(ข่าวแนะนำ)
“เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ขอเวลาพิสูจน์ตัวเอง หลังได้รับบทเรียนจากความผิดพลาด
หลังจากเป็นมหกาพย์ดราม่ามานาน สำหรับปมปัญหาเรื่องการแบ่งรายได้จากยูทูบของ เก้า - เกริกพล เพชรรัตน์ และ เจนนี่ – รัชนก สุวรรณเกตุ หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น โดยวันนี้ ( 21 ส.ค.63) เก้า พร้อมด้วย ทนายเจมส์ นิติธร เดินทางไปยัง ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นฟ้อง เจนนี่ และ บริษัทได้หมดถ้าสดชื่น ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์นักแสดงและละเมิดลิขสิทธิ์ดนตรีกรรม โดยทั้งคู่เผยว่า
วันนี้มาทำอะไรที่ศาล
ทนายเจมส์ : วันนี้มายืนฟ้องให้น้องเก้า ในกรณีที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์นักแสดงทางด้านดนตรีกรรม จะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์นักแสดง และจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ทางด้านดนตรีกรรม
ทางเราเรียกร้องอะไรบ้าง
ทนายเจมส์ : เรียกร้องเป็นอีกขั้นตอนนึง อันนี้ผมยื่นของการละเมิดลิขสิทธิ์ซึ่งเป็นคดีอาญาล้วนๆ ยังไม่มีส่วนของคดีแพ่งเข้ามาเกี่ยวจ้อง อันนั้นเป็นอีกขั้นตอนนึง
เขาละเมิดลิขสิทธิ์ “เก้า” อย่างไรบ้าง
ทนายเจมส์ : “ในส่วนของนักแสดง เขายังไม่ได้จ่ายค่าตอบแทนให้กับนักแสดง ทางกฎหมายมองว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์นักแสดง ซึ่งมีกำหนดในกฎหมายชัดเจนในมาตรา 52”
ทาง “เก้า” ไม่ได้เซ็นต์สัญญา ไม่มีหลักฐานอะไรใช่ไหม
ทนายเจมส์ : ในทางกฎหมายให้ทางฝั่งของนักแสดงต่างหากที่เป็นคนเซ็นต์เอกสารใครก็แล้วแต่ที่อ้างว่าน้องไปรับจ้างอะไรก็แล้วแต่ ต้องให้น้องเซ็นต์เอกสารในการมอบสิทธิ์ให้เอาไปเผยแพร่หรือแสวงหากำไร การที่ไม่ให้น้องเซ็นต์เอกสาร น้องได้เปรียบเสียด้วยซ้ำ
เกี่ยวข้องกับการแบ่ง 70:30 ไหม
ทนายเจมส์ : “ยังไม่ถึงขั้นตอนอ้าง 70:30 ครับ อันนี้พูดถึงการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเดียวครับ เรายังไม่มีการยินยอมให้เอาไปเผยแพร่”
กระบวนการต่อไปจะทำอย่างไร
ทนายเจมส์ : “ในกระบวนการสามารถจะฟ้องเรียกค่าเสียหายได้อีกต่างหาก แต่ในลักษณะของการเจรจา ดำเนินคดี มันสามารถดำเนินการเจราในส่วนของเพ่งไปพร้อมกันได้ ก็เลยพักในส่วนของเพ่งเอาไว้ มามุ่งในส่วนของคดีอาญาดีกว่า”
แล้วจะมีการดำเนินการทางเพ่งอีกรอบนึงไหม
ทนายเจมส์ : “ใช่ ถ้าคุยไม่รู้เรื่องนะครับ แต่ผมยังเชื่ออยู่ลึกๆว่าจะคุยกันรู้เรื่องอยู่”
พอมีข่าวออกไป เขาได้ติดต่อมาหลังไมค์ขอไกล่เกลี่ยหรือเปล่า
