เวทีลุกเป็นไฟ ลูกทีมโค้ชเจนนิเฟอร์ คิ้ม แบทเทิลเดือด !! 


โดย PPTV Online

เผยแพร่




สัปดาห์สุดท้ายรอบ “แบทเทิล(Battles)” รายการ “เดอะ วอยซ์ 2019” เวทีเดือดเป็นไฟ ผู้เข้าแข่งขันทั้งสายเสียง สายพลัง สายมันส์ ต่างทำโชว์ออกมาได้อย่างสะใจ โชว์ฝีมือกันเต็มที่เพื่อเป็นให้เป็นหนึ่งในทีมที่จะได้เข้าสู่รอบการแสดงสดบนเวทีตัวจริง เสียงจริง

เริ่มกันที่ทีมของ “โค้ชโจอี้ บอย” การพบกันระหว่าง วงดนตรีวงเดียวในทีม Error 99 และคณะนักร้องประสานเสียงผู้พิการทางสายตา วง Four Unity ที่มาร่วมกันสร้างสรรค์บทเพลง “รางวัลแด่คนช่างฝัน”ซึ่งแม้ว่าทั้งคู่จะมีสไตล์การร้อง การเล่นที่แตกต่าง แต่สามารถทำให้รู้ว่าดนตรีไม่มีพรมแดน และไร้อุปสรรค โชว์ครั้งนี้จบลงท่ามกลางความอิ่มใจของโค้ชทุกคน รวมถึงคนดูในสตูดิโอ และเมื่อต้องเลือกวงเพื่อเข้าไปสู้ต่อ โค้ชโจ้ก็จำต้องตัดใจเลือก วง Error 99 ที่มีสไตล์ชัดเจน และแข็งแรงมากกว่า

ลูกทีม “โค้ชคิ้ม” ปิดสงครามแบทเทิลส์สมศักดิ์ศรี “โค้ชก้อง-โค้ชโจ้” ทึ่ง! ยกเป็นสุดยอดโชว์ของซีซั่น

ต่อกันที่ทีม “โค้ชป๊อบ ปองกูล” สองสาวลูกทุ่ง “จูน-รวีกานต์ บุญเกิด” ลูกทุ่งสายละเอียด และ “ปังปอนด์-อุมาภรณ์ กาละซิรัมย์” ลูกทุ่งกันตรึมอีสานใต้ ที่ได้โจทย์เป็นเพลง “ก่อนฤดูฝน” ของเดอะ ทอยส์ ที่ต้องนำเอกลักษณ์ของเพลงลูกทุ่งไปใส่ร่วมกับเพลงสมัยใหม่ ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ทำได้ดีไม่มีจุดผิดพลาด จนโค้ชป๊อบที่ออกตัวว่าฟังเพลงลูกทุ่งน้อยมากออกอาการหนักใจ แต่ในที่สุดก็เลือก ปังปอนด์ เข้ารอบไปด้วยเหตุผลมองเห็นภาพโชว์ในรอบการแสดงสดชัดเจนกว่าว่าจะไปต่ออย่างไร

ลูกทีมอีก 2 ทีมของโค้ชป๊อบ เป็นการแบทเทิลกันระหว่าง วง EYESTYLES วงดนตรีน้อยชิ้นที่มีจุดขายอยู่ที่การเล่นเชลโล และ "พัตเตอร์-ประดิพัทธิ์ ก้องกุลเดช" หนุ่มสายร้องเนื้อเสียงอินเตอร์ เพลง “Fire” เรียกว่าทั้งบิวท์ ทั้งขยี้น้ำเสียงให้ไฟลุกไปทั่วเวที สุดท้ายเมื่อต้องเลือก โค้ชป๊อบก็เลือก พัตเตอร์ ที่มีพลังบนเวทีสูงเข้ารอบไป

