"ไมค์" น้ำตาคลอ ไม่คิดพรากลูกจาก “ซาร่า” ขอแค่มีส่วนตัดสินใจในชีวิตลูก


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลังจากที่นางแบบสาว “ซาร่า คาซิงกินี” ได้เปิดใจถึงสาเหตุที่ไม่ยอมให้ “ไมค์ - พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” ได้มีสิทธิ์ปกครองลูกร่วมกัน เนื่องจากอีกฝ่ายจะขอลดคุณภาพชีวิตของลูกลง จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นนั้น

“ไมค์” เผยสาเหตุเงียบมานาน ยันแค่ขอสิทธิ์ความเป็นพ่อ ไม่คิดพรากลูกจากแม่

“ซาร่า” เผยเหตุ ไม่ให้ “ไมค์” ได้สิทธิ์ปกครองลูก ยอมไม่ได้ ถ้าลูกถูกลดคุณภาพชีวิต

ล่าสุด ไมค์ - พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล พร้อมด้วย ทนายเจมส์ นิติธร ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเผื่อขอเปิดใจถึงเรื่องราวของการยื่นเรื่องต่อศาลให้ได้มีสิทธิ์ในการปกครองลูกร่วมกับฝ่ายหญิง โดยหนุ่ม ไมค์ ได้เผยว่า 

“ขอชี้แจงเรื่องประเด็นเรื่องแรก ทำไมถึงยื่นคำร้องต่อศาล เพราะเพื่อได้สิทธิ์พบิดาโดยกฎหมาย พรากลูกมันไม่น่าจะมาใช้ในกรณีนี้ได้ ผมรู้สึกว่า ไม่อยากให้ลูกเห็นง่าผมจะพรากลูกจากแม่ การที่ผมได้มีสิทธิ์ในตัวลูก ไม่ได้ทำให้สิทธิ์ของซาร่าลดลง สิทธิ์ที่ผมขอแค่อยากเจอลูกตามปกติ ไม่ใช้บิดาที่จ่ายเงินอย่างเดียว ไม่ใช่จ่ายเงินแล้วจบ อยากเห็นเขาเจริญเติบโต

ผมไม่ได้เจอลูกมาสักพักแล้ว ที่เจอได้แบบปกติเลย คือประมาณวันที่ 15 มีนาคม หลังกักตัวเสร็จก็ขอเจอโดยทันที หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอยาวจนถึงเดือนเกิดแม็กซ์ ซึ่งมีเหตุการณ์หลายอย่างที่ค่อนข้าวซับซ้อน การไปเจอของผมคือ ต้องไปดักเจอที่โรงเรียน หรือไปที่ใต้คอนโด เขาไม่ได้กีดกัน แต่การเจอกันหลังจากที่คุยเรื่องปรับค่าใช้จ่าย มันค่อนข้างที่จะยากอยู่ 

กับเรื่องเวลาไม่ตรงกัน มันมีเหตุการณ์ใหญ่คือ ตอนผมไปรอเก้อที่สนามบิน ไปรอวันที่ 8 กรกฎาคม อยากเจอลูกพามาเป่าเค้กที่บ้านผม วันที่ 10 กรฎาคม ผมจะไปรับลูกแล้วพามานอนบ้านแล้วพาไปส่งที่สนามบิน วันที่ใส่ชุดสไปเดอร์แมน แล้วไปรอที่ใต้คอนโด พยายามติดต่อ แต่ติดต่อไม่ได้ รอเป็นชั่วโมง พอโทรแล้วเขาบอกว่า ยังไม่ได้ตอบตกลงเลย เดี๋ยวแม็กซ์เวลล์กับเพื่อนจะไปว่ายน้ำ เพราะเขาบอกเองให้มาวันนี้ เพราะอีกวันจะบิน ผมรู้สึกไม่พอใจ ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง คุยจนแม็กซ์เวลล์ได้มาเจอผม ได้อยู่กับลูกแค่ไม่กี่นาที มันผิดปกติตรงที่ว่า ปฏิกิริยาที่ลูกมีต่อผมมันเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม เหมือนเขาสับสน วันนึงบอกว่ารัก วันนึงบอกว่าไม่รัก แล้วตอนที่เจอเหมือนเขาผวาและกังวล มองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังผม แต่ผมไม่เห็น แล้วเพื่อนของเขาก็ชวนไปว่ายน้ำ ซึ่งเหมือนผมโดนกดดัน ผมก็บอกลาลูกก่อนกลับภูเก็ต พอหลังจากนั้น วันถัดมาตอนเช้า เขาพิมพ์มาบอกว่า จะมารับลูกไหม เพราะผมมีงาน เลยถามว่าต้องไปรับกี่โมง ส่งกี่โมง แต่เขาไม่บอกว่าจะไปสนามบินกี่โมง และสิ่งที่เกิดขึ้นคือผมติดงาน ด้วยความคิดเอาเอง เลยไปดักรอที่สนามบิน ไปเป่าเค้กที่นั้น พร้อมกับของขวัญ ผมไปดักรอที่สนามบินจนถึง 4 ทุ่ม ถามเขาก็ไม่ตอบ วันต่อมาผมก็ไปประชุมที่แถวๆ ลูกเรียนเต้น จึงทำให้รู้ว่าลูกไม่ได้กลับเมื่อวาน แต่เรียนเต้นเสร็จแล้วค่อยกลับภูเก็ต”

อะไรคือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เราต้องฟ้องเพื่อเรียกร้องสิทธิ์

“เรื่องนี้แหละครับคือมันสะสมมาเรื่อยๆ ครับผม คือมันมีรายละเอียดหลายอย่างที่บางทีสังคมอาจจะเห็นแค่นี้ แล้วข้อเท็จจริงและเจตนาล่ะ ครั้งสุดท้ายได้คุยกับซาร่าคือ ช่วงวันนั้นเลยครับที่ผมบอกว่า ผมเห็นแม็กซ์เวลอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งก็คือวันที่ 12 กรกฎาคม ผมถ่ายรูปทันแล้วผมส่งไปถามเขาว่า ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ (เสียงสั่น) ผมไม่เข้าใจเหตุผล หลังจากนั้นเขาก็ไม่ตอบอะไรผมอีกเลย ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม ถ้าคุยกันเองได้ มีใครอยากขึ้นศาลบ้างล่ะครับ มีใครอยากจะต้องมาออกสื่อ ที่ผมไม่พูดมาโดยตลอดในระยะเวลาที่ผ่านมาเพราะผมอยากมาพูดวันนี้หรอครับ เพราะผมอยากมาขึ้นศาลหรอครับ มันไม่เมคเซ้นส์"

ได้บอกกับ "ซาร่า" ไหม ว่าจะมีดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลขอมีอำนาจปกครองลูกร่วมกัน

“ผมพิมพ์อะไรไปเขาไม่ตอบหรอกครับ ผมไม่ได้รับความร่วมมือ เรื่องที่ผมถามบ่อยสุดคือ เรื่องโรงเรียนว่าจะเอายังไง เพราะว่าในสถานการณ์โควิดแบบนี้ที่เจอมาตั้งแต่ต้นปี ผมเชื่อว่าทุกคนโดนพิษโควิดหมด และผมไม่รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้มันจะอยู่ได้นานแค่ไหน ผมก็ต้องคิดถึงความมั่นคง และเมื่อต้นปีผมไปปรึกษาเขาว่าเราจะวางแผนอนาคตลูกยังไง เรื่องโรงเรียนถ้าจ่ายปีละ 8 แสน 9 แสนต่อปีมันไม่ไหวหรอก แล้วอาชีพดารามันก็ไม่ได้มั่นคงเป็นอะไรที่ตายตัว ถ้าวันหนึ่งผมไม่มีงานขึ้นมาล่ะจะทำยังไง จะจ่ายไหวไหม 800,000 บาท แบบนี้ ผมก็บอกว่าเรื่องโรงเรียนเรามาลองหาที่อื่นดูกัน ผมก็เอาเวลาว่างไปเดินสายดูโรงเรียน บางที่เขาก็ปิดรับสมัครไปแล้ว เพราะผมคุยเรื่องนี้นานแล้ว มันอาจจะติดโควิดด้วย ทีนี้มันก็เหลือที่เดียวที่ผมคิดว่า มันดีสุดในสถานการณ์แบบนี้ ซึ่งผมก็เลยบอกว่า เโรงเรียนลิศหล้าไหม เพราะเป็นสองภาษา ส่วนเรื่องค่าเทอม ผมก็บอกเขาไปว่าเลิศหล้า 150,000 บาทนะ ผมไปดูสถานที่มาด้วยตัวเอง ไปดูรายละเอียดทุกอย่าง สนามเด็กเล่น ห้องเรียนทุกคลาส ซึ่งอุปกรณ์ของเขาก็ดี" 

เราทำข้อตกลงตั้งแต่แรกว่าจะดูแลค่าเทอมของลูกเองทั้งหมด แต่ในสถานการณ์แบบนี้ได้คุยกันไหมว่า ถ้าอยากรักษาคุณภาพชีวิตลูกไว้ให้มาแชร์กัน

