ย้อนกลับไป ดู๋ ดอกกระโดน เล่าว่า เดิมเป็นนักร้องวงสตริงคอมโบรับงานร้องเพลงตามงานวัด งานเลี้ยงต่างๆ ซึ่งสมัยก่อนวงลักษณะนี้ยังไม่มีแดนเซอร์มีเพียงนักร้องยืนเคาะจังหวะโยกตาม 4-5 คนเท่านั้น ด้วยความที่คุณพ่อเป็นศิลปินร้องได้ทั้งลำตัด ฉ่อย ลิเก ตนจึงอยากเป็นศิลปินบ้าง ตอนนั้นมีโอกาสเพื่อนพาไปเป็นนักร้อง ทำให้ได้เห็นตลกเล่นกันก็รู้สึกชอบ อยากเล่น วันหนึ่งตลกขาดคนจึงได้ไปเล่นแทน จากวงโนเนมจนมาวงใหญ่โด่งดังถึงทุกวันนี้
ไขเคล็ดลับความสุข "เจ้เกียว” เจ้าแม่รถทัวร์
"อ่ำ อัมรินทร์" ปลื้มซิงเกิ้ลแรก "แอลลี่" ยอดวิวพุ่ง
"ตอนนั้นมีงานทุกวัน 5-6 งานต่อคืน แต่ถือว่าไม่เยอะมาก เพราะบางวง 10 กว่างานก็มี แต่เราขอมีงานนานๆ พอแล้ว และยังได้เดินทางไปเล่นที่ต่างประเทศด้วย อย่างสหรัฐอเมริกาก็ได้ไป ส่วนตัวผมมีพ่อล้อต็อกเป็นครูบาอาจารย์เป็นต้นแบบของการเล่นตลก เรียกว่าพ่อเป็นครูของตลกทุกคน"
และในช่วงที่เฟื่องฟูตลกส่วนใหญ่หลงทางใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย แต่สำหรับ ดู๋ ดอกกระโดน บอกว่า หาเงินได้มาจะส่งลูกเรียนอย่างเดียว เพราะตนเองเรียนน้อยจึงให้ความสำคัญกับการศึกษา อยากให้ลูกเรียนสูง ในขณะที่ตลกคนอื่นๆ อาจจะเพราะมีเพื่อนฝูงเยอะเมื่อเพื่อนมาหาก็จำเป็นต้องเลี้ยง หากไม่เลี้ยงไม่คุยก็จะหาว่าดังแล้วหยิ่ง พอเพื่อนเยอะก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
ปัจจุบันเมื่อถึงยุคที่คาเฟ่ปิดตัว ตลกซบเซา ดู๋ ก็ไม่อยู่นิ่งเฉย ผันตัวมาเป็นพ่อค้าตลาดนัด ขายสาหร่ายทะเลทอด ในชื่อ "สาหร่ายทะเลฟู ดู๋ ดอกกระโดน" มา 6 ปีแล้ว ซึ่งเจ้าตัว บอกว่า นอกจากงานลดลงเรื่อยๆ อายุก็มากขึ้นด้วย จึงหันมาทำธุรกิจ นอกจากนี้ยังขายยาหม่องสมุนไพร โดยได้ส่งออกไปยังต่างประเทศอย่าง จีน, รัสเซีย อีกด้วย
บางกอก City เลขที่ 36 จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.15 น. ทาง PPTV HD ช่อง 36 รับชมย้อนหลังทาง http://pptv36.tv/rkG และ https://tv.line.me/bangkokcity36
น้ำหนักพุ่ง 70 กก. “ตอง ภัครมัย” เผยเคล็ดลับฟิตหุ่นกลับมาเป๊ะ