“ซาร่า” เผยเหตุ ไม่ให้ “ไมค์” ได้สิทธิ์ปกครองลูก ยอมไม่ได้ ถ้าลูกถูกลดคุณภาพชีวิต


โดย PPTV Online

เผยแพร่




“ซาร่า คาซิกินี” พร้อมทนายความ เปิดใจครั้งแรก สาเหตุไม่ให้ “ไมค์ – พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” ได้สิทธิ์ปกครองลูก

หลังจากเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563 นักร้อง-นักแสดงหนุ่ม ไมค์ – พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล เดินทางไปศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ในคดียื่นคำร้องขออำนาจปกครองบุตรร่วมกับ ซาร่า คาซิงกินี นางแบบสาว เพื่อขอให้ศาลพิพากษาให้เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของลูกชาย โดยนักแสดงหนุ่มได้ร้องขอเพื่อจดทะเบียนรับรองบุตร ใช้อำนาจปกครอง ด้าน ซาร่า นั้นได้ส่งทนายส่วนตัวมาคัดค้าน

“ไมค์ พิรัชต์” ร้องศาลขอสิทธิ์ความเป็นพ่อ ด้าน “ซาร่า” ส่งทนายค้าน

ต่อมาหนุ่ม ไมค์ ได้ออกมาโพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว เผยสาเหตุที่เงียบมานาน พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมาส่งเสียค่าเลี้ยงดูมาตลอด แต่ที่ไปร้องต่อศาลนั้นเพื่อขอสิทธิ์ความเป็นพ่ออย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เคยคิดพรากลูกไปจากแม่ 

“ไมค์” เผยสาเหตุเงียบมานาน ยันแค่ขอสิทธิ์ความเป็นพ่อ ไม่คิดพรากลูกจากแม่

ล่าสุดวันนี้ ซาร่า พร้อมทนายความส่วนตัว วนิดา แซ่ก๊วย ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรกในรายการ โหนกระแส โดยเผยว่า

แยกย้ายกับ “ไมค์” มากี่ปีแล้ว

ซาร่า : ถ้าตอนนี้น้อง 6 ปีค่ะ ถ้ารวมท้องด้วยก็ 6 ปีกว่าๆค่ะ

6 ปีมานี้ “ไมค์” ดูแลมาตลอดไหม

ซาร่า : มันก็มีบางช่วงค่ะ ช่วงแรก ๆที่เรามีปัญหากัน ทุกอย่างมันยังคุยกันไม่ลงตัวแต่พอหลังจากนั้น คุยกันลงตัวก็เป็นการช่วยเหลือดูแลกันมาตลอดค่ะ

ปัจจุบันนี้ทางน้องกับ “ซาร่า” อยู่กรุงเทพหรือเปล่า

ซาร่า : "อยู่ภูเก็ตค่ะ บ้านซาร่าอยู่ภูเก็ตค่ะ (ก่อนหน้านี้ที่อยู่กรุงเทพล่ะ?) ก่อนหน้านี้อยู่ภูเก็ตค่ะ แต่ว่าเราตัดสินใจที่จะมาอยู่กรุงเทพเพื่อความสะดวก คือตัวซาร่าอยากให้แมกซ์กับไมค์เจอกันบ่อยๆ ก็เลยคุยกันว่าคงต้องมาใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพเพื่อเขาจะได้เจอกันง่ายๆ อำนวยความสะดวกค่ะ (ลูกก็เลยมาเรียนอยู่ที่นี่?) ใช่ค่ะ

ล่าสุด “ไมค์” มีการประกาศออกมาว่า ต้องการที่จะร้องต่อศาลเพื่อขอเป็นพ่อโดยถูกต้องตามกฏหมาย อันนี้ทำไมติดขัดอะไรถึงไม่ได้

