“เก้า เกริกพล” ไลฟ์สวนกลับ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ปมค่าตัว – ส่วนแบ่งยูทูบ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




“เก้า – เกริกพล เพชรรัตน์” ไลฟ์สวนกลับ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ปมค่าตัว – ส่วนแบ่งยูทูบ ยันไม่ได้ใช้เพจเป็นสื่อกลางแฉ

ออกมาผลัดกันซัดคนละหมัด สำหรับปมดราม่าเรื่องส่วนแบ่งและค่าตัวของ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น และ เก้า – เกริกพล เพชรรัตน์ นักร้องหนุ่มที่ร่วมฟีเจอร์ริ่งเพลงดัง เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว โดยฝั่ง เจนนี่ หลังจากมีเพจหนึ่งแฉว่าโกงเงินนักร้องหนุ่ม จนเกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนัก ได้งัดหลักฐานการโอนเงินออกมาเคลียร์ว่ามีการโอนให้ 10,000 บาท ก่อนถ่ายทำเอ็มวี ต่อมาฝั่งพ่อของนักร้องหนุ่มโทรมาสอบถามเรื่องส่วนแบ่งจากยอดวิวยูทูบจึงได้โอนไปให้อีก 20,000 บาท แต่อีกฝ่ายโอนคืนกลับมา พร้อมยืนยันว่าไม่เคยโกงใคร

“เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” เตรียมแถลงเคลียร์ทุกดราม่า ด้านแม่โพสต์เตือนหยุดตอบโต้

“เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” งัดหลักฐานเคลียร์ โต้โกงเงินนักร้องหนุ่ม

จากนั้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (29 ก.ค.63) ทางด้าน เก้า เกริกพล ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก เกริกพล เพชรรัตน์ สวนกลับเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่าเป้นการออกมาพูดแจงในส่วนของตัวเอง

ไม่ธรรมดา!! “เก้า เกริกพล” จากหนุ่มเสียงดีเวที The Voice Kids สู่นักร้องฟีเจอร์ริ่ง "เลิกคุยทั้งอำเภ...

โดยนักร้องหนุ่ม เผยว่า เริ่มต้นการร่วมงานนั้น อีกฝ่ายมาขอฟีเจอริ่งด้วย 2 ครั้ง แต่ตนเองไม่ไป ต่อมาได้ไปออกรายการหนึ่ง ทำให้รู้จักและสนิทกันพอสมควร เลยไปร่วมฟีเจอริ่งด้วย สิ่งที่ออกมาพูดวันนี้เป็นความจริงทุกอย่าง จะพาไปสาบานที่ไหนก็ได้ สำหรับเงิน 10,000 บาท มีการโอนมาให้จริง แต่เขาบอกว่าโอนให้ไว้กินขนมและค่าเดินทางในการไปอัดเสียงร้อง

หลังจากนั้นได้มาเจอกันที่พัทลุง ตอนนั้นมีตน แม่ และเขา รู้ดีที่สุดว่าพูดและตกลงอะไรกัน เขาคุยกับแม่ว่า พี่จะไม่เอาเปรียบน้อง เพราะเคยโดนเอาเปรียบมาก่อน จะดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ตอนนั้นแม่พูดว่า โอนมา 10,000 มากเกินไปไหม สำหรับเรามันก็มากไป เพราะเราไปอัดเสียงเฉยๆ ยังทำงานให้เขาไม่เสร็จ แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไรให้น้องกินขนม วันไปถ่ายเอ็มวีค่อยว่ากันอีกที จนถึงวันถ่ายเอ็มวี เขาสั่งเสื้อผ้าที่ใช้ถ่ายทั้งหมด 6,000 บาท ซึ่งเป็นเงินเอาเงินทีได้ 10,000 บาท ไปซื้อ รวมทั้งค่าที่พัก ค่ากิน ก็เป็นคนจ่ายเอง ซึ่งต้องควักเงินตัวเองออกเพิ่มอีก 2,000 บาท ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าช่วยกันไปก่อน

สำหรับกรณีส่วนแบ่ง 70/30 เขาพูดจริง ไปคุยกับแม่ตนว่าจะแบ่งค่ายูทูบให้เรา ซึ่งคุยกันหลังจากอัดเสียงร้องเสร็จ และรอจะไปถ่ายเอ็มวี ตอนนั้นตนไปกับ พี่ติ๊ก ชีโร่ ด้วย และมีสัญญาใจกัน ไม่ได้เซ็นสัญญา อยู่กันแบบพ่อลูก ไม่มีการปิดกั้นแต่อย่างใด ส่วนแบ่ง 70/30 ที่คุยกัน โดยไม่เขียนลายลักษณ์อักษร เพราะใช้ใจแลกใจ

