไม่ควรเอามาออกสื่อ ส่วนเรื่องในเฟซบุ๊กที่บอกว่าผู้จัดการโพสต์เขาไม่ใช่ผู้จัดการนะคะ เขาคือรุ่นน้องคือเพื่อนที่ตามเราไปไหนมาไหน ความผิดหอมคือหอมดันไปเมนต์ต่อ ความผิดหอมเรื่องเดียวในวันนี้คือหอมใช้วาจาที่หยาบคาย ปกติพื้นที่ส่วนตัวตรงนั้นเฟซบุ๊กเพื่อนคนนี้ก็อารมณ์เกรียนคีย์บอร์ดอยู่แล้ว ทุกอย่างหยาบหมดในนั้น แต่มันไม่เคยถูกเอามาแชร์ในโลกสาธารณะ วันนี้หอมก็ได้บทเรียนว่าพอออกมาในโลกสาธารณะ กลุ่มคนมันกว้างขึ้น มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ” 
เราเม้นท์จริงใช่ไหม
“เม้นท์เองค่ะ ยอมรับว่าพออยู่ในที่สาธารณะมันแรง ต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”
ยอมรับว่าพาดพิงเขา
“หอมไม่ได้พาดพิงเขา หอมพูดได้เหรอว่าหอมพาดพิงเขา หอมไม่ได้พูด”
อยากให้จบยังไง
“เอาจริงๆ หอมอยากให้เคลียร์ แต่ทั้งหมดต้องถามหุ้นส่วนว่าทุกคนว่ายังไง ปูไลน์มาหามะตูมว่าอยากจบ แต่ทนายเราบอกว่าทนายฝั่งเขาบอกว่าไม่ไกล่เกลี่ย เราก็ไม่แน่ใจว่าตกลงคุณยังไงกันแน่ แต่สุดท้าย หอมอยากบอกว่า ณ วันนี้ถ้าเป็นเรื่องคดีความให้กฎหมายดำเนินการไปตามขั้นตอน ดาราไม่ควรมีภาพนี้แล้ว หอมก็บอกตัวเองเหมือนกันว่าเราควรมีสติมากขึ้น ไม่วางบอมบ์ใส่กันแล้ว เพียงแต่ว่าเขาไลน์มาแต่มะตูมก็ยังไม่ได้ตอบ เพราะมะตูมรู้สึกว่ามันมีประโยคที่อะไรก็ตาม น้องอยากให้เราคุยผ่านทนาย แต่เรารู้สึกว่าโอเคเรื่องคดีความเราคุยผ่านทนายกันอยู่แล้ว แต่เรื่องของใจ ความจริงใจที่ให้แก่กัน มันไม่ต้องผ่านทนาย น้องโทรมาเลย วันที่เราร่วมธุรกิจกัน เรามีสี่คน คุยได้ พี่ว่าพวกพี่แมนพอ มีอะไรคุยกัน สุดท้ายแล้ววงการต้องไปต่อ เราไม่รู้ว่าวันหนึ่งเราอาจร่วมงาน ร่วมธุรกิจกัน เจอกันอะไรอีกก็ได้ คีฟรีเลชั่นชิพเอาไว้ดีกว่า”
กระทบธุรกิจเราไหมอย่างเขาบอกสงสารตัวแทน 
“การสัมภาษณ์เขากระทบตัวแทน เพราะกลายเป็นว่าตัวแทนกำลังจะฟื้น แต่พอบอกว่าธุรกิจเหมือนได้เงินมาง่ายมันไม่ดี มันไม่ใช่นะคะ การทำธุรกิจเรายังมีดาราอีกหลายคนที่ทำธุรกิจทำแบบจริงจัง และธุรกิจวันนี้น้องไม่ทำ แต่คนอื่นยังทำอยู่ ก็อยากให้เข้าใจว่าบางคนใช้อาชีพออนไลน์เป็นอาชีพจริงๆ  ก็อยากขอความเห็นใจแทนตัวแทนตรงนี้ อยากให้มองภาพออนไลน์ว่าบางคนเขาใช้เลี้ยงลูก เลี้ยงญาติพี่น้อง มันเป็นอาชีพของเขาค่ะ”
กระทบธุรกิจออนไลน์ตัวอื่นของเราไหม
“ตัวแทนก็เดือดแหละหลังฟังคำสัมภาษณ์ เพราะทำให้เขาขายของไม่ได้ ขายของยากขึ้นอีก ตัวแทนก็งัดมา แต่ก่อนบอสปูเคยพูดอะไรบ้าง เพราะว่าต้องเข้าใจว่า ณ วันนั้นน้องมีไฟมากจริงๆ เราก็แฮปปี้มาก การมีไฟของน้องก็เลยให้ความหวังตัวแทน”
กระทบยอดขายยังไงบ้าง ตกฮวบเลยไหม
“ยอดขายตกตั้งแต่ตอนนั้นแล้วค่ะ  มันยังไม่ฟื้น แต่เหมือนมันกำลังจะฟื้น”
เรียกว่าทรุดลงไปอีก 
“หอมว่าไม่ขนาดนั้นค่ะ ตัวแบรนด์ไปรยาเราไม่ได้ขายแล้ว และตัวสินค้าอื่นเรายังขายดีอยู่ ยังเป็นสินค้าที่ขาดตลาด แต่แบรนด์เก่าๆ อย่างเอธทีน กระทบหนักมาก มันฟื้นยาก”
อยากให้ลงเอยยังไง
“คุยกัน คุยกันเลย แต่จริงใจนะ ถ้าวันนี้จริงใจต่อกันเข้ามา แต่ถ้าไม่เอาพี่ หนูไม่โอเค ไม่เป็นไร เราว่ากันตามกฎหมาย เราหยุดการสัมภาษณ์เท่านี้ดีมั้ย มันเปลืองตัวทั้งคู่”
คดีความที่ฟ้อง ฟ้องคดีอะไรบ้าง
“รายละเอียดไม่สามารถตอบได้เลยค่ะ”
ต้องเลือกมากขึ้นไหม จะร่วมงานกับใคร
“ก็ต้องเลือกมากขึ้น หอมเชื่อว่าเขาก็ต้องเลือกมากขึ้น ต่างคนต่างเลือกแหละ ในวันนี้เราเป็นโจทก์ฟ้องเขา เขาเองก็มีสิทธิ์ฟ้องเรากลับเหมือนกัน ถ้าในกรณีที่เขารู้สึกว่ามันมีอะไรที่ไม่ถูกต้อง เหมือนกันค่ะ”
กลัวการฟ้องกลับไหม
“ไม่กลัวค่ะ ถูกว่าไปตามถูก ผิดว่าไปตามผิด แล้วอีกอย่างหนึ่ง ผิดก็ชดใช้ค่าเสียหาย ขั้นตอนกฎหมายมีแค่นั้นเอง”

“กุ๊บกิ๊บ” วอนอย่าโยงดราม่า “ปู – ดีเจมะตูม”

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