ซาร่า : จริงๆ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เราไม่เคยคุยกันเลย ไม่เคยมีการพูดถึงเรื่องการรับรองบุตรกันเกิดขึ้นมันมีแต่สื่อข่าวต่างๆ ที่ออกมา ถ้าลองย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว เราเคยมีปัญหาเรื่องนี้ผ่านสื่อกัน ซึ่งเป็นหนึ่งปีเต็มๆ ที่ทางฝั่งคุณพ่อเขาพูดว่ารับรองแล้ว เรียบร้อยแล้ว แล้วมันจะมีปัญหากันช่วงนึงค่ะ ที่ทำให้ทุกคนได้รู้ว่ามันไม่ได้มีการรับรองเกิดขึ้น แต่ตัวซาร่าเองก้ไม่ได้เรียกร้องอะไร (เขาเคยขอไหม?) ไม่เคยค่ะ เราไม่เคยคุยกันเรื่องนี้เลย

แล้ววันนี้ที่เขาขอแล้วไปร้องต่อศาล ทำไมเราถึงไม่อนุญาตเขา

ซาร่า : คือเขาควรคุยกับเราดีๆ ก็ได้ ไม่ใช่ว่า ด้วยความที่เราอยู่บ้านแล้วแม่เราก็เดินมาพร้อมหมายศาล

ในมุมของ “ไมค์” ที่ทราบมาคือไม่เจอลูกมา 5-6 เดือนแล้ว

ซาร่า : ไม่จริงค่ะ เพราะวันเกิดลูก กรกฏาคมที่ผ่านมา ในไอจีเขาก็ลงเขามาหาลูกที่คอนโด เขาบอกว่าจะมาเซอร์ไพรส์วันเกิดลูก ใส่ชุดสไปเดอร์แมน ถ่ายรูปลงไอจี

เห็นว่าก่อนเจอคืออยากลำบากมากกว่าจะได้เจอลูก

ซาร่า : ไม่ค่ะ ที่ผ่านมา 6 ปี เราเอื้ออำนวยความสะดวกให้คุณพ่อเขาตลอด คืออยากเจอเมื่อไหร่เราแสตนบายให้ตลอด แต่มันก็มีบางครั้งที่เราไม่ว่างนะ เราทำกิจกรรมกันอยู่นะก็แจ้งพ่อเขา ที่ผ่านมาเขาก็เข้าใจ แต่พอมาวันนี้คำตอบของเราคือวันนี้เราไม่ว่าง เขาก็ไม่ว่างในวันที่เราอยากให้เขา เราก็พูดว่าโอเคนะไม่เป็นไรแค่คน 2 คนว่างไม่ตรงกันเราก็นัดกันใหม่ได้

ถามถึงเรื่องวันเกิดที่ “ไมค์” จะไปหาลูก เท่าที่ทราบมาวันนั้นคุณพาลูกหนีด้วย คุณบอก “ไมค์” ว่าจะพาลูกกลับภูเก็ตแล้วไปแจ้งเที่ยวบินเขาผิด เขาไปนั่งรอที่สนามบินกับปู่แต่ไม่เจอ อันนี้จริงหรือเปล่า

ซาร่า : ไม่จริงค่ะ คือถ้าติดตามซาร่ามาตลอด 6 ปี ทุกๆวันเกิดของน้องแมกซ์เวลล์จะอยู่ภูเก็ตอยู่แล้วค่ะ แล้วเราจะมีการจัดงานวันเกิดที่กรุงเทพก่อนหน้านั้น แต่ไมค์เขาพูดว่าปีนี้เขาไม่สะดวกด้วยโควิด ด้วยอะไร เลยไม่อยากจัดงานวันเกิดลูก เราก็โอเคไม่เป็นไร เขาก็เลยขอเราว่าขอพาลูกไปฉลอง ซึ่งเราก็ให้ แค่ขอก่อนที่เราจะพาลูกกลับภูเก็ตนะ ซึ่งแม่ซาร่าเป็นคนเดินทางกับน้องค่ะ แล้วเรายังไม่มีวันชัดเจน เราบอกแค่ว่าเราจะกลับภายในอาทิตย์นี้ (ยืนยันว่าไม่ได้พาลูกหนี?)  ไม่ค่ะ จะหนีทำไมคะ แค่ภูเก็ตเขาบินไปหาก็ได้

