“ไบร์ท วชิรวิชญ์” เสียใจเจอมรสุมดราม่า น้อมรับความผิดในอดีต พร้อมแก้ไขให้ดีขึ้น


โดย PPTV Online

เผยแพร่




“ไบร์ท – วชิรวิชญ์ ชีวอารี” เปิดใจเคลียร์ดราม่าครั้งแรก รับเสียใจกับข่าวและโดนขุดเรื่องอดีต ขอโทษน้อมรับผิดตั้งใจจะเดินหน้าปรับปรุงตัว ลั่น “ไม่ต้องรักผมก็ได้ แต่อย่าทำร้ายผมก็พอ”

จากกระแสดราม่าที่ทำเอาโซเซียลร้อนระอุ ของนักแสดงหนุ่มหน้าใส ไบร์ท – วชิรวิชญ์ ชีวอารี ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทั้งเรื่องในปัจจุบันหลายเรื่องและยังถูกขุดวีรกรรมแสบในอดีตที่ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างหนัก ล่าสุดวันนี้ ไบร์ท ได้ออกมามาเปิดใจถึงกระแสดราม่าที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกว่า

“ไบร์ท วชิรวิชญ์” โพสต์ขอโทษ ปมดราม่าถูกขุดวีรกรรมในอดีต

เปิดใจ "ไบร์ท วชิรวิชญ์” ตั้งรับความดัง ทำอะไรต้องคิดมากขึ้น

ณ วันนี้ใช้ชีวิตยังไงบ้างเพราะว่าความดังแซงหน้าโควิดไปแล้ว

“เหมือนเดิมครับ ยังทำงานเหมือนเดิม ตอนนี้มันดีตรงที่ว่าผมได้ทำในหลายๆอย่างที่ไม่เคยมีโอกาสได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นร้องเพลงหรือว่างานอะไรอื่นๆ ที่กำลังจะตามมา ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงที่สนุกกับงานมากๆ”

รู้สึกว่ามันเหมือนฝันไหม

“ยิ่งกว่าฝันอีกครับ ยิ่งกว่าที่เคยฝันไว้เยอะเลยครับ”

ปรับตัวยังไงกับความดังอย่างรวดเร็วที่เข้ามา

“หลังๆผมพยายามจะมีความสุขกับชีวิต รู้สึกว่าทุกวันนี้ชีวิตผมมีความสุขมากขึ้น ได้มีเพื่อนกลุ่มใหม่ๆเยอะขึ้น ที่บ้านผมมีความสุขมากขึ้น เรื่องเครียดน้อยลง ผมว่าผมมีความสุขขึ้นเยอะเหมือนกันนะ”

ใช้ชีวิตยากขึ้นไหม หลังจากที่ทุกคนโฟกัสชีวิตเราไม่ว่าจะทำอะไรยังไง

“ต้องยอมรับว่ามันยากขึ้นแหละ มีอะไรที่เราต้องรับผิดชอบมากขึ้น ด้วยความที่คนที่รู้จักเรามีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีหลายเพศหลายวัยเวลาเราทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบต่อทุกๆกลุ่ม แต่มันก็เป็นเรื่องดีเหมือนว่าเราได้เช็กตัวเอง ได้มีฟีดแบคว่าทำแบบนี้มันดีไหม เราจะได้ทบทวนตัวเองตลอด ผมว่ามันก็ดีนะ เพราะว่าเราก็อยากจะดีขึ้นในทุกๆวันอยู่แล้วด้วยครับ”

ช่วงเวลาที่ผ่านมาที่เจอเรื่องราวเยอะๆ ตอนนั้นรู้สึกยังไง

“มันก็เสียใจ เราก็คิดมาก มีดาวน์บ้าง แต่ว่าสุดท้ายแล้วเราก็รู้สึกว่าเราก็ยังต้องทำตรงนี้ต่อไป เรารักอาชีพนี้อยากอยู่ตรงนี้ก็ต้องทำให้เต็มที่ แล้วมันยังมีคนที่สนับสนุนเรา คนที่รอคอยผลงานดีๆของเรา เนี่ยแหละมีความสุขกับชีวิต แล้วผมก็จะทำงานของผมให้ดีและพัฒนาตัวเองต่อไป”

