หลังจากที่เกิดดราม่าร้อน เมื่อนักร้อง-นักแสดงหนุ่ม ไมค์ – พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล ได้ตอบคำถามแฟนคลับในไอจีสตอรี่ว่าตั้งแต่ซื้อนาฬิกาที่โทรได้ให้ น้องแม็กซ์เวลล์ ลูกชายนั้น ได้คุยแค่อาทิตย์แรก และติดต่อไม่ได้มาเกือบครึ่งเดือนแล้ว จนกลายเป็นเรื่องขึ้นว่าทางฝั่งซาร่ากีดกันลูกจากไมค์หรือเปล่า
“ไมค์ พิรัชต์” ปลื้ม ลูกชายโทรหาทุก 5 นาที หลังซื้อนาฬิกาโทรศัพท์ให้
“ไมค์ พิรัชต์” แอบเศร้า! คิดถึงลูกชาย หลังติดต่อไม่ได้ครึ่งเดือน
จากนั้นมีคนอ้างว่าเป็นญาติของ ซาร่า คาซิงกินี ได้เข้าไปคอมเมนต์ในเพจดังถึงสาเหตุที่ไมค์ติดต่อน้องแม็กซ์เวลล์ไม่ได้ เป็นเพราะนาฬิกาถูกลืมไว้ที่กรุงเทพฯ จนเกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนัก ล่าสุด ซาร่า ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว
“บุ๋ม” สวนกลับแทน “ไมค์” หลังสาวอ้างญาติ “ซาร่า” แจงเหตุติดต่อลูกไม่ได้เกือบครึ่งเดือน
เรื่อง “แม็กซ์เวลล์” ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
“จริงๆคุยกันค่ะ (เขาบอกว่าติดต่อลูกไม่ได้?) อ่อ น่าจะเป็นช่วงที่น้องอยู่ภูเก็ต แล้วตัวซาร่าอยุ่กรุงเทพฯ เขาทำที่ชาร์จแบตหายแล้วทางที่บ้านก็ช่วยกันหาแล้วก็เจอ ก็ให้น้องชาร์จ เรื่องระยะเวลาซาร่าไม่ได้นับ ประมาณอาทิตย์ เหมือนตอนเขาทักมาหาเราเขาบอกว่า 8 วันค่ะ มองว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไรแค่น้องทำที่ชาร์จหายเจอแล้วก็ชาร์จ”
ตกใจไหมตอนที่เขาออกมาตอบว่าไม่ได้คุยมาครึ่งเดือนแล้ว
“ไม่ตกใจ เพราะว่าจริงๆ เราก็คุยกันอยู่ไม่ใช่ไม่ได้คุยกัน เหมือนตัวนาฬิกาที่คุณพ่อน้องให้มามันก็น่าจะแจ้งเตือนอยู่ตลอด เพราะไม่ได้ชาร์จแบตเขาก็บอกเราว่านาฬิกาลูกไม่ได้ชาร์จแบต คุยกับลูกล่าสุดเห็นลูกบอกว่าอยู่กรุงเทพยังไงฝากบอกที่บ้านช่วยดูให้หน่อย"
มีคนอ้างว่าเป็นญาติบอกว่าน้องลืมไว้ที่กรุงเทพฯ
“เอาเป็นว่าซาร่าอยากให้ข่าวทุกข่าวที่มันออกมามันสื่อสารจากซาร่าโดยตรงดีกว่า เพราะข่าวมันมาจากหลายทิศหลายทาง ถ้ามันไม่ได้ออกมาจากซาร่าโดยตรงก็รอคำตอบจากเราน่าจะดีกว่า (คนก็ตีความไปรู้สึกยังไง?) มันเป็นเรื่องเล็กน้อยเพราะเราคุยกันในครอบครัว พอมันมีข่าวออกมาซาร่ามองว่าบางสิ่งบางอย่างซาร่าไม่ต้องมานั่งชี้แจงตลอดเวลา มันเป็นเรื่องแค่ที่ชาร์จแบตลูกหาย เป็นเรื่องที่ทุกข้านน่าจะเกิดปัญหาลูกลืมของตรงนั้นตรงนี้ จริงๆตั้งแต่มีข่าวมาคนสนิทค่อนข้างเยอะ (หัวเราะ)”
การออกตัวแรงของคนรอบตัวทำให้เราเสื่อมเสียยังไงบ้าง
“ซาร่าไม่ได้ซีเรียสเลย ไมค์เป็นพ่อ ซาร่าเป็นแม่ แม็กซ์เวลล์เป็นลูก สื่อสารกันในครอบครัวเรารู้เรื่อง ข้างนอกมันก็แค่ข่าวค่ะ ซาร่าไม่โกรธๆ เราชิวๆ เราโฟกัสทำงานเลี้ยงลูก เพราะว่ามันเป็นเรื่องเล็ก สำหรับซาร่ามองคือก่อนหน้านี้เรามีข่าวค่อนข้างเยอะมาก เรื่องมันใหญ่มาก พอเป็นเรื่องนี้ซาร่ามองว่ามันเล็กน้อยไม่ได้เอามานั่งคิดมากอะไร ตอนนี้แม็กซ์เวลล์อยู่กับครอบครัวซาร่าที่ภูเก็ตค่ะ”