“ได้มีการพูดคุยกับเขาว่าแชร์ไหม คุณจ่ายส่วนนี้ เดี๋ยวผมไปรับผิดชอบส่วนนี้ไหม ช่วยๆกันในสถานณ์แบบนี้ เหมือนเขาจะรับฟังแต่ผมก็ไม่ได้คำตอบมาจนถึงทุกวันนี้ ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าลูกเรียนโรงเรียนอะไร และเหตุที่เกิดขึ้นคือ ผมเสียเงินโดยใช่เหตุกับเรื่องพวกนี้เยอะมากเพียงเพราะแค่ไม่ได้รับคำตอบ เรื่องที่เขาบอกว่าผมไปเอาแม็กซ์เวลออกจากโรงเรียน ผมไปเอาออกใช่ แต่ฟังเหตุการณ์ทำไมถึงต้องออก ผมที่เป็นพ่อจู่ๆจะเอาลูกออกจากโรงเรียนเพื่อความสะใจเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าคุยกันเรื่องโรงเรียนแล้ว ผมก็เลยโทรไปถามที่ไบรท์ตันว่า ถ้าผมจะเอาลูกผมออกจากโรงเรียนมันต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ปรากฎไปรู้ได้เลยวันนั้น เขาบอกว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วครับที่ถ้าไม่ทำภายในวันนี้ ค่าประกัน 300,000 บาทจะไม่ได้คืน ผมก็ถามว่าถ้าผมเอาลูกออกยังสามารถเอากลับเข้าไปเรียนได้อยู่ไหม จะมีปัญหาหรือเปล่า ต้องจ่ายค่าแรกเข้าเพิ่มไหม โรงเรียนใจดีที่เปิดโอกาส ต่อให้ออกก็สามารถเอากลับเข้าไปได้ใหม่ เพราะว่าช่วงโควิดเขาก็เห็นใจเรา ผมก็ทำเอกสารเพราะเหลือเวลาอยู่ 3 ชั่วโมง ส่งอีเมล์ไปให้ครู กลายเป็นว่าแม็กซ์เวลล์ออกมาพ้นสภาพการเป็นนักเรียนของไบรท์ตัน ผมก็กะเวลาไว้แล้วว่าอีกกี่เดือนเปิดเทอม พยายามคุยกับซาร่า เรื่องโรงเรียนต้องให้จบแล้วนะ ก็ยังไม่ได้เคลียร์จนเขากลับภูเก็ต ผมถามว่าจะกลับภูเก็ตเรื่องโรงเรียนตัดสินใจหรือยังเพราะเขาบอกจะไปดูโรงเรียนด้วยตนเอง แต่เขาก็กลับภูเก็ตไปก่อนไปจัดงานวันเกิด ผมก็เป็นกังวลและถามอยู่เรื่อยๆจนกระทั่งโรงเรียนใกล้เปิด ผมก็เลยเอาชื่อลูกกลับเข้าไป ซึ่งผมเสียเงิน 300,000 บาทไป" 

รื่องคอนโด "ซาร่า" บอกว่า เราให้ย้ายออกไปอยู่ห้องเช่า 4,000 บาท 

“คุณภาพชีวิตผมว่าอยู่ที่แต่ละคนจะตีความหมาย แล้วคุณภาพชีวิตคืออะไร ผมขอชี้แจงก่อนเลยว่า เรื่องโรงเรียนคุณภาพชีวิตผมก็เลือกเลิศหล้า เรื่องคอนโดที่ผมเสนอเขาไปว่าแถวนั้นมันมีคอนโดใกล้ๆ ผมเสนอเขาไป เป็นคอนโดดูโอเค ราคาไม่แพง ผมคิดว่าคอนโดที่ดีมันไม่จำเป็นต้องราคาแพง ผมส่งข้อมูลไปอยู่ที่เรท 4,000 - 13,000 บาท แต่ไม่ได้คำตอบ ผมไม่ได้บังคับให้อยู่ห้องละ 4,000 บาท ผมแค่เสนอไปให้เลือก”

มีการตัดน้ำตัดไฟคอนโด เพื่อบีบให้เขาย้ายออกไหม

“คอนโดไม่ใช่คอนโดผม ผมขอพี่ชายให้หลานอยู่ แต่ผมจะจ่ายค่าเช่าให้เดือนละ 24,000 บาท แต่ด้วยสถานการณ์โควิด มันโดนหมด และพี่บอกว่าห้องนี้เป็นห้องเดียวที่ปล่อยได้ ไปคุยกับซาร่าให้หน่อย ก็เลยไปคุยกับเขา ก็ให้เวลาเขา แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องผมรู้ว่าเขากลับภูเก็ต เลยไปคอนโดไปดูสภาพห้อง แต่เข้าไม่ได้ เพราะไม่รู้พาสเวิร์ส แต่เห็นเงาคนอยู่ในห้อง พอเคาะแล้วมีผู้ชายอายุ 40 อยู่ในห้องที่ผมไม่รู้จัก ทราบมาว่าเป็นคนขับรถของซาร่า แต่ไม่ใช่คนที่ผมจ้างให้ แต่น่าจะเป็นสามีของป้าพี่เลี้ยงที่ผมจ้าง พี่ชายเลยตัดสินใจตัดคีย์การ์ดและตัดน้ำ แต่ไม่ได้ตัดไฟ ตัดคีย์การ์ดไป 5 วัน คือเขาแจ้งว่าเป็นคนมาขนของ แต่การที่มีคนแปลกหน้ามาอยู่ พี่ชายก็ต้องตกใจ ก็ตัดน้ำ ตัดคีย์การ์ด ประเด็นคือ ทุกวันนี้ผมก็ไม่ได้คำตอบว่าคอนโดผมคืนได้หรือยัง เขาไม่เคยแจ้ง แต่รู้ว่าวันนั้นมีคนมาขนของ" 

เขาขาดการติดต่อหลังจากที่ได้หมายศาลจริงไหม

“เขาไม่ได้คุยกับผมตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม ผมเจอล่าสุดตอนไปดักเจอที่โรงเรียนก่อนปิดเทอม ผมเจอแค่หน้าเขา เขานั่งอยู่บนรถ ปกติผมไม่ทำอะไรแบบนี้ เพราะกลัวว่าผมจะไม่ได้เจอ พอเจอลูกก็เลยวิ่งออกไปเลย  มันมีรายละเอียดดีเทลเยอะมากที่พูดเท่าไหร่ก็ไม่หมด และไม่อยากจะพูดเลย เพราะมันจะกระทบกับลูกผม (ตาแดง)”