ทนายเจมส์ : “ก็มีติดต่อมาบ้างครับ แต่ว่าตัวเลขตกลงกันไม่ได้”
บอกรายละเอียดได้มั้ยว่าติดต่อยังไง เรียกร้องเท่าไหร่
ทนายเจมส์ : “อันนั้นเป็นส่วนของที่มีผู้ใหญ่เข้ามาคุยครับ ผมก็เลยไม่สามารถที่จะเปิดเผยรายละเอียดได้ครับ”
มีผู้ใหญ่มาเป็นคนกลาง
ทนายเจมส์ : “ใช่ครับ”
“เจนนี่” เสนอมาน้อยกว่าที่ “น้องเก้า” ควรจะได้รับหรือเปล่า
ทนายเจมส์ : “ผมมองว่า น้อยหรือมากมันอยู่ที่หลายๆอย่าง บางคนอาจมองว่าน้อย บางคนอาจมองว่ามาก แต่ผมมองในเรื่องของสิทธิ์ของน้องเขาที่ควรจะได้ มากหรือน้อยผมไม่รู้แต่ผมเรียกตามสิทธิ์”
หลังจากที่เรายื่นเรื่องไปแล้ว เจนนี่ยังสามารถขอไกล่เกลี่ยได้หรือเปล่า
ทนายเจมส์ : “ได้ทุกขั้นตอนครับ ถึงศาลจะมีคำพิพากษาก็ยังคุยได้อยู่”
ถ้าจะไม่ดำเนินคดีในชั้นศาลต้องจ่าย “น้องเก้า” เท่าไหร่
ทนายเจมส์ : “คือตัวเลขคร่าวๆ เราคำนวนรายได้จากที่ควรอาจจะเป็น เพราะทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่ารายได้ที่เกิดจากเพลง 350 ล้านวิวมันคือเท่าไหร่ ณ ตอนนี้ผมเลยปรพมาณการณ์คร่าวๆ ว่าน่าจะตกอยู่ที่ 3 ล้าน ผมเลยส่งส่วนนี้ไป แต่ในขั้นตอนการเจรจามันไม่ใช่ตัวเลขนี้นะ มันน้อยกว่านี้”
ถ้าเขาไม่จ่าย เราจะยื่นเรื่องไปทางยูทูปให้เขาเอาเพลงออกจากยูทูบเลยไหม
ทนายเจมส์ : “อันนั้นผมขอให้เป็นขั้นตอนสุดท้ายครับ และผมบอกเลยว่า เมื่อเรื่องไปถึงยูทูบมันค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่ เพราะนอกจากยูทูปจะลบเพลงนี้ออกแล้ว อาจจะมีการฟ้องเรียกผลประโยชน์ที่เคยได้รับไปแล้ว เนื่องจากมันเป็นรายได้ที่เกิดจากการละเมิดลิขสิทธิ์ของคนอื่น”
ความรู้สึกของ “เก้า” เป็นไงบ้าง
เก้า : “ความรู้สึกก็ไม่ได้อะไรมาก ก็ปล่อยให้ทางผู้ใหญ่จัดการครับผม”
อยากให้มันไปในทิศทางไหน
เก้า : “อยากให้จบเร็วๆ ครับผม”
ถ้าพี่เขาโทรมาขอไกล่เกลี่ยเราพร้อมไหม
เก้า : “ตอนนี้ไม่ได้ติดต่อมาฝั่งผมเลย ก็ปล่อยให้ผู้ใหญ่เลย ผมไม่ได้ยุ่ง ตอนนี้ผมก็ทำงานของผมไป”
เคยคิดมั้ยว่าเรื่องราวมันจะมาถึงจุดนี้
เก้า : ไม่คิดเหมือนกันครับ แต่ถ้าออกมาพูดความจริงตั้งแต่แรก ก็น่าจะจบตั้งนานแล้วครับผม
อยากบอกอะไรกับ “เจนนี่” บ้าง
เก้า : “ผมไม่มีอะไรจะพูดกับพี่ครับผม”
กลัวไหม ทาง “เจนนี่” ก็มีทนายเหมือนกัน
เก้า : “ผมไม่กลัว เพราะว่าสิ่งที่ผมออกมาพูดเป็นความจริงทั้งหมด”
ณ วันนี้เจอหน้ากันได้ไหม
เก้า : “ถ้าเจอก็มาเจอได้ แต่ตอนนี้ผมปล่อยให้เป็นฝั่งของผู้ใหญ่แล้ว (คุยผ่านทนาย?) ใช่ครับ”
จากนี้ทางศาลจะใช้เวลาอีกเท่าไหร่ที่จะนัดทั้งสองฝ่ายมาเจรจายอมความกัน
