วิธีเอาชนะการถูกบูลลี่ของ “ใบเฟิร์น พัสกร”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




“ใบเฟิร์น - พัสกร พลบูรณ์” ลูกสาว “จาตุรงค์ มกจ๊ก” เผยที่ผ่านมาเคยถูกบูลลี่ดังเพราะพ่อ ลั่นใช้ฝีมือพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน ตอนนี้มีความสุขมาก

ต้องบอกว่าบางครั้งชีวิตก็ไม่ได้ตลกเสมอไป โดยเฉพาะกับนักแสดงสาว ใบเฟิร์น - พัสกร พลบูรณ์ สาวสายฮา ลูกสาวตลกชื่อดัง จาตุรงค์ มกจ๊ก ที่ใครๆก็คิดว่าเธอคนนั้น ร่าเริง สดใส แต่ชีวิตในวงการบันเทิง 16 ปีที่ผ่านมา กว่าจะถึงทุกวันนี้ กว่าจะพิสูจน์ตัวเองจากคำสบประมาทว่า “ดังได้เพราะพ่อ”

30 ชีวิตเปลี่ยน “ใบเฟิร์น” ทิ้งอดีตเดินหน้าทำบุญ หาพ่อของลูก

พีพีทีวี มีโอกาสได้คุยกับสาว ใบเฟิร์น ถึงเรื่องราวการมาถึงจุดที่ตอนนี้เป็นหนึ่งนักแสดงที่มีงานล้นมือ และหันมาลุยธุรกิจจากเงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวแรง ซึ่งเธอบอกว่าไม่ง่ายเลย กับการพิสูจน์ตัวเองด้วยฝีมือและความสมารถ และที่สำคัญวันนี้เอาชนะการถูกบูลลี่ได้แล้ว!!

“เฟิร์นโดนมาจนไม่รู้ยังไงแล้ว แต่เฟิร์นรู้สึกว่าเราผ่านมาแล้ว เพราะภูมิคุ้มกันเฟิร์นมันเยอะ คือเฟิร์นเจอมาเยอะ แล้วเจอมาตลอดเวลา โดยที่บางทีคนไม่ยอมรับในสิ่งที่เราเป็น ไม่ชอบที่เราห้าวขนาดนี้ เฟิร์นเคยโดนแบบ ไม่ชอบเด็กคนนี้เลย กลัวลูกสาวจะดูเด็กคนนี้ ไม่อยากให้ลูกสาวเป็นผู้หญิงแบบนี้ ซึ่งเราผิดอะไร ทำงาน ตั้งใจทำงานหาเงินดูแลครอบครัว เฟิร์นมองว่าเรื่องที่โดนบูลลี่ในสังคม ณ ตอนนี้ ปัจจุบันมันเป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ มันเป็นเรื่องที่เราต้องกลับมาสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง เราต้องกลับมาให้ความสุขกับตัวเอง เราต้องมาหาคุณค่าในตัวเองให้เจอ ว่าเรามีคุณค่ายังไงแล้วเราก็ยอมรับในคุณค่าที่เรามี เช่น เราเป็นยังไง เรารู้ตัวเองอยู่แล้วว่าเราเป็นเด็กยังไง เราทำอะไรได้ เราเจอ คนรอบข้างที่เขารู้จักเราจริงอะเขารู้สึกยังไงกับเรา เรามีกัลยาณมิตรที่ดีมากขนาดไหน…จบ”

