ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อสิ่งแวดล้อมมานานหลายปี สำหรับนักแสดงหนุ่ม อเล็กซ์ เรนเดลล์ และนอกเหนือจากนั้นยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับอดีตคนเคยรักอย่าง เต้ย – จรินทร์พร จุนเกียรติ ได้แบบไร้ปัญหา ล่าสุดได้รับเสียงชื่นชมในมิตรภาพอย่างล้นหลาม หลังต่างฝ่ายต่างโพสต์ซึ้งถึงกันและกัน วันนี้ ( 12 มี.ค.63) ได้เจอ อเล็กซ์ จึงถามถึงเรื่องดังกล่าว
“อเล็กซ์ เรนเดลล์” ขอบคุณ “เต้ย” พาร์ทเนอร์ที่ดี
เป็นปีที่ 6 ที่ทำแล้วใช่ไหม
“ใช่ครับ เมษายนปีนี้จะครบ 5 ปีที่เปิดองค์กร แต่เราทำมาก่อนหน้านั้นประมาณ 2 ปี รวมกันแล้วก็เกือบๆ 7 ปีครับ ถามว่าได้ตามเป้าไหม เราไม่ได้มีเป้าหมายอะไรขนาดนั้นตั้งแต่แรก เราทำเพราะความชอบ คือเราก็มีเป้าหมายนะว่าเราอยากจะทำอะไร เราอยากจะทำแบบไหน แต่ทุกอย่างมันมาเร็วและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เราก็ไม่นึกว่าเราจะมาเร็วขนาดนี้”
โตเร็วแบบนี้ปรับตัวทันไหม
“ก็เหนื่อยนิดนึงกับสิ่งที่ต้องเจอ แต่มันก็เป็นโอกาสที่ดี และงานช่วงหลังๆ มันก็มีแต่งานดีๆ ทั้งนั้น คนก็เห็นเราในอีกมุมมากขึ้น ภาพของเรามันชัดเจนขึ้น ถ้าเติบโตในงานของสิ่งแวดล้อมมันเติบโตอยู่แล้ว แต่กลายเป็นว่ามันมาส่งผลให้เติบโตในวงการบันเทิงด้วย”
ล่าสุดก็ประสบความสำเร็จมาก มีคนคอมเมนต์ชื่นชมเยอะ
“มันเป็นโปรเจ็กต์ที่เราตั้งใจจะทำและอยู่ในความคิดของเรามาหลายปีแล้ว เราทำงานด้านสิ่งแวดล้อมเราก็จะเห็นตรงนั้นตรงนี้ เราก็เลยอยากที่จะมีอะไรที่เป็นของเราที่เราคิดกันมา และอยากจะชวนคนเข้ามากันเยอะๆ ซึ่งเราเหนื่อยกับโปรเจ็กต์นี้มาก และคิดว่าเราจะทำไปอีกอย่างต่ำ 18 เดือน ก็คือได้เป็นโมเดลแล้ว ปอดทะเลมันเกิดขึ้นแล้ว และมีผู้ใหญ่ใจดีมาช่วยสนับสนุนทำให้มันไปได้ไกลกว่าที่เราคิดไว้ตั้งแต่แรก เราก็ยอมที่จะเหนื่อยและทำมันให้เต็มที่ พยายามจะตัดสินใจให้ได้มากที่สุด แต่ก็ต้องมีคนช่วย พอมันเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ขนาดนี้เราก็ไม่ได้มีเวลาเยอะมาก”
เป้าหมายต่อไปจะเป็นยังไง
“เราก็จะเอาประเด็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมต่างๆ อย่างเรื่อง PM 2.5 เราก็จะเอาเข้ามาร่วมด้วย แต่ในทางไหนคงต้องขอเวลาในการแพลนนิดนึง แต่ไอเดียคือการที่เราไปบรรยายมีเวทีทั่วประเทศไทย และเอาสิ่งที่เรามีหรือสิ่งที่เราเรียนรู้มาบอกต่อให้คนอื่น ทำหลายอย่างและทำอย่างนี้ไปอีกหลายๆ ที่นะครับ เรากำลังวางแผนกันอยู่ครับ 18 เดือนหลังจากนี้ชีวิตของเราน่าจะอยู่กันอย่างโอเคค่อนข้างเยอะ"
“เต้ย จรินทร์พร” เป็นพาร์ทเนอร์หลักด้วยใช่ไหม
“ใช่ครับ เต้ยเป็นพาร์ทเนอร์ ก็มีคุยกันปรึกษากันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ก็คิดว่าถ้าเกิดเราทำคนเดียวมันก็อาจจะได้แค่ 50% แต่ถ้าเต้ยเข้ามาร่วมมันอาจจะได้อีก 50% มันไม่ใช่โปรเจ็กต์ที่เราอยากจะให้เป็นเรื่องของคนใดคนหนึ่ง เพียงแต่เราก็ต้องทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ของโปรเจ็กต์ของเราเองให้คนมาสนใจ แต่จริงๆ เราอยากให้ทุกคนมาร่วมกัน”