ทนายเจมส์ : “ในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนการส่งหมายเรียก และสงสำเนาฟ้องไปยังจำเลยทั้งสอง ก็ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน หรือประมาณ 2 เดือน แต่ว่าวันนัดศาลคือวันที่ 9 พ.ย. เวลา 13.00 น. ครับ ที่นี่ครับ นัดทั้ง 2 ฝ่าย”
อยากให้ “ทนายเจมส์” ไล่ไทม์ไลน์ที่บอกว่าเป็นละเมิดลิขสิทธิ์นักแสดง
ทนายเจมส์ : “อันนั้นมันอยู่ในสำนวนแล้วครับ เป็นรายละเอียดสำนวน”
การละเมิดดนตรีกรรมของ “น้องเก้า” คืออะไร
ทนายเจมส์ : “ผมมองว่าการที่น้องไปฟีจเจอริ่งเกิดเป็นเสียงของน้องอยู่ในเพลง การที่จะเอาเพลงๆ นี้ไปใช้ประกอบในมิวสิควิดีโอหรือเอาไปแสวงหาผลประโยชน์ก็ต้องได้รับความยินยอมจากน้องก่อน การที่เอาไปใช้โดนพละการโดยไม่ได้รับความยินยอมจากน้องถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์เหมือนกัน”
มองว่าเป็นศิลปินร่วม ไม่ใช่ลูกจ้าง เขาไม่ได้จ้างเราทำของนะ
ทนายเจมส์ : “เรียนนิดนึงครับ ในส่วนของการจ้างทำของหรือไม่ ใครมีลิขสิทธิ์อะไรอันนี้ให้ศาลท่านวินิจฉัยชี้ขาดเพราะทั้งสองฝ่ายถือข้อเท็จจริงคนละอย่างนะครับ”
ค่าเสียหายที่เรียกให้ชดใช้ในวันนี้เราคำนวนจากอะไร จำนวนเท่าไหร่
ทนายเจมส์ : “ก็เรียกจากฐาน 70:30 แต่ไม่ได้ใส่ตัวเลขลงไปในคำฟ้อง สาเหตุเพราะว่าตัวเลขมันยังไม่นิ่ง เอกสารมาจากหลายๆ ที่เพื่อให้ได้ตัวเลขที่แน่นอนก่อนแ ล้วค่อยฟ้องแพ่งอีกทีนึง แต่ในการเจรจา ตัวเลขยังไม่นิ่ง มันสามารถเจรจาได้หมด”
ต้องรอให้ยูทูบเปิดเผยรายได้ไหม
ทนายเจมส์ : “ต้องร้องไป 3 ที่อันนี้ผมคิดเองนะ ว่าจะร้องไปที่บริษัท ไปที่ยูทูป ร้องไปที่สรรพากรด้วย ขอเอกสารมาดูว่ารายได้เขาเท่าไหร่กันแน่ มีการยื่นไหม”
ขั้นตอนที่จะยื่นคำร้องต่อยูทูปโดยตรง ในเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ตรงนี้ จะดำเนินการอย่างไรบ้าง
ทนายเจมส์ : “มีครับ แต่น่าจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้ว”
ก่อนหน้านี้มีเพลงที่ฟ้องร้องกันแบบนี้ไหม แล้วฝ่ายไหนชนะ
ทนายเจมส์ : “มีเยอะแยะครับ ส่วนใหญ่จะเจรจากันได้ ส่วนใหญ่คนที่เขาฟ้องกันจะเป็นพวกครูเพลงต่างๆ ที่เขาฟ้อง ส่วนใหญ่ถ้าเป็นผู้ว่าจ้าง ผู้ว่าจ้างจะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง แต่ถ้ามีผลประโยชน์อย่างอื่นเกี่ยวข้อง ต่อให้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ คุณก็ต้องไปจ่ายตามที่ตกลงกันเอาไว้”
3 ล้านบาทเรียกเฉพาะในยูทูปอย่างเดียวใช่ไหม
ทนายเจมส์ : “ถูกครับ รวมอย่างอื่นด้วย อย่างที่ผมบอกว่ามี 2 ส่วน”
2 ล้านบาทจบไหม “น้องเก้า”
เก้า : “ผมไม่รู้ว่าเพลงนี้ได้มาเท่าไหร่”
ถ้าวันนี้เขาคุยหลังบ้านให้ 1 ล้านบาทจบไหม
