“ตุ๊ก ปิยะพงษ์” เฉลย ทำไม !! นักฟุตบอลในอดีตไม่เจ้าชู้


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ยกให้เป็นตำนานของนักเตะทีมชาติไทย "ตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน" เจ้าของฉายา "เพชรฆาตหน้าหยก" อดีตศูนย์หน้าที่มีรางวัลการันตีมากที่สุดในวงการฟุตบอลไทย และยังได้การรับรองจากฟีฟ่าบันทึกสถิติการทำประตูในฐานะทีมชาติว่ามากถึง 103 ลูก ซึ่งทุกอย่างแลกมาด้วยความมุ่งมั่นและอดทน

"ตุ๊ก ปิยะพงษ์" เปิดเผยเส้นทางการก้าวเข้าสู่วงการลูกหนังให้ฟังว่า เริ่มต้นจากคุณพ่อรับราชการทหารบก จึงทำให้ตนได้มีโอกาสวิ่งเล่นเตะฟุตบอลในลานกว้างภายในกรมทหาร เริ่มจากเตะลูกบอลพลาสติก เมื่อเตะไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดความชอบ ในขณะที่พ่อก็สนับสนุนแต่เมื่อพ่อไปรบเสียชีวิตจากสงครามอินโดจีน ตนจึงต้องย้ายไปอยู่โรงเรียนประจำที่โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย อ.บ้านโป่ง เป็นโรงเรียนคริสต์ที่สนับสนุนกีฬา และได้เรียนรู้ศาสตร์การเล่นฟุตบอลจากครูฝรั่งที่มาจากประเทศอิตาลี ซึ่งถือว่าโชคดีทำให้พัฒนาการเล่นได้รวดเร็ว

“อ่าง เถิดเทิง” โต้ข่าวลือตกอับ ยันไม่ได้แกล้งติดอ่าง

สามกูรูหลอน “ดีเจแจ๊ค-วีวี่-น้าบัติ The Ghost” ตอบชัด !! ผีมีจริงหรือ?

"จุดเปลี่ยนเกิดจากผมย้ายจากโรงเรียนที่บ้านโป่งมาเรียนที่โรงเรียนศรีวิชัยวิทยา นครปฐม ได้เล่นกีฬาพร้อมกัน 2 ประเภท คือ ตะกร้อ ซึ่งเป็นพื้นฐานของฟุตบอลอยู่แล้ว จริงๆ ผมเล่นตำแหน่งแบ็คซ้าย แต่มีวันหนึ่งศูนย์หน้าเจ็บ ทำให้ผมได้ไปเล่นแทน ด้วยความใจสู้ ลงไปเล่น วันนั้นฟลุคยิงไปได้ 5 ประตู ตอนนั้นเด็กที่เตะฟุตบอลหากอยากพัฒนาต้องเข้ามาเรียนกรุงเทพฯ เท่านั้น ไม่เหมือนสมัยนี้ที่มีโอกาสมากมาย ผมจึงย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนจ่าอากาศ เป็นนักฟุตบอลทีมเยาวชนทหารอากาศ"

เมื่ออดีตนักเตะคนดังได้เข้ามาสู่การเป็นทีมเยาวชน เป็นอีกครั้งที่เหมือนฟ้าจะลิขิตมา เมื่อศูนย์หน้าเจ็บทีมทหารอากาศทีมใหญ่เจ็บ ทำให้ได้ไปเตะแทน และเป็นอีกครั้งที่ปิยะพงษ์โชว์ฟอร์มดียิงประตูได้ ทั้งที่ขณะนั้นอายุเพียง 17 ปี แต่ต้องไปเตะบอลรุ่นใหญ่กับพี่ๆ อายุ 20-30 ปี จากนั้นมาเขาจึงไปเข้าตาได้ไปคัดตัวเล่นให้ทีมฟุตบอลเยาวชนทีมชาติ และทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งถือเป็นนักเตะคนเดียวที่เล่นทั้ง 2 รุ่นพร้อมกัน