การที่ “ไมค์” ไปร้องขอเพื่อที่จะรับรองบุตรอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ทำไมถึงไม่ให้เขา เขาไม่ดีตรงไหน

ซาร่า : ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีค่ะ ด้วยความเราอยู่กับลูกมาตลอด 6 ปี แล้วรับรองบุตรเนี่ยเขายื่นมาหลังจากที่เขาขอลดคุณภาพชีวิตลูก ทุกอย่างค่ะ ที่อยู่อาศัย โรงเรียนลูก ซึ่งเรารู้สึกว่าเรายอมไม่ได้ที่จะให้คุณภาพชีวิตลูกลดลง เราเลยคิดว่าถ้าเขามีสิทธิ์ในการปกครองลูกแล้วคุณภาพชีวิตลูกต้องลดในแบบที่เรารู้สึกว่ามันไม่โอเคกับลูก เราขอปกครองแต่เพียงผู้เดียว เพราะเรายังอยากให้คุณภาพชีวิตลูกเป็นแบบนี้

“ไมค์” ดูแลคุณกับลูกชายตลอด มีส่งเสียอย่างไรบ้าง

ซาร่า : มีตามที่เขาแจงไว้ใช่ไหมคะ

ก็จะมีตามนี้เลย ค่าใช้จ่ายของแมกซ์เวลล์ ค่าเทอม ค่าชีวิตความเป็นอยู่เลี้ยงดู มีค่าคนขับรถ ค่าคนเลี้ยง ค่าจิปาถะต่างๆ เฉลี่ยตกปีนึงเป็นล้าน ค่าเทอม 8 แสน อันนี้เขาดูแลตั้งแต่แรก?

ซาร่า : คือทั้งหมดที่เขาแจกแจงมาส่วนนึงคือใช่ ส่วนนึงไม่ใช่ ส่วนที่ไม่จริงคือรายละเอียดตัวเลขมันเยอะมาก อย่างเช่นค่าเทอมน้องไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ (เท่าไหร่?) ปีแรก 5แสน ปีที่ 2 6แสน ปีที่ 3 7 แสนค่ะ

เท่าที่ทราบมา “ไมค์” เองอย่างที่คุณบอกเขาอาจจะหย่อยยานลดคุณภาพชีวิตลูก อย่างเช่นเรื่องโรงเรียน ที่อยู่ เขาลดคุณภาพยังไง

ซาร่า : ด้วยความที่บ้านซาร่าอยู่ภูเก็ต เราไม่ได้มีที่อยู่ที่กรุงเทพ ด้วยความที่เขาอยากให้เราและลูกอยู่กรุงเทพ เขาก็เลยออฟเฟอร์ที่อยู่เรามาให้ มาอยู่ที่นี่นะ เขาพร้อมที่จะดูแล แต่วันนึงเขาบอกว่าเขาไม่ไหวแล้วที่จะจ่ายตรงนี้ เขาจะล้มละลาย ช่วงโควิดด้วย เราก็คุยกัน งั้นเรามาคุยกันนะมีปัญหาเรื่องเงินอะไรก็มาคุยกัน อะไรที่ต้องช่วยเหลือกัน แต่ทุกอย่างที่เขาลดเรารู้สึกว่าเรากลับบ้านไปอยู่ที่ภูเก็ตดีกว่า อย่างเสนอมาว่าให้ไปอยู่ห้องเช่า เดือนละ 4000 (เสียงเครือ) ห้อง 22 ตารางเมตร ซึ่งเราสงสารลูกเรามีบ้านที่ภูเก็ตที่มันกว้างให้ลูกได้วิ่งเล่น ทำไมเราต้องลดคุณภาพชีวิตลูกไปอยู่ในห้องแค่นั้น เราก็เลยคิดว่า โอเคคุยกันไม่รู้เรื่องปัญหาหลักๆ คือมันไม่ใช่เรื่องเงินเพราะว่าซาร่าไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย อะไรที่เขายินดีจะให้ลูกซาร่ามองว่าทุกอย่างมันเป็นหน้าที่ ซาร่าไม่เคยออกมาพูดไม่เคยมานั่งแจกแจงรายละเอียดต่างๆว่าขนม 5 บาทนะค่าขนมในเซเว่น 10 บาท เราให้ด้วยความเต็มใจเราไม่ได้มานั่งจดยิบย่อย