ที่ผ่านมาคุยกันในทิศทางที่ดีไหม

“ที่ผ่านมาคุยกันในทิศทางที่ดีมาตลอด แต่ผมไม่รู้ว่าเกิดว่าเพราะอะไร แต่พอผมไปขอลดตรงนั้นหน่อย ตรงนี้หน่อย ก็เป็นปัญหาเกิดขึ้นเรื่อยๆ มันมีคำว่าทำไม มีคำถามเยอะมาก แต่ผมไม่ได้คำถาม และคำถามที่ผมอยากรู้คือ ลูกผมเรียนที่ไหน มีที่เรียนที่ไหน คือค่าใช้จ่ายผมจ่ายมาตลอด ประมาณ 2 ล้านบาท ถ้าคิดแบบกลมๆ ยังไม่รวมค่าจิปาถะ ผมจ่ายค่ายใช่จ่ายแม็กซ์เวลล์ทั้งหมด คลอดค่าคลอด 4 แสนกว่าบาท เราไม่ได้คุยและทำลายลักษณ์อักษรอะไร ผมก็จ่ายมาตลอด พอใกล้เข้าโรงเรียนก็มีพี่เลี้ยง คนขับรถ ค่าประกันชีวิต ค่าเทอม เงินเดือน ค่าจัดงานวันเกิด และอื่นๆ อีกมากมาย และมีเงินฝากประจำในบัญชีของผมเพื่อแม็กซ์เวลล์ เดือนละ 10,000 บาท 24 เดือน ผมมั่นใจว่าเขาโตขึ้นจะมีเงินก้อนนี้ไว้ใช้ ซึ่งผมก็ไม่ไปแตะตรงนั้น”

เรื่องเซ็นรับรองบุตร เราบ่ายเบี่ยงมาตลอดจริงไหม

"ผมโอเคตั้งแต่วันแรกที่ผมออกมาแถลงข่าวว่าผมรับเขาเป็นลูกผมแล้ว มีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่เซ็นกระดาษใบนึง ผมอยากรู้ว่าทำไมไม่คิดว่าผมมีเหตุผลอะไรที่จะไม่เซ็นเอกสารใบนี้ มันเป็นแค่การรับรองบุตร กระดาษใบนึง ทำไมทุกคนต้องตั้งคำถามว่าทำไมเพิ่งจะมาเซ็นตอนนี้ แล้วสิ่งที่ผมทำมา 6 ปี มีใครมองบ้าง กระดาษใบนึงมันสำคัญกว่าการกระทำเหรอครับ 6 ปีที่ผ่านมามันเกือบ 10 ล้านครับ ผมแค่รู้สึกว่าผมไม่มีสิทธิ์การตัดสินใจชีวิตของลูกผมเท่าที่ควร ค่าใช้จ่ายผมไม่ได้มีแค่ของลูก พนักงานผม ทีมงานผม ออฟฟิศผม บริษัทผม ค่าใช้จ่ายรวมกันปีนึง 10 ล้าน ปีนี้ผมตัดทุกอย่างลงมาได้ครึ่งนึง ผมตัดเงินเดือนตัวเองออก ไม่งั้นพนักงานผมก็ไม่รอด ทุกวันนี้ผมไม่ได้เจอลูก ผมก็จ่ายเงิน 30,000 บาทอยู่ ถ้าจะมาบอกว่าผมไม่จ่ายค่าเรียนลูกแล้ว ลูกเลยต้องออกจากโรงเรียน

ผมถามเรื่องโรงเรียนมานานมากแล้ว ไม่ได้คำตอบ แล้วถ้าเขาเอาลูกไปเรียน ไปอยู่ภูเก็ต แล้วเอาเข้าโรงเรียนไปแล้ว แล้วผมจ่ายค่าอะไรอยู่ เงินที่ผมจ่ายไป ผมจ่ายให้อะไรถ้าลูกไม่มาเรียน แล้วผมไม่รู้ว่าลูกจะมาเรียนที่นี่หรอเปล่า เงินที่จ่ายผมโอนเข้าบัญชีซาร่าตรง โอน 30,000 บาทเหมือนเดิม แต่ค่าอื่นๆตัดนะ ค่าพี่เลี่ยง ค่าคนขับรถ ตอนต้นปีผมก็บอกเขาไปแล้ว ขอเขาแล้ว ตั้งแต่ประมาณปลายเดือนมีนาคม ผมเห็นว่าเขาทำงานมีรายได้ ไปออกอีเวนต์ มีละคร เยอะกว่าผมอีก รายได้ตรงนั้นมันโคฟเวอร์ตรงนี้ไม่ได้เหรอ มาช่วยกนสักนิดไม่ได้เหรอ เขาบอกเขาไม่มี เขาบอกว่าผมไปความสุขของลูกเรื่องโรงเรียน ทำไมผมถึงเป็นคนรับผิดอยู่คนเดียวในเรื่องไปแตะเรื่องโรงเรียนของลูก ให้ลูกโทรมาคำแรกที่ลูกพูด แม็กซ์ไม่อยากย้ายโรงเรียน ทำไมลูกถึงคิดแบบนี้ ทำไมลูกถึงคิดว่าผมเป็นคนที่ไปพรากความสุขจากเขามา เป็นเหตุเพราะอะไร ไปสื่อสารให้ลูกคิดยังไง ต้องขออนุญาติพ่อเท่านั้น มันคือสองคนร่วมกันไม่ใช่เหรอครับ มีวันนึงแม็กซ์เวลล์ยังพูดว่าเขาอยากเจอแด๊ดดี๊ อยากอยู่ด้วยทุกวัน รักนะ อีกวันนึงโทรมา ไม่อยากเจอแด๊ดดี๊แล้ว แม็กซ์เปลี่ยนใจ เด็กอะ เขาไปซึมซับพวกนี้ได้ง่าย แล้วการพูดแบบนี้ วันนึงรัก วันนึงไม่รัก ทั้งที่ผมไมได้ทำอะไรเลย มันเกิดอะไรขึ้นกับลูกผม"