แรกๆที่โดนมีเป๋ไหม

“มีเป๋เหมือนกัน แต่ว่าเป็นในเรื่องของการทำงาน ส่วนใหญ่เฟิร์นจะเป๋ในเรื่องของการทำงาน ถ้าในเรื่องของลูกตลกหรืออะไรเฟิร์นจะไม่ซีเรียส แต่เฟิร์นจะเป๋ในเรื่องการทำงานว่าเรายังทำงานได้ไม่ดีพอหรือเปล่า สมมติว่ามีคนมาวิจารณ์เฟิร์นในเรื่องของการทำงานเฟิร์นจะรู้สึกว่าฉันต้องปรับปรุงยังไง โอเค! บางทีฉันอาจจะพูดกระแทกไปฉันอาจจะต้องพูดซอฟต์ลง หรือบางทีฉันเล่นเยอะเกินไป ฉันอาจจะต้องเบาลงอะไรแบบนี้ เฟริ์นจะซีเรียสในเรื่องของการทำงาน อย่างเรื่องเป็นลูกตลกมันก็มาคู่กันอยู่แล้ว แต่เฟิร์นรู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นอะไร ไม่ได้กระทบจิตใจเราขนาดนั้น ราเลือกเกิดได้ไหม ยังไงเราก็ต้องเกิดเป็นลูกตลก แล้วทุกวันนี้ก็เพราะตลกนี่แหละที่ทำให้เรามีกินมีอยู่จนอายุ 30 ปี ด้วยความเฟิร์นเป็นคนตรงๆ สีหน้าเฟิร์นนออก ชอบคือชอบ ไม่ชอบคือหน้าเฟิร์นออก คือเฟิร์นเป็นคนแบบนี้จริงๆ แล้วก็ด้วยความที่เราเป็นลูกของตลก แล้วประชาชนมองพ่อเราว่าสัมผัสได้ จับต้องได้ สามารถเล่นหัวเล่นหางได้ บางครั้งก็เลยจะไม่มีความเกรงใจ หลายครั้งเลยแหละที่เฟิร์นไม่ตลก”

กว่าจะผ่านตรงนั้นมามันหนักไหม

“ก็อายุ 30 แล้ว เฟิร์นเข้าวงการมาเกือบ 16 ปีแล้ว เจอมาหลายรูปแบบมากๆในชีวิต แล้วรู้สึกว่ามันก็แค่วันหนึ่งที่เข้ามาแล้วมันก็จะออกไป ฉะนั้นแล้วมันไม่มีอะไรอยู่กับเรานาน คนที่เขาจะพูดในเน็ต เฟิร์นก็จะคิดเสมอแหละว่าแบบใครก็ได้ กดเข้าไปดูดิไม่รู้จัก เรากดเข้าไปดูโปรไพล์ดิเขาทำอะไร แล้วเราอะทำอะไร วันนี้เราทำอะไรอยู่ ฉะนั้นจบแล้วถ้าวันนี้เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ แล้วเรารู้ว่าทำเพื่อใคร เราต้องมีเป้าหมายว่าเราทำอะไร ฉะนั้นการบูลลี่รูปแบบนี้มันไม่มีปัญหาอะไรกับเฟิร์นเลย ถ้าเฟิร์นไม่ได้ทำอะไรผิดจริง ถ้ามันไม่ใช่ความผิดของเฟิร์น ถ้าผิดจริงคือผิดค่อยว่ากัน แต่ว่าถ้ามันไม่ได้เป็นความผิดอะไรของเฟิร์น เฟิร์นไม่ได้ทำหน้าที่การงานบกพร่อง อย่างที่บอกว่าดังได้เพราะพ่อ เราพิสูจน์แล้วนะ เพราะว่าก่อนหน้านี้เรารู้สึกว่า เราเลี่ยงไม่ได้หรอกที่พ่อจะเป็นใบเบิกทางให้ อย่างเช่นผู้จัดบริษัทต่างๆ เข้าเห็นเรา แต่ถ้าเราไม่มีความสามารถเกือบ 16 ปีแล้วนะ เฟิร์นก็คงอยู่ตรงนี้ไม่ได้

แต่ไม่กดดันนะ เรารู้สึกว่าเรายอมรับ ถ้าเรายอมรับก็คือจบ เฟิร์นก็ยอมรับว่าคนรู้จักเฟริ์นได้ก็เพราะพ่อ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอยู่แล้ว ถ้าเฟิร์นไม่มีความสามารถด้วยเฟิร์นก็ไม่ได้มาไกลขนาดนี้ เฟิร์นยอมรับแล้วเฟริ์นก็พัฒนาปรับปรุง ก็เลยรู้สึกว่าคนที่มาพูดว่าดังได้เพราะพ่อ ตอนนี้เฟิร์นไม่เจอแล้ว ก่อนหน้านี้แรกๆอะมี เฟิร์นก็ยอมรับว่าจริง แต่หลังจากนี้เฟิร์นไม่เคยโดนเลย ทุกวันนี้เฟิร์นพูดได้เต็มปากว่าไม่มี”