ที่พักที่อยู่ในตอนแรก

ซาร่า : ตอนแรกเขาบอกว่าเป็นของเขา สักพักบอกว่าเป็นของพี่เขา สักพักนึงเค้าก็บอกว่าเป็นของคนอื่นซึ่งเราไม่ทราบอันนี้เราก็อ้างอิงจากที่เขาบอกเรา

เป็นไปได้ไหมที่คอนโดที่คุณกับลูกอยู่ในตอนแรกคือเขาออฟเฟอร์ให้อยู่ไปก่อน เพราะมีลูกแล้วเขาอยากเจอลูกเอาคอนโดของพี่ชายของเขาให้คุณอยู่ ที่ทราบมาคือพี่ชายเขาจะขายคอนโดเขา คุณทราบใช่ไหมเรื่องนี้

ซาร่า : ค่ะ เขาพูดค่ะ (เขาเลยอยากจะย้ายคุณกับลูกออกมาอีกที่นึง?) ค่ะ หมายถึงว่าเขาให้ไปอยู่ในที่ที่เขาเสนอมาซึ่งเรามองว่ามันไม่โอเค แล้วเราก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร เราเลยบอกเขาว่างั้นเราขอกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่ภูเก็ตนะ

เรื่องของโรงเรียนลดคุณภาพชีวิตลูกยังไง

ซาร่า : เขาเสนอให้เราเหลือปีละแสนค่ะ คือทุกอย่างที่ไมค์เสนอมาเราไม่โอเคกับคุณภาพชีวิตลูกที่มันต้องลดลง เราก็เลยคิดว่าถ้าเขาไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตรงนี้ได้ไม่เป็นไร เราจัดการชีวิตคุณภาพลูกให้มันเหมือนเดิมเพราะเราก็มีกำลังที่อยากให้ลูกได้เรียนที่ดีๆ อยู่ในที่ดีๆ

เข้าใจได้ไหมในมุมที่บอกว่าปีนี้ “ไมค์” มีในเรื่องของโควิดเข้ามาแล้วฐานการแสดงของเขาอยู่ที่จีน แน่นอนว่าเขาเข้าจีนไม่ได้อาจจะมีการลดระดับความเป็นอยู่ ส่วนหนึ่งก็อาจจะเรื่องของลูกที่อาจจะต้องวันนี้เคยเรียนในระดับ 700,000 แต่ต้องไปอยู่ในอีกโรงเรียนนึงที่เกรดเท่ากันแต่ค่าเทอมถูกกว่าย้ายได้ไหม

ซาร่า : ได้ค่ะไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยเรื่องพวกนี้ค่ะ คือเราคุยกันแล้วค่ะ ซาร่ามองว่าไมค์มีสิทธิ์ที่จะให้ลูกแล้วถ้าวันนึงเขาไม่ไหวหรือเขาไม่อยากจะให้ต่อก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่เรายังอยากคงคุณภาพชีวิตของลูกซึ่งเราก็พร้อมเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ของเราค่ะ"

คุณจะให้ลูกเรียนที่นี่ต่อเหรอ

ซาร่า : เปล่าค่ะ ตอนนี้ลูกได้ย้ายไปที่ภูเก็ตแล้วค่ะ (ค่าเรียนเท่ากันไหม?) เท่ากันค่ะ ซาร่าจ่าย