ในรายการเขาพูดว่าไม่เคยมีการคุยกันเรื่องเซ็นรับรองบุตร อยู่ๆเราก็มาขอสิทธิ์ความเป็นพ่อ

"อย่างที่บอก ผมไม่ติดเรื่องรับรองบุตร แล้วตอนนู้น ผมจำได้เลยว่าพูดตรงบันไดบ้านเก่าเขา เขาบอกว่าให้เคารพเขาในความที่เป็นแม่ เขาไม่ให้เซ็น เพราะว่าให้รอลูกโตก่อนว่าผมควรจะเป็นพ่อหรือเปล่า ให้ลูกได้เป็นคนตัดสินเอง ผมก็โอเค เคารพในการตัดสินใจของซาร่า สำหรับผมแล้วสมัยก่อนผมก็คิดว่ากระดาษใบนึง ผมไม่รู้เรื่องกฎหมายอะไรเลย ไม่รู้เรื่องเอกสาร ผมก็แค่ว่าเอกสารใบนึงไม่เป็นไรหรอก คงไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เอาเป็นว่าเราทำให้เห็นแล้วกันในอนาคต ผมจะไม่เป็นไร ต้อให้โดนสังคมด่าหรืออะไร ผมขอพิสูจน์ด้วยสิ่งที่ผมทำมากกว่าว่าที่ผ่านมาผมดูแลมาตลอด มีเวลาก็พยายามไปเจอลูก ติดธุระก็ไปเจอไมได้แค่นั้น และการที่ผมไปทำงานที่ต่างประเทศ มีคนบอกว่าทำไมงานอยู่ต่างประเทศดูแลลูกไม่ได้หรอก แม่เขาดูแลแยู่คนเดียว แล้วการที่ผมทำงานผมไม่ดูแลเหรอ ผมไปอยู่ที่โน่นคนเดียวเป็นปีๆห่างครอบครัว ห่างลูก (น้ำตาคลอ) แปลว่าผมไม่รัก ไม่ดูแลลูกเหรอครับ"

เขาบอกว่าให้สิทธิ์ความเป็นพ่อ แต่ไม่ให้สิทธิ์ปกครองลูก เพราะกลัวเรื่องการเซ็นเอกสารต่างๆ

"เขาก็เคยมาขอผมนี่ครับ เขาจะบินออกต่างประเทศ ผมก็แค่ตอบอีเมลล์กลับไป มันยากอะไรครับ แล้วที่เขาพูดเป็นเรื่องของอนาคตไม่ใช่เหรอครับ (เคยมีปัญหาเรื่องเอกสารไหม?) มีครั้งนึงในต้นปี และนี่อาจจะเป็นเหตุผลทำไมเขากลัวตรงนี้ แต่เาต้องการไปต่อพาสปอร์ตของแม็กซ์เวลล์ ในช่วงที่โควิดระบาดหนักที่สุด เขามาบอกผมว่าสถานที่ราชการนี้ เพื่อต้องทำเอกสาร และที่นั่นคนเยอะ และเป็นช่วงโควิดระบาดหนัก ความเสี่ยงเยอะ คิดว่าผมจะปล่อยไหม ผมไมได้บอกว่าผมจะไม่ทำให้ แต่ผมไม่ให้ไปในช่วงนั้น คำถามคือ ทำไมต้องรีบบิน รอโควิดจางก่อนไหม ผมจำไมได้ว่าเขาจะพาลูกไปไหน แต่เขาต้องการบิน ซึ่งนี่เป็นอีกคำถามนึงว่าทำไมต้องรีบบิน ต้องไปตรงนั้นเดี๋ยวนี้ ในขณะที่สถานที่ราชการที่คนเยอะ เอาเรื่องโรงเรียนลูกก่อนไหม โรงเรียนปิดอยู่ มีพนักงานไม่กี่คน คุณครูอยู่ไม่กี่คน ไปเดินดูโรงเรียนก็ไม่ได้ไปเป็นหมู่คณะ"