รู้สึกยังไงที่ทุกวันนี้ได้งานมาเพราะตัวเอง

“เฟิร์นภูมิใจในตัวเอง เฟิร์นภูมิใจในครอบครัวในแรงผลักดัน จริงๆที่ผ่านมาเฟิร์นเป็นคนที่มีความอดทนต่ำ ไม่มีความอดทนกับเรื่องอะไรเลย ต่างจากพ่อแม่ของเฟิร์นมาก เทียบไม่ได้เลย พ่อไม่ค่อยสูงเท่าไหร่แต่แม่สูงมาก แล้วเฟิร์นก็รู้สึกว่าในการที่เฟิร์นได้เจอคนในทุกๆวัน ที่เฟิร์นไปนั่นนี่ มันทำให้เฟิร์นได้ฝึกเรื่องของความอดทน ในการที่เราต้องเจอปัญหาที่เราต้องเจอกับสถานการณ์ต่างๆ ที่บางทีเรารับมือได้บ้าง เรารับมือไม่ได้บ้าง บางทีเราก็ต้องยอมที่จะปล่อยไปบ้าง บางทีเราก็จะต้องหลับหูหลับตาบ้าง ซึ่งมันคือทุกวันมันเหมือนที่เรารู้วิธีการจัดการกับตัวเองมากขึ้น เฟิร์นรู้สึกว่าเฟิร์นตอนอายุ 30 ในตอนนี้กลับย้อนไปในตอนที่เฟิร์นอายุ 24 – 25 ก็คือคนละเฟิร์นเลย ( หัวเราะ )  ทุกวันนี้แฮปปี้ มีความสุข ก่อนหน้านี้ตอนเด็กๆเรากดดันตัวเองว่าต้องเป็นคนที่ทำงานหาเลี้ยงแม่ครอบครัว แต่พอในจุดนี้เรารู้สึกว่า เราก็ทำได้แล้ว เราไม่ต้องมานั่งแบกทุกๆอย่างแล้ว สบายๆ อยากทำอะไรในที่เราอยากทำ อยากทำธุรกิจก็ทำ นึกอะไรได้ก็อยากทำ เป็นคนชอบลองถูกลองผิด”

เราใช้เงินตัวเองในการลงทุนใช่ไหม

“ถูกต้องค่ะ หนูไม่เคยขอเงินพ่อหนูเลยตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงมา เรียนหนังสือหนูก็หาเอง เพราะหนูรู้ว่าพ่อมีภาระเยอะแล้ว ทุกวันนี้เราก็ดูแลแม่ ถ้าฝั่งพ่อญาติพ่อ พ่อก็จะดูแล เราก็จะมีหน้าที่คือเรา แม่ น้องชาย ญาติแม่นิดๆ หน่อยๆ เรามีความสุขนะ เพราะไม่ว่าเราจะเจอปัญหาอะไรมา คนกลุ่มนี้แหละที่เป็นคนสุดท้ายในชีวิตเราจริงๆ เราเลยรู้สึกว่าถูกแล้วที่เราทุ่มทั้งกายให้คนกลุ่มนี้ เพราะว่ายังไงเราก็มีเขา เราไม่มีทางไม่มีเขาเลยสักวันหนึ่ง” ( ยิ้ม )

ข่าวที่น่าสนใจ >>> เปิดตัวลูกชาย “เหลือเฟือ มกจ๊ก” พร้อมเผยเส้นทางตลกที่ไม่ได้มีแต่เสียงหัวเราะ

ขอบคุณภาพจาก IG ferno_padgone

อัพเดทข่าวบันเทิงได้ใน รายการ POP NEWS DAILY ทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 9.00 – 09.15 น. , รายการเข้มบันเทิง ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 20.00 น. และรายการ POP NEWS วันอาทิตย์เวลา 18.20 น. ทาง PPTV HD ช่อง 36 หรืออ่านข่าวประเด็นฮอตวงการบันเทิงได้ทาง //www.pptvhd36.com/news/ข่าวบันเทิง 

 

TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