มีลงขอบคุณ “เต้ย” ด้วย
“ใช่ คือเขาก็ช่วยเราเยอะ จริงๆ เบื้องหลังเขาช่วยเราเยอะมานานแล้ว เพียงแต่เราไม่ได้มีความจำเป็นอะไรที่ต้องมาออกสื่อหรือออกมาบอกใคร คือมันเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เป็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเสียหายหรือเป็นเรื่องที่ไม่ดี เขาก็เป็นพาร์ทเนอร์ของเราตั้งแต่แรก พอเขามาร่วมรอบนี้มันก็ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น”
หลายคนก็ชื่นชมในมิตรภาพนี้
“ใช่ครับ ก็ดีครับ ได้อ่านคอมเมนต์อยู่บ้าง ตั้งแต่ลงไอจีมาคอมเมนต์น่าจะเยอะสุดก็อันนี้ (ยิ้ม) ไปไหนก็มีแต่คนทักเรื่องโพสต์นั้น แต่จริงๆเราไม่ได้ต้องการให้มันไวรัลอะไรขนาดนั้น แค่เป็นส่วนนึงที่เราประทับใจเกี่ยวกับโครงการนี้ เราก็ลงเกี่ยวกับอาสาของเราเกี่ยวกับความประทับใจ”
แต่ก็มีดักๆ ใส่แฮชแท็กไว้เหมือนกัน
"ใข่ๆ คือพื้นที่ของผมคือผมมีสิทธิที่จะเลือก ในไอจีของเราก็ไม่อยากให้เป็นจุดเริ่มต้นของอะไร คือมันไม่ใช่กระทู้ ไม่ใช่ให้คนมาแสดงความคิดเห็นทางลบ และเป็นจุดเริ่มต้นให้คนมาลบต่อ ผมก็ลบออกเลย ต่อให้ดีหรือไม่ดีไม่รู้ ผมลบก่อน แต่รอบนี้ไม่มีต้องลบเลยนะ"
แสดงว่าเคยเจอคนเข้ามาแนวๆนี้
“ของผมน่ะไม่มี เพราะถ้าผมเห็นแล้วไม่ชอบผมก็ลบเลย ผมอยากให้เพจของผมที่ที่บวก เราอยากให้มันเป็นแบบนี้ไว้ ไม่ต้องการให้คนมาคอมเมนต์เป็นพัน มันไม่ใช่เหตุผลที่เราเล่นมัน”
“เต้ย” ก็ลงเหมือนกัน
“ใช่ครับ คือสิ่งที่เราลงมันไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งที่เราไม่รับรู้กันเลย แต่เป็นสิ่งที่เราแค่อยากจะขอบคุณ และอยากพูดอะไรดีๆ ให้กัน”
เราต้องบอกเขาก่อนไหมว่าจะลง
“ไม่ถึงขนาดนั้น จริงๆผมเขียนไว้สักพักแล้ว แต่พอดีงานเยอะแล้วมันยังเขียนไม่เสร็จก็เลยยังไม่ได้ลง ถ้าจำไม่ผิดผมไปคอมเม้นท์ของเขาก่อนบอกว่าเดี๋ยวเรากำลังจะลงเรื่องของยูนะ”
แคปชั่นนั้นคิดอยู่กี่วัน
“จำไม่ได้ครับ มันมีหลายแคปชั่น คืองานมันไม่ได้มีแค่ผมกับเต้ย มันยังมีผู้ใหญ่ใจดีที่น่ารักกับเรามาก และวันนั้นเรารู้สึกว่ามันเป็นวันที่ประสบความสำเร็จขององค์กรของผมกับเต้ยมากๆ เราก็เลยอยากจะขอบคุณ เราอยากจะน้ำตาไหลหลายรอบ แต่ก็ต้องฮึดสู้ เหนื่อยก็เหนื่อย นอนก็ไม่ได้นอน ต้องทิ้งงานอื่นเป็นอาทิตย์ ทีมงานของเราก็เครียดกดดันกันทุกคน แต่พอมันประสบความสำเร็จกลับมามันก็โล่งมาก”
พอมันออกมาแบบนี้ต่อไปการร่วมงานกับ “เต้ย” ก็สบายใจมากขึ้นไหม
“จริงๆ ผมไม่เคยรู้สึกว่ามีอุปสรรคกับการทำงานกับเต้ยเลย และไม่เคยรู้สึกว่าต้องปิดบังหรือต้องรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไม่ดี เจอกันทีไรก็มีแต่เรื่องดีๆครับ”
“อเล็กซ์” ทำงานเพื่อสังคม เอ็นเตอร์เทนนักโทษในคุก