ยืนยันว่าดูแลภาพรวมลูกในทางที่ดีอยู่แล้ว 

"ในทางที่ดีอยู่แล้ว แน่นอนว่าความสุขของลูก เขาอยากเจอแม่ ผมไม่มีสิทธิ์ไปกีดกัน กีดกันก็ฟ้องผมสิครับ ผมจะกีดกันทำไม จะทำแบบนั้นทำไม แล้วเอาเรื่องอนาคตมาพูดในปัจจุบันทำไม ต้องพูดความจริงในปัจจุบันว่านี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วต้องแก้ไข แล้วถ้าผมแก้ไข้ได้ด้วยการที่ไม่ต้องขึ้นศาล ผมจะขึ้นศาลเหรอครับ"

"ไมค์" ส่งเสียดูแลลูกดีขนาดนี้ ในใจมีแวบๆไหมว่าจะเอาน้องมาเลี้ยงเองไหม

"ไม่มีครับ แม็กซ์เวลล์ต้องการแม่และพ่อ จะขาดใครคนใดคนนึงไปไม่ได้ ยังไงก็ต้องมีแม่ สุดท้ายซาร่าเป็นแม่ของแม็กซ์เวลล์ และนั่นเปลี่ยนไม่ได้ ผมก็คือพ่อของแม็กซ์เวลล์ ที่เปลี่ยนอะไรไม่ได้"

กระแสข่าว "ซาร่า" มีลูกอีกคนมีผลต่อจิตใจเราที่เป็นห่วงลูกไหม

"เรื่องที่ซาร่าเขาตั้งครรรภ์อีกคนนึง ผมไม่ขอไม่ยุ่ง ไม่ใช่เรื่องของผม และถ้าอยากรู้ผมว่าต้องไปถามเขาเอง เพราะเขารู้แก่ใจอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่เรื่องของผม"

เป็นเหตุผลที่เรายื่นสิทธิ์เลี้ยงดูไหม 

ทนายเจมส์ : "อันนี้ผมขอตอบแทนนะครับ ในเรื่องของที่น้องซาร่าตั้งครรภ์จริงหรือไม่ อันนี้เราไม่รู้ รบกวนพี่ๆไปถามน้องซาร่าเองนะครับ เพราะเราไม่รู้ข้อเท็จจริงอันนี้ เราตอบแทนเขาไมได้ ประการนึงที่ผมตอบชัดเจนได้มากที่สุดก็คือ การยื่นคำร้อง ยื่นเมื่อเดือนมิถุนายน ยื่นก่อนที่จะมีข่าวดาราสาวท้องกลางกองถ่าย เพราะฉะนั้นมันไม่เกี่ยวกันว่าจะไปกลัวเรื่องตรงนั้น สมมติในครับ ในอนาคตเขาจะมีครอบครัว มันก็เรื่องของเขา แต่ถ้าเมื่อไหร่มีผลกระทบกับเด็ก อันนั้นแหละหน้าที่ของพ่อจะต้องออกมา"

"ไมค์" ดูแลทุกอย่างเท่าที่พ่อคนนึงจะทำได้ ทางกฎหมายจริงๆถ้าไม่ได้เซ็นใบรับรองบุตร ไม่ต้องจ่ายก็ได้ใช่ไหม

ทนายเจมส์ : "ถูกครับ อธิบายแบบนี้นะครับ หน้าที่ของบิดามารดาโดยชอบด้วยกฎหมาย จะต้องจดทะเบียนสมรสกันก่อน แล้วหน้าที่ทางกฎหมายถึงจะเกิด กรณีที่บิดามารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ถ้าพ่อทิ้งลูกไป แม่ไม่สามารถเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูได้นะครับ จะต้องฟ้อง เพื่อให้พ่อเป็นพ่อโดยชอบด้วยกฎหมายก่อน พ่อถึงจึงจะมีหน้าที่จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดู ผมบอกได้คำเดียวว่าการยื่นคำร้องขอให้เป็นพ่อโดยชอบด้วยกฎหมายเนี่ย เด็กไมได้เสียผลประโยชน์ พ่อต่างหากที่ต้องเสียงตังค์ และต้องมีลายลักษณ์อักษรที่กำหนดชัดเจนว่าต้องเสียเดือนละเท่าไหร่ อะไรยังไง สมมติ ณ วันนี้ไมค์ผิดสัญญา ทำอะไรไมค์ไม่ได้นะครับ เพราะไม่มีลายลักษณ์อักษรกำหนดไว้ แต่ถ้าวันนี้มีการขึ้นศาลกันมา มีการกำหนดเป็นลายลักษณ์อักษร ค่าอุปาระเลี้ยงดูชัดเจน ไมค์ดิ้นไม่หลุดครับ นี่คือการทำเอกสารเพื่อมัดตัวไมค์นะ"

เปอร์เซ็นต์การเซ็นอำนาจร่วมมีมากน้อยแค่ไหน มาถึงขั้นนี้แล้ว 

ทนายเจมส์ : "ผมเรียนเป็น 2 ส่วนนะครับ การที่ศาลมีพิพากษาว่าเป็นพ่อที่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ผมค่อนข้างมั่นใจว่าศาลท่านพิพากษาแน่ เพราะมีผลยืนยันจากดีเอ็นเอ มีสูติบัตรที่ยืนยันว่าเป็นพ่อชัดเจน มีการส่งเสียอุปการะเลี้ยงดูมาถึง 6 ปี อันนี้ชัดเจนมากๆว่าเป็นพ่อที่ชอบโดยกฎหมายแน่ๆ แต่ในส่วนของอำนาจการปกครองบุตรนั้น ต้องให้ศาลท่านพิจารณาว่าใครวมควรที่จะมีอำนาจปกครองบุตรตรงนี้ หรือมีอำนาจปกครองร่วมกัน แต่จากประสบการณ์ของผมศาลท่านก็อยากอนุญาตให้ปกครองร่วมกัน เพราะไม่ได้เป็นเรื่องเสียหาย"