ไม่ได้คุยกับ “ไมค์” มานานหรือยัง

ซาร่า : ตั้งแต่หมายศาลถึงบ้านน่ะค่ะประมาณเดือนกรกฎาได้ค่ะ

ถามทนาย ทำไม “ไมค์” ถึงไม่สมควรไปขอสิทธิ์รับรองบุตร

ทนาย : “ด้วยหลักกฎหมายประมวลแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546 บัญญัติไว้ว่าบุตรที่ไม่ได้มีการสมรสกับฝ่ายชาย บุตรนั้นย่อมเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของฝ่ายหญิงเพียงผู้เดียว แต่ในกรณีของไมค์ ทนายรู้สึกยินดีกับซาร่าด้วยที่บิดาออกมายืดอกรับผิดชอบว่าเป็นบุตรด้วยกฎหมาย เป็นการยอมรับว่า ด.ช. แม็กซ์เวลล์ เป็นลูกของคุณไมค์ แต่ที่ไม่ดีใจเพราะไม่ได้ปรึกษา แล้วมีเรื่องของการขออำนาจการปกครองร่วม ตรงนี้จะมีปัญหา การมีอำนาจการปกครองร่วมครึ่งนึงต้องเป็นการตัดสินใจของพ่อด้วย ถ้าพ่อไม่ยิมยอมให้ไปโรงเรียนอีกโรงเรียนนึง เขามีสิทธิ์คัดค้าน แล้วก็มีสิทธิ์ไม่เซ็น ตรงนี้แม่มีปัญหาแน่นอน ลูกมีปัญหาแน่นอน”

เขาแค่ขอร่วมตัดสินใจในเรื่องต่างๆของลูก ไม่ได้ต้องการเอาลูกมาอยู่กับเขา ถ้าจะเอาลูกไปต่างประเทศ ต้องผ่านเขาด้วย

ทนาย : ในกรณีที่ซาร่ามีบุตรคือน้อง แม็กซ์เวลล์ พ่อที่ชอบด้วยกฎหมายจริงๆแล้วจะพาลูกไปไหนซาร่าไม่เคยหวงเลย ให้ความยินยอม พาไปทุกครั้ง แต่ที่ไม่พอใจเป็นเพราะว่าอยู่ๆมีหมายศาลมาถึงบ้าน ทำไมไม่ปรึกษากัน (เขาบอกติดต่อ “ซาร่า” ไม่ได้?) โทรศัพท์มี ไลน์มีติดต่อกันได้

เขาบอกว่าโทรศัพท์ติดต่อ “ซาร่า” ไม่ได้ส่งไลน์ไปไม่เคยอ่านเลยอันนี้จริงไหม

ซาร่า : หลังจากหมายศาลค่ะถ้าหลังจากหมายศาลจริงค่ะแต่ก่อนหน้านั้นไม่ใช่ อาจจะมีไม่ตอบบ้างตอบช้าบ้าง เพราะมันมีรายละเอียดหลายอย่างที่เราคุยกันเรารู้สึกเครียดค่ะ คือเขาถามอะไรเรื่องเดิมๆ ที่เราตอบไปแล้วแล้วยังถามอีกก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าไม่ค่อยอยากจะคุยค่ะ

เราสามารถคุยกันหลังบ้านได้ไหม

ซาร่า : ต้นเรื่องคือเขาเป็นคนฟ้องร้องมาค่ะ”

เป็นได้ไหมว่า คุยกันว่าถ้าจะให้เขาเซ็นรับรองเลย

ซาร่า :  ซาร่าให้สิทธิ์ของการเป็นพ่อมาตลอด 6 ปี เขามีสิทธิ์ในการเป็นพ่อค่ะ แต่สิทธิ์การปกครองให้ไม่ได้จริงๆ เพราะมันมีเหตุผลหลายๆอย่าง เราไม่ได้เป็นสามีภรรยาอยู่บ้านเดียวกันเขาอยู่จีนเป็นหลัก เวลาเราจะทำเอกสารต่างๆ ต้องมารอพ่อเซ็นยินยอม เขาเองก็ไม่ได้ว่างตลอดเวลา ชีวิตลูกจะมีปัญหา ระบบชีวิตลูกจะรวน ที่ผ่านมาเราตัดสินใจร่วมมาตลอด ไมได้ตัดสินใจคนเดียว เราโอเพ่นเรื่องนี้กับไมค์มาก ความเป็นพ่อเป็นอยู่ที่การกระทำไม่ใช่แค่กระดาษ เขามีสิทธิ์เต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์มาตลอด 6 ปี เขาจะทำอะไรให้ลูกรักเขาก็ได้ ลูกจะรักเขาไม่ใช่ที่กระดาษ มันคือการกระทำ