พอทำเพลงเสร็จ เพลงลงยูทูบติดชาร์จอันดับ 1 มียอดวิวหลายล้าน จนถึงยอดวิวเกิน 10 ล้าน ผมโทรไปหาเขา และบอกว่าเพลงน่าจะถึง 100 ล้านวิวแน่นอน พร้อมแสดงความดีใจกับเขา แต่คำที่ได้ยินจากเขา คือ เพลงนี้ไม่ใช่เพลงของผม เป็นเพลงของ ลิลลี่ แต่คำสัญญาที่เขาให้มาก่อนหน้านั้น ทำไมกลับคำ วันที่เพลงไปขนาดนั้นแล้ว ตนเองทนเก็บเรื่องนี้มาปีกว่าแล้ว ซึ่งการออกมาครั้งนี้ไมได้แก้ข่าว แค่อยากชี้แจง หลังจากเขาบอกว่าเพลงนั้นไม่ใช่ของผม ก็ไม่ได้อะไร เลยตัดสินใจบอกไปว่า ขอเพลงไปทำเป็นเวอร์ชั่นชาย เพื่อเอาไปอัพลงช่องยูทูปของตัวเอง เขาบอกว่าไม่ได้ เราก็งง แต่ไม่เป็นไร เพราะเป็นสิทธิของเขา ส่วนเรื่องที่บอกว่าทำไมมาพูดตอนนี้ ตนเองทำหนังสือยื่นไปให้เขาแล้วที่บ้าน เขาได้รับเอกสารแล้ว แต่เมิน ตนเองก็ไม่อะไร ก็จบกันไป ไม่ได้เรียกร้องอะไร จากนั้นความสัมพันธ์แย่ลง

เปิดใจ “เจนนี่ – ลิลลี่” วันที่โด่งดังทั่วทุก “อำเภอ”

ส่วนเรื่องคอนเสิร์ตที่มีหลายคนถามว่า ทำไมไม่ไปร่วมงานกับอีกฝ่าย ทำไมหยิ่ง หรือค่าตัวแพง ในส่วนคอนเสิร์ต เราตกลงกันว่า เขาจะให้ 3,000 บาทต่องาน ตอนนั้นตนมาอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯแล้ว มันไม่คุ้ม จึงตัดสินใจไม่ไปเล่นคอนเสิร์ตด้วย และที่ตนเองไปออกทุกรายการ ได้รายการละ 500 บาท แต่ 2 รายการหลัง พ่อโทรไปบอกกับรายการเองว่า 500 บาทไม่พอ แค่ค่าแท็กซี่ก็หมดแล้ว มันไม่คุ้ม

สำหรับเรื่องที่เขาบอกว่าพ่อผมโทรไปขอส่วนแบ่ง 30% วันนั้นที่พ่อโทรไป ครอบครัวได้ยินกันหมด พ่อบอกว่าเพลงมีคนดู 100 ล้านวิวแล้วนะ มีอะไรจะให้น้องบ้าง แต่เขาพูดว่า พ่อต้องการเท่าไหร่ หลังจากคุยกันเสร็จ เขาขอบคุณผมและโอนเงินมาให้ 20,000 บาท หลังจากที่พ่อโทรไป แต่ตนเองโอนเงินกลับ เพราะรู้สึกว่าไม่ได้ให้ด้วยใจ

สำหรับประเด็นที่ว่าใช้เพจหนึ่งเป็นสื่อกลางในการว่าเขา และให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ ขอชี้แจงว่าไม่ได้รู้จักกับเพจนี้มาก่อน แต่เพจนี้เป็นคนโทรหาแม่และถามทุกเรื่อง แล้วที่บอกให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ อันไหนที่เป็นเท็จ บอกมาเลย เรา 3 คน คือ เขา ผม และแม่ผม รู้ดีว่าอะไรคืออะไร ทุกอย่างจบไปนานแล้ว ยืนยันว่าไมได้ใช้เพจดังกล่าวเป็นสื่อกลาง

และอยากบอกว่า ไม่มีใครชอบให้ใครมาต่อว่าพ่อตัวเอง ที่แค้นใจตอนนี้คือมีคนมาต่อว่าพ่อของตน เป็นเรื่องที่เขาไม่น่าเอามาโพสต์ ถึงจะไม่ใช่เจตนาก็ตาม แต่พ่อตนโดนเต็มๆ และการมาพูดวันนี้ไม่ได้ต้องการให้ใครเชื่อ แล้วแต่คนจะตัดสิน แต่ตนเองออกมาพูดในสิ่งที่เก็บไว้เป็นปีเท่านั้นเอง หากพูดอะไรผิดพลาดไป หรืออารมณ์ร้อยเกินไปก็ขอโทษด้วย  

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