ได้มีการระบุไปไหมว่าทางเราต้องการอะไรบ้าง

ทนายเจมส์ : "ผมเรียนแบบนี้นะครับ คำร้องพี่ทนายต้อม (ทนายหลักคดี) ผมนี่เป็นผู้รับมอบอำนาจของน้องเขา เนื่องจากไมคือาจจะต้องบินไปเมืองนอกบ้าง ผมก็เลยต้องรับมอบอำนาจไว้ก่อน เพื่อจะได้มีอำนาจในการดำเนินคดีนี้แทนไมค์ ตัดสินใจแทนได้หมด ในคำร้องขอเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย มีคำขออยู่ 2 อย่างเองนะครับ 1.ขอให้สาลพิพากษาหรือมีคำสั่งว่าผู้ร้อง (ไมค์) เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย 2.ขอมีอำนาจปกครองร่วมกับมารดา มีแค่ 2 อย่างนี้เองนะครับ ไม่คำร้องส่วนใดที่บรรยายว่าแม่ไม่สามารถที่จะปกครองดูแลลูกได้ หรือไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะดูแลลูกได้ ขอให้พ่อมีสิทธิ์ดูแลฝ่ายเดียว ไม่มีนะครับ"

"ไมค์" มีสิทธิ์ในตัว "แม็กซ์เวลล์" ยังไงบ้าง

ทนายเจมส์ : “ผมแยกเป็นสองส่วน ส่วนที่หนึ่งการเซ็นรับรองบุตรหมายถึงการรับรองว่าลูกเป็นลูกที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้หมายความว่าพ่อเป็นพ่อที่ชอบด้วยกฎหมายนะ การที่เป็นพ่อที่ชอบด้วยกฎหมายมีสองอย่างครับ หนึ่งจดทะเบียนสมรสกัน สองศาลสั่ง แล้วในเมื่อแม่เขาไม่ยอมจะทำยังไงล่ะครับ ก็ต้องนั้นร้องต่อศาลเท่านั้นเอง”

เขาบอกว่าให้สิทธิ์เป็นพ่อ แต่ไม่ให้สิทธิปกครองเป็นไปได้ไหม

ทนายเจมส์ : “เป็นไปได้ครับ ในศาลก็อาจจะมีข้อตกลงเท่าที่ผมเจอมาถ้าไม่ใช่ปกครองร่วมกัน ก็จะปกครองด้วยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ได้ แต่แม้ว่าฝ่ายใดจะมีการปกครองได้ฝ่ายเดียวก็ตาม แต่ไม่ตัดสินอีกฝ่ายนึงในการที่จะไปเยี่ยมเยียนลูกได้ตามสมควร แต่ในกรณีน้องไมค์อยากมีอำนาจปกครองร่วม ส่วนศาลจะให้หรือไม่ให้อยู่ในดุลพินิจจองท่านครับ" 

จะสามารถคุยกันหลังบ้านได้ไหม 

ทนายเจมส์ : “ถ้าคุยกันได้ คุยกันจบนานแล้ว ณ วันนี้เราไม่มีโต๊ะในการเจรจา เราใช้สิทธิ์ทางศาล เราไม่ได้ผิด เพื่อให้น้องมานั่งคุย มาเจรจากัน และสุดท้ายผลประโยชน์ก็ตกกับลูก ผมบอกกับน้องไมค์เสมอว่าถ้าสมมติน้องมาบอกว่าผมอยากเอาน้องมาเลี้ยงแต่เพียงผู้เดียว ผมบอกน้องเลยว่าน้องไปหาทนายคนอื่น ผมไม่ทำ มันบาป ทำได้ยังไง แต่ถ้าเกิดสมมติน้องผู้หญิงดูแลไม่ดีสิค่อยว่ากัน แต่นั่นเขาดูแลอย่างดี เราไม่สมควรจะไปพรากออกมาจากเขา อีกอย่างไมค์ทำงานต่างประเทศ จะเอามาดูแลได้ยังไง”