“ไมค์” ต้องการไปร้องในสิทธิ์ที่ต้องการดูแลลูก ไม่ได้เอาลูกมาจาก “ซาร่า”

ซาร่า : ตามหมายศาลถูกต้องค่ะ

ทนายคัดค้านยังไง

ทนาย : เรื่องของหลักกฎหมาย ที่ฝ่ายไมค์ยื่นมาดูเหมือนธรรมดา เขาขอยื่นคำร้องให้บุตรชาย เป็นบุตรชอบโดยกฎหมาย ตอนสุดท้ายเขียนว่า ขอมีอำนาจการปกครองร่วม นี่คือสำคัญค่ะ เพราะถ้าการทำนิติกรรมต่างๆ ถ้าซาร่าจะพาลูกไปที่ต่างประเทศจะมีปัญหาแน่นอน เผื่อในกรณีที่การปกครองร่วม สมมติว่าซาร่าจะพาลูกไปหาคุณตาที่ต่างประเทศ ไปไมได้ ถ้าไมค์ไม่ยอม แล้วจะทำยังไง (ต้องฟ้อง?)  ฟ้องกันไม่ได้หรือกค่ะ เพราะถ้าลงนามให้เป็นผู้มีอำนาจปกครองร่วม จะขออะไรก็ต้องขอผ่านทางไมค์ด้วย นี่คือปัญหาหลักของเรา แล้วกรณีที่ไปเรียนที่ภูเก็ต ถ้าคุณไมค์มีอำนาจปกครองร่วมแล้ว ถ้าไม่อยากให้เรียน ก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ให้เรียนได้ ทางทนายคัดค้านในหลักกฎหมายเช่นกัน ถามว่าไม่สมควรไหม ถ้าโดยหลักของกฎหมายเราก็ต้องค้านว่าไม่สมควร”

“ไมค์” เป็นคนยังไง

ซาร่า : เป็นพ่อที่ดีค่ะ

ทนาย : อันนี้ขอให้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของศาล ทางเราอยากให้คุณไมค์รับผิดชอบในการเรียน ปัจจุบันนี้ซาร่าชำระโรงเรียนที่โรงเรียนนานาชาติที่ภูเก็ตไปแล้ว และมีค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทาง ค่าใช้จ่ายของพี่เลี้ยง

คือ “ไมค์” ต้องจ่าย แต่ไม่สามารถเซ็นรับรองร่วมได้เหรอ

ซาร่า : ไม่ค่ะ เขาสามารถทำหน้าที่พ่อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ให้โอกาสเขามาตลอด แต่หนูมองว่าเขาจะจ่ายหรือไม่จ่ายเป็นสิทธิ์ของเขา”

แต่เขาเลือกที่จะจ่าย โดยที่เราไม่ได้ร้องขอใช่ไหม

ซาร่า : ใช่ค่ะ ใน ณ วันนี้ เขาไม่ไหวที่จะจ่ายแล้ว มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ยังไงหนูก็ต้องดูแลลูกของหนูให้คงความเดิม ให้หนูต้องมานั่งเปลี่ยนชีวิตลูก 3 ปีนี้พ่อเขาไหว 2 ปีพ่อเขาไมไหว มันไม่ใช่เรื่องสนุก ไม่อยากให้ลูกสับสน ย้ายโรงเรียนไปๆมาๆ ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ในชีวิตลูก มันคือผลประโยชน์ที่สุดของลูก

ทำไมต้องตรวจ DNA

ซาร่า : ผู้ใหญ่ฝั่งไมค์ของมา (เพราะอะไร มีเบื้องลึกเลื้องหลังเหรอ?)  อันนี้ให้สังคมตัดสินเองค่ะ