แต่ละเรื่องที่เข้ามาก็ต่อเนื่องตลอด ตั้งรับยังไง

“จริงๆตอนนั้นหนักเหมือนกันครับ กินไม่ค่อยได้ นอนไม่ค่อยหลับ แต่ผมแค่รู้สึกว่าเรารู้ว่าตัวเองวันนี้เป็นยังไง เราจะทำสิ่งดีๆจะตั้งใจทำงาน ถ้าเราทำต่อไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งคนก็ต้องเห็นว่าผมเป็นคนยังไงวันนี้ อยากจะให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วกันครับ”

เคยร้องไห้เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นบ้างไหม

“ผมไม่ใช่คนร้องไห้ครับ”

ใช้กำลังใจส่วนไหนในการก้าวข้ามมันไป

“ก็คงเป็นครอบครัวครับ คือจริงๆผมไม่ใช่คนที่จะปรึกษาครอบครัวเท่าไหร่ จะไม่ได้บอกว่าแม่เครียด ผมจะไม่ค่อยเล่าครับ เก็บปัญหาและจัดการกับตัวเองมากกว่า แต่ว่าครอบครัวจะเป็นกำลังใจตรงที่ว่า งานที่เราทำตรงนี้มันไม่ได้ทำเพื่อเราคนเดียวไง ครอบครัวหรือญาติพี่น้องก็ได้ประโยชน์จากเราในงานตรงนี้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องไปต่อครับ ต้องสู้ต่อ”

เหมือนการทำงานในวงการบันเทิงก็ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัว

“จริงๆผมทำงานมานานแล้วนะครับ ผมใช้ชีวิตตั้งแต่วัยเด็กมาก็คือมีคนจับตามองมาอยู่แล้ว เลยไม่ได้รู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ แค่วันนี้มันอาจจะมีคนมองเยอะขึ้น มีกลุ่มคนรู้จักมากขึ้น มีความรับผิดชอบที่มันมากขึ้นเฉยๆครับ”

บางคนยังขุดเรื่องเก่าๆ มาพูดทั้งๆที่ผ่านไปนานมากแล้ว เรารู้สึกยังไง

“มันก็มีทั้งเรื่องจริงและเรื่องไม่จริงครับ อันไหนที่เป็นเรื่องจริงแล้วเราผิด ผมก็ขอโทษทุกคนเลยที่ผมทำอะไรไม่ดีไว้ตอนเด็ก ทำให้รู้ว่าตอนเด็กไม่ได้เป็นคนที่น่ารักเท่าไหร่ แต่วันนี้อย่างที่บอกครับ ตั้งใจจะเป็นคนที่ดีขึ้น ตั้งใจจะทำประโยชน์ให้คนอื่นมากขึ้นครับ”

เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นบทเรียนให้เรายังไงบ้าง

“อย่างที่บอก ผมว่าคนเราผิดพลาดได้ครับ แต่ผิดแล้วเราต้องจำ เราต้องดูว่าสิ่งนี้มันดีหรือไม่ดี และเราก็นำไปเป็นบทเรียนพัฒนาตัวเองว่า อนาคตจะเป็นยังไง เราจะทำยังไงให้มันดีขึ้น”

ช่วงที่เกิดเรื่องดราม่าเยอะๆ แอบมีถามกับตัวเองไหมว่าทำไมเราต้องมาเจอแบบนี้

“ไม่นะ ผมรู้สึกว่าเขาก็มีสิทธิ์ เราเคยทำผิด เขารู้ เขาไม่โอเค เราก็ต้องรับผิดชอบแหละ แต่ผมไม่สามารถไปแก้ไขอดีตได้ สิ่งที่ผมทำได้คือจะทำพรุ่งนี้ให้ดีขึ้นเรื่อยๆครับ”