ตลอด 6 ปี ดูแล “แม็กซ์เวลล์” มา แต่เลือกที่จะเงียบมาตลอด

“(นิ่ง) ผมไม่เห็นประโยชน์ที่ดีต่อลูกผมเลย มีแต่ความเจ็บปวดและพัง ผมรู้ว่าใครเป็นอะไร ยังไง วิธีการเงียบคือการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด ปัญหาก็ไม่จบ ผมเสียตกที่ลูก ผมแค่โดนด่าจากคนที่ไม่ได้ทำให้ผมมีกินมีใช้ ก็ไม่ต้องสนใจ แค่ใช้ชีวิต หาเงินเลี้ยงลูก เลี้ยงครอบครัว เลี้ยงชีพ เกิดมาครั้งเดียว ใช้ชีวิตดีกว่า จะมาต่อสู้กันทำไม (น้ำตาคลอ) รู้สึกชนะจริงๆ ใช่ไหม? มีแต่ผู้แพ้ ด่าผมผมไม่ว่า แต่ถ้าถึงครอบครัวผมเนี่ย (น้ำตาคลอ) ในสิ่งที่พ่อแม่ไม่ได้ทำและพูด น้องสาวผมก็โดนไปด้วย แต่ทุกคนก็อดทน ผมขอโทษครอบครัว ที่ผมลากเขามาในปัญหาอะไรแบบนี้ ทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องลำบากไปด้วย ความโง่ของตัวเอง ความผิดพลาดของตัวเอง ผมผิดพลาดในชีวิตมาเยอะ แต่ไม่ได้แปลว่าผมจะต้องผิดพลาดไปตลอดชีวิต ผิดพลาดก็แก้ไข เรียนรู้และอยู่กับมัน ถ้าใครจะด่า ด่าที่ผมคนเดียว อย่าด่าไปที่ครอบครัว ผมขอแค่นี้" 

อนาคต "แม็กซ์เวลล์" อาจจะเปิดมาเจอคลิปนี้ อยากจะบอกอะไรลูก

“อยากจะบอกแม็กซ์ว่ามันเป็นเรื่องปกติ แด๊ดดี้เป็นดารายังไงก็ต้องเจอแบบนี้อยู่แล้ว และเราอยู่ในที่สว่างยังไงเรื่องพวกนี้มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย และแด๊ดดี้ก็เลือกอาชีพไม่ได้ แด๊ดดี้โตมาแบบนี้ และเดินบนเส้นทางนี้มาโดยตลอด และการที่มันมาเป็นแบบนี้ทุกวันนี้แด๊ดดี้ไม่อยากให้แม็กซ์เอาไปเป็นปม มันไม่ใช่ปม แม่และแด๊ดดี้รักพี่แม็กซ์ที่สุดอยู่แล้ว แต่ปัญหาของผู้ใหญ่วันนี้ก็แก้วันนี้ก่อนที่แม็กซ์จะโตไปมากกว่านี้ ปัญหาของผู้ใหญ่ก็เคลียร์ให้มันจบๆวันนี้ แม็กซ์ไม่ต้องไปคิดน้อยใจว่าทำไมชีวิตต้องเป็นแบบนี้ ทำไมครอบครัวเราไม่ปกติเหมือนคนอื่น อย่าไปน้อยใจ หลังจากนี้แด๊ดดี้อยากให้แม็กซ์รู้ว่าไม่ว่าใครจะพูดอะไรให้แม็กซ์ฟังยังไงก็แล้วแต่ ให้แม็กซ์รู้ไว้เลยว่าวันนี้จนวันตายแด๊ดดี้ก็รักพี่แม็กซ์ และไม่มีวันทอดทิ้งพี่แม็กซ์ ต่อให้วันนี้พี่แม็กซ์จะพูดอะไรที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง แด๊ดดี้ไม่ถือสา และจะไม่เปลี่ยนความคิดนี้ และถ้าวันนึงแด๊ดดี้ไม่ได้อยู่กับพี่แม็กซ์ ที่ตรงนี้ก็เป็นที่ของพี่แม็กซ์เสมอ และพี่แม็กซ์กลับมาหาแด๊ดดี้ได้เสมอ (เสียงสั่นเครือ)”

“ซาร่า” บอกว่าถ้าจะเจอหน้ากันในรายการก็พร้อม

“ก็เจอได้ครับ ไม่มีปัญหา ไกล่เกลี่ยกันได้คุณต้องการอะไร คุยกันบนบรรทัดฐานที่พอดี (อยากบอกอะไรเขาไหม?) ผมไม่ได้อยากออกมาพูดหน้าสื่อ ไม่งั้นผมจะเงียบทำไม อยากเคลียร์หลังบ้าน ถามว่าอยากให้จบยังไง ผมอยากให้จบยังไงก็ได้ที่ดีต่อลูก ผมอยากได้เจอลูก แค่ได้อยู่ในชีวิตลูก แค่ได้มีสิทธิในการตัดสินใจว่าชีวิตลูกจะเดินไปทางไหนบ้าง และเรื่องของค่าใช้จ่ายก็ให้มันพอดี ไม่จำเป็นต้องสูงเกินไป เด็กคนนึงเดือนนึงใช้ 30,000 บาทเหรอครับ ผมยังใช้แค่ 15,000 บาทเลย แล้วทำไมลูกผมถึงใช้เยอะกว่าผม เดี๋ยวนี้ผมก็ทำกับข้าวกินเอง ช่วงนี้ต้องเซฟค่าใช้จ่ายทุกอย่าง"

คิดว่าถ้าให้เงินลูกเท่าเดิม คิดว่าปัญหามันจะจบไหม

“ผมไม่รู้ว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน” 

"ซาร่า" บอกว่าเขาสามารถจ่ายค่าเรียนลูกเองได้

“ก็ถ้าเขาจ่ายได้ก็ยินดีครับ แต่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องว่าใครจ่ายได้จ่ายไม่ได้ แต่คือลูกเรียนอยู่ที่ไหนมากกว่า และผมไม่ได้ไปลดคุณภาพชีวิตเขานะครับ”

 

TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