(รูปหญิงคนหนึ่งคล้ายคนตั้งครรภ์ที่ถูกอ้างถึง)  

มีภาพผู้หญิงคล้ายตั้งครรภ์ ที่ใบหน้าหน้าคล้ายคุณหลุดออกมา 

ซาร่า : จริงๆซาร่าไม่ได้มีเรื่องปิดบัง แต่ ณ วันนี้ซาร่ามาเพื่อชี้แจงเรื่องของแม็กซ์เวลล์ เรื่องอื่นจะมีผลต่อรูปคดี เอาเป็นว่าถ้าอะไรชัดเจนแล้วจะออกมาพูดความจริงทั้งหมด (เป็นรูปเราใช่ไหม?) รอให้ทุกอย่างชัดเจนกว่านี้แล้วกันค่ะ ซาร่าจะได้ออกมาตอบทีเดียวให้มันเคลียร์ค่ะ  

เรื่องนี้จะจบลงตรงไหน

ซาร่า : อยากให้จบลงเป็นผลดีที่สุดของลูก เพราะเรื่องนี้เป็นของลูกเป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องของพ่อแม่ คือเรื่องนี้ซาร่ากับไมค์มีปัญหามาเป็นปี ไม่อยากให้ลูกรู้เลยเลือกที่จะเงียบ แต่วันนี้ทางฝั่งพ่อเขาเลือกที่จะให้เป็นข่าว ซาร่ามองว่าคนที่กระทบที่สุดคือลูก เราไม่อยากออกมานั่งตรงนี้เพื่อตีแผ่เรื่องในครอบครัว ค่อนข้างละเอียดอ่อน อีกไม่กี่ปีน้องต้องโตมาแล้วเจอว่าพ่อแม่มีปัญหากัน (เสียงสั่นเครือ) คนที่จะต้องเจ็บปวดที่สุดก็คือลูก อยากให้เป็นเรื่องในครอบครัว แต่ ณ วันนี้ ทุกคนน่าจะรู้ว่ามันเป็นข่าว บางอย่างซาร่าต้องออกมาพูด และปกป้องสิทธิต่างๆของลูก

จากกรณีรูปเมื่อสักครู่ที่ “ซาร่า” บอกมีผลต่อคดี เกี่ยวไหมกับเรื่องนี้

ทนาย : ไม่เกี่ยวค่ะ คดีนี้บุตรเป็นบุตรชอบโดยกฎหมายของแม่เพียงฝ่ายเดียว คุณไมค์ไม่เคยอ้าแข นยือดอกยอมรับรับว่าซาร่าเป็นภรรยาแต่ต้น ดังนั้นไม่ว่าคุณซาร่าจะเป็นอย่างไร บุตรชายย่อมเป็นบุตรชายของคุณซาร่า”  

สมมติมีลูกกับสามีใหม่ “ไมค์” ก็มีสิทธิ์ที่อยากจะครอบครองดูแลลูกคนนี้ของเรารึเปล่า จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องของพ่อทางนี้กับพ่อทางนี้?

 ทนาย : คุณซาร่าดูแลลูกเป็นอย่างดี ไม่เคยบกพร่องในเรื่องการเป็นมารดาของบุตรเลย แม้กระทั้งไปไหน ทุกระยะ ทุกวัน ลูกอยู่กับอ้อมอกของแม่ตลอดเวลา ลุกไม่เคยทิ้งแม่ แม่ไม่เคยทิ้งลูก

 ประเด็นตรงนั้นไม่เกี่ยวข้องละกัน เป็นเรื่องของส่วนบุคคล แยกกันไป

 ทนาย : ใช่ค่ะ

มีข่าวว่าถูกตัดน้ำตัดไฟจนต้องออกจากคอนโดจริงรึเปล่า เผื่อบีบให้คุณออกจากคอนโด เรื่องจริงไหม

ซาร่า :  ใครเป็นคนปล่อยค่ะ จริงค่ะ ตามที่ว่าเลยค่ะ เจ้าของห้องค่ะ (เขาตัดเพื่อ?) เพื่อให้เราออกจากคอนโด (เพื่อให้ไปอยู่ที่อื่น?) ใช่ค่ะ