ยังมีคนเข้าใจเราผิด เราอยากจะบอกอะไรเขาบ้าง

“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องรักผมก็ได้ แต่อย่าทำร้ายผมก็พอ”

แฟนคลับคอยช่วยซัพพอร์ตเราแค่ไหน

“เยอะแยะมากครับ แฟนคลับช่วยเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นข้อความหลายๆ ช่องทางในโซเชียล เวลาเราเห็นก็ทำให้รู้ว่า ยังมีคนซัพพอร์ตเราอยู่ ยังมีคนที่รอคอยผลงานเราอยู่ ยังมีคนที่เรายังเป็นกำลังใจให้เขาอยู่ งานเรามันไม่ได้เพื่อเราคนเดียว เราทำเพื่อใครหลายๆ คน ทำให้รู้สึกว่ายังมีแรงทำต่อ มันได้ทำเพื่อคนอื่นด้วย”

เพราะแฟนคลับด้วยหรือเปล่า ที่ทำให้เรารู้สึกว่าต้องทำตัวให้ดีขึ้นกว่านี้

“ไม่ครับ ไม่ใช่เพราะแฟนคลับหรอก เพราะงานของเรานี่แหละ มันคนเห็นเยอะ ผมแค่รู้สึกว่าผมต้องรับผิดชอบต่อสังคม แต่แฟนคลับเหมือนเป็นแรงใจให้ผมมากกว่า แฟนคลับผมไม่เคยบังคับผมเลยนะครับ จะรักที่ผมเป็นมากกว่า แต่เราก็ต้องรับผิดชอบต่อคนกลุ่มรวมด้วย”

ครอบครัวเราให้กำลังใจอย่างไรบ้าง

“ไม่ค่อยเลยครับ ผมไม่ค่อยคุยกับที่บ้านเลย คือผมจะเป็นประเภทแบบ ไม่อยากเอาเรื่องเครียดๆ ไปให้คนอื่นที่เขาไม่น่าจะแก้ปัญหาให้ผมได้ ผมจะเป็นแนวแบบโทร.ไป รักแม่นะ  แม่รักลูก ผมจะไม่ไปนั่งขอกำลังใจอะไรขนาดนั้นครับ”

ส่วนใหญ่ใครเป็นคนให้กำลังใจเรา

“ถ้าช่วงที่หนักจริงๆ จะเป็นคุณน้าครับ น้ากิ๊ก น้าผมจะมาอยู่ด้วยแทบทุกวันเลย เป็นคนที่เข้าใจผมที่สุดแล้วครับ”

สถานะหัวใจตอนนี้ว่างอยู่หรือเปล่า

“ตอนนี้เหรอครับ ก็...อืม จะยังว่างหรือไม่ว่าง ผมว่าไม่ใช่ประเด็น ผมอยากให้คนโฟกัสที่งานผมมากกว่า ถ้าใครจะรู้สึกไม่ชอบผม เพราะว่าผมหัวใจไม่ว่าง ผมก็ยอมรับครับ แต่ก็สำหรับคนที่ยังโฟกัสผลงานอยู่ ไม่โฟกัสในเรื่องอื่นๆ ผมก็ขอบคุณมากๆ ที่ยังรักผม (ยกมือไหว้)”

เรื่องความรัก เราสามารถพูดถึงได้เยอะขึ้นไหม

“จริงๆ ผมรู้สึกว่าผมโฟกัสกับงานมากกว่า ผมรู้สึกว่าถ้าจะให้ใครจำผมได้ในภาพไหน ผมอยากให้จำผมว่าคือคนที่ตั้งใจทำงาน ผมคือคนที่พัฒนาตัวเอง ไม่ใช่ชอบผมเพราะว่าผมโสด”

ความมีชื่อเสียง ส่งผลในเรื่องความรักของเราไหม

“มีครับ แต่ว่ามียังไง ผมขอเก็บไว้แล้วกัน”

อยากให้ความรักเป็นเรื่องส่วนตัวใช่ไหม

“ครับ”

TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