“เอแคลร์สังขยาใบเตย” ขนมฝรั่งชูความเป็นไทย

สัปดาห์นี้การแข่งขัน ““The Great Thai Bake Off ยอดนักอบขนม” เข้มข้นขึ้นอีกสเต็ปกับ 3 โจทย์ที่ท้าทายจากเมนูขนมอบสไตล์ฝรั่งเศสอย่าง “ชูส์ แพสทรี (Choux Pastry)”  นักอบขนมต้องทำขนมหลากหลายมากกว่าที่เคยได้ทำมา รวมถึงโจทย์เทคนิคสุดเซอร์ไพรส์เพราะองค์ประกอบไม่ธรรมดา

เริ่มต้นกันที่ “Signature Challenge” โจทย์แรก “เอแคลร์(Eclaire)” ขนมอบที่ทำจากแป้งชูส์ มีลักษณะเป็นแท่งยาว เนื้อเบา ผิวกรอบ ด้านในเป็นโพรง นิยมใส่ไส้ครีม คัสตาร์ด และวิปปิ้งครีม สามารถดัดแปลงเป็นรสชาติต่างๆ ได้ตามใจชอบ โดยผู้เข้าแข่งขันทั้ง 8 คนต้องรังสรรค์เอแคลร์ 10 ชิ้น อย่างน้อย 2 รสชาติ ภายในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง

Star Baker สัปดาห์ทีแล้ว “บิ๊ก-วรพงศ์ อนันตวรธรรม” เลือกทำเอแคลร์แซลมอนรมควันพร้อมเครื่องเคียงมะเขือเทศ ผักชีลาว ผสานคาวหวาน ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแซลมอนรมควันเคล็ดลับที่ทำให้ลดน้ำหนักจาก 130 กก.เหลือเพียง 84 กก. และเอแคลร์สตรอเบอรี่ครีมชีส แต่เมื่อเสร็จออกมากลิ่นแซลมอนกลับโดนครีมกลบ

ส่วน “หมอฟิล์ม-เศวตชัย ใจทา” เลือกทำเอแคลร์เลมอนเอลเดอร์ฟลาวเวอร์และมะม่วงเฮเซลนัตพาลีนที่มาจาความประทับใจในเค้กงานแต่งงานของเจ้าชายแฮร์รี่และเจ้าหญิงเมแกนแห่งเวลส์ แต่เมื่อกินเข้าไปกลับได้หลายรสชาติ จนไปคนละทางซะงั้น  

“เบียร์-ศักรินทร์ หมาดหนุด” ที่วันนี้ดูจะมั่นใจในการนำขนมไทยมาประยุกต์เข้ากับสูตรขนมอบ เลือกทำเอแคลร์สังขยาใบเตยที่ให้อารมณ์ขนมไทยนุ่มนวล หน้าตาสวยมากจนกรรมการร้องว้าว แถมเมื่อชิมเข้าปากยังอร่อยเหมือนหน้าตาอีกด้วย

สองผู้เข้าแข่งขันในรอบนี้ที่ดูเครียดสุด คือ “นิษสา-สุนิษสา แบ็คเคอร์เล” ที่เลือกทำเอแคลร์พีนัตบัตเตอร์คาราเมล แต่ระหว่างที่วิ่งไปล้างจานกลับมาคาราเมลดันไหม้ จนต้องเลือกที่จะตัดคาราเมลออก และพี่ใหญ่ “ยุก-จันทรรัตน์ ว่องสมบูรณ์สิน” ที่ยังคงเลือกทำเอแคลร์รสชาติเรียบง่าย แต่ไส้ที่ทำออกมากลับผิดสูตร แถมยังมีปริมาณไม่เพียงพออีก ทำเอาหน้าเสียเกือบถอดใจ

มาถึงรอบที่ 2 “Technical Challenge” กับโจทย์ St. Honoré แซงตาโนเว่ สูตรขนมอบขึ้นชื่อจากประเทศฝรั่งเศส ขนมที่วัดสกิลของผู้เข้าแข่งเพราะต้องมีเทคนิคในการประกอบขนมให้เป็นหนึ่ง โดยหลักคือ ชูส์ครีมที่ราดด้วยคาราเมลเพื่อให้มีสีสัน ด้านล่างก็จะเป็นช็อต แพสทรี

เมนูนี้แม้จะมีส่วนประกอบหลายอย่าง และนักอบขนมต้องทำหลายส่วนและแบ่งเวลาให้ดี ในการทำแป้งชูส์ดูเหมือนแต่ละคนดูมั่นใจ ในขณะที่ “ลินทร์-วราลี ฐิติวร” ทำแป้งชูส์ผิดสัดส่วนจนเพื่อนๆต้องมาช่วยดู เลยหันไปทำคาราเมลหวังว่าจะดี แต่ก็กลายเป็นคาราเมลไหม้ไปอีก ทำให้ทันไม่ทัน และต้องส่งแป้งแพสทรีบีบหน้าครีมไปแบบนั้น ส่งผลให้รั้งท้ายในอันดับ 8 ลินทร์ ส่วนอันดับ 1 ในรอบนี้เป็นของ “เบล-สกาวกาญจน์ อุรัสยะนันท์” ที่ออกมาสมบูรณ์ทั้งรสชาติและตัวครีม

