กว่าจะมีวันนี้ ของ สองพี่น้องสายดนตรี “เจนนี่ – ลิลลี่ได้หมดถ้าสดชื่น”
เปิดใจ “เจนนี่ – ลิลลี่” วันที่โด่งดังทั่วทุก “อำเภอ”
ในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด ได้สร้างผลกระทบต่อประชาชนในหลากอาชีพ แต่ก็ยังคงมีความน้ำใจที่หยิบยื่นให้กันไม่ขาดสาย รวมถึงคนในวงการบันเทิงหลายคนที่ออกมาช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ
อย่างนักร้องสาว เจนนี่ - รัชนก เกตุสุวรรณ หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ก็ได้ประกาศแจกเงินช่วยคนที่กำลังเดือดร้อนและลำบากในวิกฤตช่วงนี้คนละ 500 บาท ผ่านเฟซบุ๊ก โดยให้แฟนเพลงนำภาพคู่ที่ถ่ายกับนักร้องในค่ายหลังเวที มาโพสต์ในคอมเมนต์พร้อมกับเลขบัญชี โดยจำกัดเพียง 200 คนเท่านั้น
งานนี้เลยไม่วายเจอดราม่า ว่าทำแบบนี้เหมือนเป็นการโปรโมทตัวเองและค่ายเพลงมากกว่า ใครจะมีรูปคู่กับศิลปินหลังเวทีมากขนาดนั้น ล่าสุดนักร้องสาวได้เปิดใจกับ วันบันเทิง ถึงเรื่องดังกล่าวว่า
“หนูคิดว่า เหมือนหนูควรช่วยเหลือสังคมบ้าง เพราะที่มีวันนี้ได้เพราะสังคมก็ช่วยเรา เป็นแฟนคลับเรา หนูตั้งใจว่าจะเอาเงินตัวเองแจก 100,000 บาท ก็ไม่รู้จะแจกยังไง เพราะคนก็ลำบากกันหมด โพสต์ไปคนก็ขอความช่วยเหลือเยอะอยู่แล้ว หนูเลยคิดว่าจะเลือกคัดแบบง่ายๆ ขอเป็นแฟนคลับที่เคยไปดูคอนเสิร์ต เคยซื้อตัวเข้ามาดูคอนเสิร์ตเรา อย่างน้อยเขาก็เคยจ่ายเงินมาช่วยเรา ตอนนี้เขาอาจจะลำบากอยู่ก็ได้ อยากตอบแทนเขา เลยขอเป็นคนที่มีรูปคู่กับพวกเราที่หลังเวที เพราะส่วนใหญ่จะเป็นคอนเสิร์ตเก็บบัตรค่ะ”
เงิน 100,000 บาท ที่แจกเป็นเงินส่วนตัวหรือเงินของค่าย
“เงินของหนูค่ะ พอเราได้ช่วยคนก็ดีใจค่ะ แม้จะมีดราม่าเกิดขึ้น บางคนคอมเมนต์ว่าถ้าทำแบบนี้อย่าแจกดีกว่า คือหนูอยากให้มองในมุมที่หนูอยากให้ อยากให้ในที่นี้หมายถึงว่าใครก็ได้ คือหนูก็กลัว เพราะเงินที่แจก 100,000 บาท แต่คนขอความช่วยเหลือเยอะ ก็เลยเลือกขอจำกัดบุคคลเล็กๆ จะได้คัดกรองง่าย ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ว่าคนที่มีรูปคู่แล้วจะได้ทุกคนนะคะ เพราะหนูแจก 200 คนค่ะ ซึ่งตอนนี้โอนครบแล้วค่ะ”
เจตนาของเราดีแต่โดนดราม่า บั่นทอนเราไหม หรือชินแล้วเพราะเราก็โดนมาเยอะ
“ก็เริ่มชินแล้วค่ะ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะไม่ว่าแจกเท่าไหร่ก็อาจจะโดนอยู่ดี ก็เลยคิดว่าเราแจกแล้ว เราสบายใจที่ได้ช่วยเหลือคนที่ลำบาก จริงๆหนูก็แบ่งปันมาตลอด เพราะหนูรู้ดีว่าการทำบุญ ไม่ว่าเราทำอะไรไป มันย่อมได้สิ่งดีๆกลับมา แต่ครั้งนี้เป็นการทำบุญที่ออกจากบ้านไม่ได้ ก็เลยต้องพึ่งโซเชียลค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าจะไปแจกหน้ากากอนามัยดีไหม หรือว่าแจกถุงยังชีพดีไหม แต่คือคุณแม่หนูป่วยอยู่ ถ้าป่วยซ้อนมันอันตราย หนูเลยเลี่ยงที่จะออกไปข้างนอก เลือกที่จะใช้โซเชียลค่ะ แต่หนูไม่ได้รู้สึกแย่กำลังดราม่านะคะ หนูสบายใจที่หนูได้ให้มากกว่า การตั้งกติกาขึ้นมาของหนู เพราะหนูก็ไม่รู้ว่าจะแจกยังไงจริงๆค่ะ เพราะบางที บางคน เข้ามาคอมเมนต์ว่าลำบาก เราก็ไม่รู้ว่าลำบากจริงๆไหม ก็เลยเลือกที่จะช่วยคนที่เขาเคยจ่ายให้เข้ามาดูเรา แต่ก็อาจจะคิดแคบไปนิดนึงว่า ถ้าคนที่ลำบากจริงๆล่ะ แต่ตอนนี้ก็คิดว่าสบายใจแล้วค่ะที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น (ยิ้ม)"
ขอบคุณ วันบันเทิง