เป็นไปได้ไหมว่า เขาต้องการจะขายที่นั้น เป็นของพี่ชาย ไม่ใช่ของ “ไมค์”

ซาร่า : เราไม่ได้ยืนยันว่า พอเขาบอกว่า อยู่ไม่ได้นะ เราต้องออกนะ เราก็โอเค เข้าใจ เราก็ออก ไม่ได้ไปยึดยื้อ เราก็กลับบ้านของเราไงค่ะ

จริงรึเปล่าที่ออกจากคอนโดนั้นนานแล้ว แต่ให้คนอื่นไปอยู่แทน

 ซาร่า : ไม่จริงค่ะ เป็นคนขนค่ะ เพราะว่าเราต้องเอาของออกจากคอนโด เป็นคนครอบครัว คนในบ้าน ไม่ได้ไปอยู่ เขาไปขนของค่ะ วันนั้นก็แจ้งแล้วว่าไปขนของ ก็บอกว่าเข้าไปในห้องมั้ย จะไปดูอะไรมั้ย เพราะเขาขนของกันอยู่ แต่เขาไม่เข้าไปเอง

เรื่องนี้ลำบากใจในการพูด ขอโทษคุณเองมีชายหนุ่มไหม

ซาร่า : เป็นปกติอยู่แล้วค่ะ ซิงเกิ้ลมัมก็ต้องฮอต (ยิ้ม) (มีเข้ามาเยอะไหม?) เรื่อยๆค่ะ (ยิ้ม)

ให้โอกาสไหม

“ซาร่ามองว่าทุกอย่างเป็นเรื่อยๆค่ะ ซาร่าอยากมีครอบครัวใหม่ อยากให้ครอบครัวให้สมบูรณ์ ด้วยความที่เราเป็นซิงเกิ้ลมัม เป็นเรื่องปกติที่เราอยากมีครอบครัวใหม่ที่สมบูรณ์ ทุกอย่างต้องอิงจากความรู้สึกลูกด้วย (ตอนนี้ลูกเป็นยังไง?) ตอนนี้ลูกแฮปปี้ดีค่ะ เราไม่เอาเรื่องต่างๆให้ลูกรับรู้ เขาอยู่ในวัยที่ยังไม่ควรจะรับรู้อะไรขนาดนั้น”

ตอนนี้ให้ลูกเรียนที่ภูเก็ต โดยที่เราหาเลี้ยงเอง ในระดับค่าเทอมที่อยู่ที่กรุงเทพฯ

ซาร่า : มันไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขค่ะ เราหาโรงเรียนตอบโจทย์กับความชอบของลูก โรงเรียนที่ไมค์หามา เราก็คุยกันกันเรื่องโรงเรียน ซึ่งเราคุยกันช่วงโควิด พอโควิดหาย ก็พาลูกไปดูโรงเรียนทุกที่เลย ให้เขาไปเห็นสภาพแวดล้อม ระบบการศึกษา เราต้องการปฏิกริยาน้องว่าลูกไปดูด้วยว่าเขาโอเคมากน้อยแค่ไหน เขาต้องปรับตัวในการย้ายโรงเรียน”

ตอนนี้ “ซาร่า” ทำงานอะไรบ้าง

ซาร่า :  งานในวงการและธุรกิจส่วนตัว

วันนี้ “ไมค์” จะแถลงข่าว กลัวไหมว่าเรื่องอะไรจะหลุดมาอีกมุมนึง

ซาร่า :  ไม่กลัวค่ะ ไม่ได้ชนนะคะ แต่เราอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ถามว่าไมได้คุยกันเลยไหม คือหมายศาลมาถึงบ้าน แล้วมีประโยคที่ว่า เราไม่ต้องคุยกันอีกแล้ว หนูจำคำนั้น แล้วก็ไม่คุยกันอีกเลย

ถ้ามารายการพร้อมกันกล้าไหม

ซาร่า : ถ้าเขากล้ามา หนูก็กล้ามาค่ะ

 

 

TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