เข้าสู่ช่วงสุดท้าย “Showstopper Challenge” ในเมนู “เพทิต ฟูร์(Petit Fours) ของว่างขนาดพอดีคำสำหรับไปปิกนิก ภายใต้เงื่อนไขสุดท้าทายที่ผู้เข้าแข่งขันต้องอบขนมไซส์พอดีคำถึง 4 เมนู เมนูละ 8 ชิ้น รวมทั้งหมด 32 ชิ้น  โดยจะเป็นแบบคาวหรือหวานก็ได้ ในเวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งแต่ละคนก็ดูจะกังวลไม่น้อยเพราะต้องทำหลายอย่าง และหลายชิ้น

รอบนี้ “ลินทร์-วราลี ฐิติวร” ที่ออกตัวขอมาแก้มือ เลือกนำความชอบของครอบครัวมาทำเพทิต ฟูร์ ชีเครตบาสเกต ทั้ง คุกกี้ดอกไม้, มาเดอลีน, ชูส์ครีมวานิลลา และเค้กเรดเวลเวต มานำเสนอ ซึ่งทำออกมาได้สวยงาม รสชาติดี จนได้รับคำชม แก้มือได้สำเร็จ

ในขณะที่ “เบียร์-ศักรินทร์ หมาดหนุด” หนุ่มใต้ที่ยังเน้นทำขนมอบที่นำเอกลักษณ์ของขนมไทยมาประยุกต์ เลือกทำ เพทิต ฟูร์ ขนมหวาน 4 ชนิดไว้กินกับร้านน้ำขายามเช้าตามวิถีคนใต้ อย่าง ชูส์ครีมมะพร้าว, บัตเตอร์เค้กครีมชีสและนม, ทาร์คมูสช็อกโกแลต, คุกกี้ดอกลำดวนอบควันเทียน และแม้ว่าในตอนแรกตั้งใจจะทำชูส์ครีมเป็นรูปหน้าลิงแต่ทำไม่ทัน ขนมก็ออกมาหน้าตาสวยทุกเมนู อร่อยทุกอย่าง จนกรรมการออกปากชื่นชมว่าลงตัวสุด

คนที่ยังคงหน้าเป็นห่วงรอบนี้ยังคงเป็น “ยุก-จันทรรัตน์ ว่องสมบูรณ์สิน” ที่ถึงกับงานเข้า เพราะถนัดแต่การทำขนมชิ้นใหญ่สไตล์โฮมเมด เมื่อต้องมาย่อส่วนก็เลยทำไม่ถูก จนกรรมการต้องเรียกให้ตั้งสติ แล้วทำต่อ ซึ่งเธอเลือกทำขนมหวานที่ถนัดอย่าง เพทิต ฟูร์ ชูส์คัสตาร์ดครีม, ชิฟฟอนฝอยทอง, ทาร์ตไข่ และคุกกี้สับปะรด

และเพราะทำคะแนนทั้ง 3 รอบได้ดีมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด รวมถึงยังนำพื้นฐานความรู้เรื่องขนมไทย นำมาประยุกต์ในการทำขนมอบได้ดี ทำให้ “เบียร์-ศักรินทร์ หมาดหนุด” คว้า Star Baker ประจำสัปดาห์ไปในขณะเดียวกัน พี่ใหญ่วัย 52 ปี “ยุก-จันทรรัตน์ ว่องสมบูรณ์สิน” ซึ่งดูเครียดและไม่ถนัดกับโจทย์ในวันนี้ และยังคงทำขนมสไตล์โฮมเมดง่ายๆ ที่ไมได้โชว์ความเป็นมืออาชีพเท่าไหร่ ต้องเป็นผู้เดินออกจากการแข่งขันไปในที่สุด

ร่วมลุ้นใครจะเป็นผู้ชนะได้เป็นแชมป์ “The Great Thai Bake Off ยอดนักอบขนม” คนแรกของไทย พร้อมรับรางวัลมูลค่า 3 แสนบาท ไปครอง ได้ในรายการ  “The Great Thai Bake Off ยอดนักอบขนม” ทุกวันจันทร์ เวลา 20.15 - 21.45 น. ทางพีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 ส่วนใครที่พลาดไม่ได้รับชมในวันจันทร์ สามารถรับชมรายการได้อีกครั้งในวันอาทิตย์ เวลา 16.30 – 18.00 น. และสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวที่ทางหน้าจอพีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 และทางออนไลน์ www.pptvhd36.com