"น้องๆ หลานที่ชอบฟุตบอล ต้องเริ่มจากชอบก่อน แต่ความชอบนั้นยังสามารถเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นได้ แต่หากวันไหนรู้สึกรักมัน เราจะไม่ไปไหน จะอยู่กับฟุตบอล เคล็ดลับความสำเร็จคือต้องฝึก ฝึก แล้วก็ฝึก ในช่วงที่เป็นนักฟุตบอล ผมไม่ค่อยได้ไปไหนเก็บตัวในแคมป์ตลอด เก็บตัว 1 เดือน ไปแข่งอีก 1 เดือน แต่ไม่รู้สึกเบื่อเลย ยิ่งอยู่กับฟุตบอลยิ่งชอบ จะมาซ้อมก่อนและเลิกทีหลังทุกวัน"

นักเตะคนดัง ยังยอมรับด้วยว่า รักและติดฟุตบอลถึงกับเคยนั่งคุยวิเคราะห์กับลูกฟุตบอล จนทำให้รู้ความลับว่า จุกฟุตบอลเป็นส่วนสำคัญหากจะยิงฟรีคลิกอย่าหันจุกไปไว้ตรงที่จะยิงเพราะทิศทางลูกจะไม่แน่นอน เรียกว่าดูจนได้ศาสตร์ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ เป็น 

ทั้งนี้ ตุ๊ก ปิยะพงษ์ ยอมรับว่า ความสำเร็จที่ผ่านมาจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยเพียงคนๆ เดียว จะไม่มีปิยะพงษ์ ผิวอ่อน เลย หากไม่มีเพื่อนร่วมทีมในตอนนั้นที่ถือว่าเป็นทีมที่ดี รักสามัคคีกันอย่างมาก แม้นอกสนามก็ยังไปไหนมาไหนด้วยกันพูดคุยเรื่องฟุตบอลเพื่อแลกเปลี่ยนกัน

"เมื่อก่อนเรื่องผู้หญิงจะไม่มีเลย เพราะนักบอลไม่มีตังค์ เบี้ยเลี้ยงวันละ 150 บาท ค่าข้าว 75 บาท เหลือแค่  75 บาท ก็ไม่มีสาวๆ มาตาม นักบอลในอดีตจึงไม่มีเจ้าชู้เลย ไม่มีคนจีบ ไม่มีเวลาด้วย สมัยก่อนทีวีก็ยังเป็นขาวดำ การแข่งบางแมตช์เราก็ไม่ได้มีการถ่ายทอดส่งมาให้ดู โค้ชก็เป็นครู สมัยก่อนต่างจากสมัยนี้ฟ้ากับเหว ปัจจุบันมีอะไรมากมายเสริมศักยภาพนักบอลได้ดีมาก"

ปัจจุบัน ตุ๊ก ปิยะพงษ์ ยังคงทำหน้าที่่ถ่ายทอดเทคนิคฟุตบอลให้กับรุ่นลูก รุ่นหลาน ผ่านงานเขียน ช่องยูทูป "แตงโมลง ปิยะพงษ์ยิง" รวมถึงการไปเป็นคอมเมนเตเตอร์ให้กับการแข่งขันและคัดเลือกนักเตะตามที่ต่างๆ

"ตอนนี้ผมเป็นนักเขียน เขียนตำราบอล แบบฝึกการยิงประตูเป็นการร์ตูน ลักษณะเป็นแบบฝึกฟุตบอลสมัยใหม่ ส่วนที่เป็นแบบหนังสือจริงๆ เป็นแบบฝึกของนักเตะอายุ 7-15 ปี ผมชอบเขียนหนังสือ ว่างๆ ก็จะเขียนไปเรื่อยๆ และอาจจะได้เป็นภาพยนตร์ในอนาคตกำลังอยู่ในระหว่างพูดคุยกัน"

บางกอก City เลขที่ 36 จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.15 น. ทาง PPTV HD ช่อง 36 รับชมย้อนหลังทาง http://pptv36.tv/rkG และ  https://tv.line.me/bangkokcity36

“พะแพง” โต้ !! ประกาศพักไมค์แค่เบื่อ ไม่ใช่เพราะทำแล้วไม่ดัง

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