มาถึงทีม “โค้ชเจนนิเฟอร์ คิ้ม” กับสองหนุ่มสายร้อง “ดล-นฤดล ใจบุญ” และ “สไปรท์-วรวลัญช์ น้อยกมล” ทั้งคู่ต่างแสดงอารมณ์ เสียงร้องในเพลง “แหลก” ออกมาได้อย่างกลมกลืน ความยากในการเลือกเลยอยู่ที่โค้ชเพราะดลร้องได้ดีที่สุดตั้งแต่ซ้อมมา ส่วนสไปรท์ก็ทำได้มาตรฐานทุกครั้งที่ร้องแบบไม่ต้องลุ้น และเพราะการร้องที่เสถียรกว่า จนทำให้โค้ชวางใจ จึงทำให้สไปรท์ได้รับเลือกให้ไปสู้รบกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นต่อ 

และผู้เข้าแข่งขันที่เรียกว่ามาจุดระเบิดปล่อยสงครามแบทเทิลซีซั่นส์นี้ ชนิดเรียกว่าเป็นการจับคู่ “ช้าง” ชน “ช้าง” นั่นคือการแบทเทิลระหว่างวงดนตรีหนุ่มไฟแรงยอดฝีมือ S SOON S  กับวงเก๋ามากฝีมือ จระเข้น้อย ที่ต่างมีสัดส่วนทางดนตรีที่แตกต่าง แต่ต้องมาร่วมกันร้อง ร่วมกันเล่นในเพลง “แดงกับเขียว” เพลงร็อกมันส์ดังระเบิดในโซเชียลของวงอินดี้ไททศมิตรและด้วยความที่เป็นมืออาชีพตัวจริง ทำให้นอกจากบรรดาโค้ชจะได้โยกกันมันส์แล้ว ยังชมไม่หยุดปากว่าสามารถเรียบเรียงดนตรีได้ดี และยังไม่ทิ้งอีเอ็นเอความเป็นตัวเอง จนยกให้เป็นคู่เดือดที่สุดในซีซั่นส์ และเพราะหนทางข้างหน้าไม่รู้จะต้องไปเจอคู่แข่งคนไหน โค้ชคิ้มจึงเลือก S SOON S วงที่สมาชิกเด็กกว่าและกล้าที่บ้าและบู๊แบบไม่กลัวตายเข้ารอบไปสู้

ด้านทีม “โค้ชก้อง-สหรัถ” ก็หยิบเอาสองนักร้องเดี่ยวคู่ซี้ สาวศิลปากรเสียงมีสไตล์ “พิม-ยศวดี เปรมเจริญ” มาแบทเทิลกับเพื่อนสนิทอย่าง “ซาสี่-วโรดม ประทิศ” นักร้องสายเอ็นฯ ที่งานนี้ต้องมาร้องเพลงช้าครั้งแรกบนเวที ในเพลง “อยากรู้หัวใจตัวเอง” ทั้งสองคนสนิทกันมาก จึงอยากทำโชว์นี้ให้ออกมาดีที่สุด และยังเป็นคู่ที่เซอร์ไพรส์เพราะต่างก็พัฒนาตัวเองขึ้นมาจนเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งโค้ชก้องก็เลือกสาวพิมที่ร้องเพลงนี้ได้ดี ไม่มีที่ติเข้ารอบไป ทำเอาเจ้าตัวแม้จะดีใจแต่ก็ต้องเสียน้ำตาด้วยความที่เพื่อนต้องตกรอบ

สัปดาห์หน้ารอบการแสดงสด โค้ชแต่ละคนยังต้องมาลุ้นกันต่อ เพราะไม่รู้ว่าลูกทีมของตัวเองจะต้องไปเจอกับลูกทีมของใคร และแน่นอนไม่มีใครอ่อนข้อให้ใครอีกต่อไป 

ติดตามการแข่งขันร้องเพลงที่ได้รับความนิยมที่สุด สนุกที่สุด และลุ้นที่สุด ในรายการ “เดอะ วอยซ์ 2019” ทุกวันจันทร์ เวลา 20.15 – 22.00 น. ส่วนใครที่พลาดไม่ได้รับชมในวันจันทร์ สามารถรับชมรายการได้อีกครั้งในวันอาทิตย์ เวลา 16.15 – 18.00 น. ทางพีพีทีวี เอชดี ช่อง 36

ทวีความเดือด! ใครดี ใครได้ “เดอะ วอยซ์ 2019” เปิดศึกแบทเทิลรอบแรก

TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