เก้า : “อันนี้ผมก็ไม่รุ้เหมือนกัน เป็นไปตามขั้นตอนดีกว่า เราไปเรียกไม่ได้”
1 หมื่นทำไมไม่ใช่ค่าจ้าง
เก้า : “เขาบอกว่าเป็นค่าขนม ค่าน้ำมันรถที่เราไปร้องเพลง (ยืนยันว่าไม่ใช่ค่าจ้าง?) ยืนยันครับ”
ได้ตกลงกันไหมว่าจะจ้างงานกี่เดือนก่อนที่จะให้ 1 หมื่น
เก้า : “ก่อนที่จะให้ 1 หมื่นก็ไม่มีนะครับ พออัดเสร็จก็ให้ 1 หมื่น”
ตอนเพลงมันดังเขาบอกไหมว่าลิขสิทธิ์เป็นของใคร
เก้า : “พอเพลงดังเหรอครับ พอเพลงลงไปได้ 3 วัน เพลงเกือบจะสิบล้านแล้ว ก็บอกว่าผมไม่ได้ส่วนตรงนี้ ถ้าอยากจะได้ส่วนตรงนี้ก็มาเซ็นต์สัญญาแต่ว่าก็ยังไม่ได้ในส่วนตรงนี้นะ ไปเอาเพลงหน้า ต่อให้เซ็นต์สัญญา”
ทนายเจมส์ : “ต่อให้เซ็นต์สัญญา 70:30 จะได้ก็ต่อเมื่อหลังจากเพลง เลิกคุยทั้งอำเภอ เพลงนี้ไม่ได้”
มันต่างกันอย่างไรจากที่เขาคุยกับเราก่อนหน้านี้
เก้า : “หลังจากได้ 1 หมื่น ไปเจอที่พัทลุง เป็นบ้านผม ก็ไปตกลง 70:30 เรื่องผลประโยชน์ของยูทูบและค่าใช้จ่ายเอ็มวีทุกอย่าง”
“เจนนี่” บอกชัดเจนว่าจะให้ 30:70 ใช่ไหม
เก้า : “ใช่ครับ”
ตอนนั้นค่ายยังไม่มี
เก้า : “ใช่ครับ ค่ายยังไม่มี ตอนที่ตกลงกันยังไม่มีค่าย (ทุกอย่างเป็นปากเปล่า?) ใช่ครับ ตอนที่ทำค่ายเพลงดังแล้วถึงจดทะเบียนค่าย”
รู้สึกอย่างไรมีหน้าเรา มีเสียงเราได้แต่เราไม่ได้เงิน
เก้า : “ก็เจ็บใจตลอด เป็นปมอยู่ในใจตลอด ตอนที่เราไปอัดรากยการตอนนั้นก็ไม่ไม่คุยกันนะครับ เวลาไปเจอกันก็ไม่ได้คุยอะไรกัน ในรายการเวลาอัดเฮฮาเหมือนรู้จักกัน ยังไม่ได้ทะเลาะกัน แต่จริงๆไม่ได้คุยกันแล้ว เหมือนเป็นการแสดง เจอกันในรายการก็ทำหน้าที่ของเราไป”
ไม่คุยเพราะไม่สนิท หรือติดใจตั้งแต่ตอนนั้น
เก้า : “ความสัมพันธ์มันลดลงตั้งแต่รายการแรก เวลาไปเจอหน้ากันก็ไม่ได้คุยอะไรมาก”
ลดลงตั้งแต่ 3 วันแรกที่โทรหาเขาเหรอ
เก้า : “ตอนนั้นก็ยังครับ ยิ่งไปลดตอนที่ได้ 500 ครับผม”
ตอนนี้ได้คุยกับ “เปา กิ่งกาญจน์” ไหม
เก้า : “กับพี่เปาไม่ได้คุยอะไรมาก คุยแค่เรื่องคอนเสิร์ตที่ไปออกด้วยกัน ก็มีเจ้าของงานรับเป็นคู่ไป”
อยากจะบอกอะไร “เจนนี่” ไหม
เก้า : “ผมไม่รู้จะฝากอะไร ก็ฝากไปตามนี้แหละครับ”
อะไรที่ทำให้ “ทนายเจมส์” มองว่า 1 หมื่นบาทไม่ใช่ค่าจ้าง
ทนายเจมส์ : “เอาง่ายๆเลย ผมอยู่ในวงการมานาน ถ้าเป็นศิลปินที่ไม่มีชื่อเสียงเลย 5 พันก็สมควรแล้ว แต่นี่เขามีชื่อเสียง เขามีฐานแฟนคลับของเขา เขาเป็นเดอะวอยซ์คิดส์ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมาย 1 หมื่นไม่ใช่ค่าตัวแน่นอนครับ ถามดาราคนไหนก็ได้ 1 หมื่นไปทั้งร้องเพลงและถ่ายเอ็มวีทั้งวันใครจะเอาไหม อันนี้แหละที่จะเป็นมตราฐานในการที่เป็นการตัดสินในศาลครับ”