แล้วเขารู้ไหมว่าแบตนาฬิกาหมด
“อันนี้ไม่ทราบค่ะ เราไม่ได้คุยกันละเอียดขนาดนั้น แต่เราทราบตอนที่พ่อน้องทักมาหาว่าแบตหมดเช็คให้หน่อย เราก็ถามที่บ้านว่าแม็กซ์เวลล์ไม่ได้ชาร์จแบตนาฬิกาหรอ” (เราก็ใส่ใจในการติดต่อกับทาง ไมค์?) ติดต่อค่ะ เราก็พูดคุยกันเป็นเรื่องปกติ”
ตอนนี้ “ไมค์” ได้คุยกับ “แม็กซ์เวลล์” หรือยัง
“คุยค่ะ (คุยเมื่อไหร่หลังจากเป็นข่าว?) น่าจะประมาณ 2-3 วันค่ะ”
ก่อนหน้านั้นที่ “ไมค์” โพสต์แล้วคนมองว่ากีดกัด กลัวจะมีผลต่อรูปคดีไหม
“คือหลักฐานในชั้นศาลกับสื่อมันแตกต่างกัน คือผู้พิพากษาเขาพิจารณาจากหลักฐานข้อเท็จจริง ซึ่งมันไม่มีหลักฐานกีดกันค่ะ เพราะฉะนั้นการกัดกันมันไม่ใช่ความจริง (คนยังมองว่ากีดกัน?) ซาร่ามองว่าในศาลยุติธรรมที่สุด ศาลให้ความยุติธรรมทั้งไมค์ ซาร่า และแม็กซ์เวลล์ที่สุด เรื่องนี้มันถึงกระบวนการศาลแล้ว คนที่จะตัดสินก็คือผู้พิพากษาเขาจะต้องเห็นผลประโยชน์ของลูกเราทั้งคู่"
แสดงว่าวันที่ 24 ธันวาคมนี้ จะแฮปปี้เอนดิ้ง
“อันนี้ตอบไม่ได้ค่ะ เพราะว่าเรายังไม่เคยเจรจากันเลยสักครั้ง ซาร่าก็เลยไม่รู้ว่ามันจะเป็นรูปแบบไหน แต่ส่วนตัวซาร่าอยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี”
ทนายบอกว่าก่อนวันที่ 24 เรามีสิทธิ์ไกล่เกลี่ยพูดคุยกันนอกรอบ เราได้คุยกันไหม
“ทางทนายฝั่งคุณไมค์เขาไม่ได้ติดต่อมาค่ะ เราก็รอ จริงๆทางเราก็มีติดต่อไปหลายๆครั้งแต่ว่าไม่ได้คำตอบ เราก็โอเคไม่เป็นไร”
ทางฝั่งเรายืดหยุ่นหรือยอมได้แค่ไหนกับสิ่งที่เขาขอมา
“ทุกอย่างที่เป็นผลประโยชน์ของแม็กซ์เวลล์ ซาร่ายอมอยู่แล้วค่ะ”
เราให้พื้นที่แค่ไหนกับการที่เขาได้มาเจอ พูดคุยกับลูก
“ซาร่าโอเพ่นเรื่องนี้ตลอดกับ 6 ปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นวันพ่อ วันคริสต์มาส ปีใหม่ทุกเทศกาลหรือไม่ต้องเทศกาล ทุกครั้งที่ไมค์เขาอยู่กรุงเทพฯ ซาร่าพยายามที่จะจัดตารางทุกอย่างให้กับพ่อกับลูกอยู่แล้ว อย่างเช่นวันพ่อที่จะถึงนี้เราก็ล็อกคิวล็อกตารางแล้วว่ามันเป็นวันพ่อ มันเป็นวันของเขายังไงเราก็ต้องให้ลูกกับเขาได้ทำกิจกรรมร่วมกันเหมือนทุกปีที่ผ่านมา ปีนี้ก็ที่กรุงเทพฯค่ะ”
ผู้จัดการของซาร่า กล่าวเสริมว่า “ช่วงนั้นน้องซาร่าน่าจะมีงานค่ะ จริงๆน้องซาร่าจะพาน้องแม็กซ์เวลล์มาเรียนพิเศษที่กรุงเทพฯอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ก็คือจะต้องบินไปบินมาค่ะ เพราะฉะนั้นจะต้องมีการสลับสับเปลี่ยนกันว่า ถ้ามาเจอกรุงเทพฯสะดวกไหม หรือเจอภูเก็ตสะดวกกว่า ก็ต้องอยู่ในการตัดสินใจของน้องซาร่าและครอบครัว”
แสดงว่าทุกวันนี้ยังไม่ได้กำหนดเวลาว่าจะให้เจออาทิตย์ละกี่วันยังไงบ้าง
“ด้วยความที่น้องเรียนอยู่ค่ะ ก็ต้องเอาตารางน้องเป็นหลัก”
ใช้คำว่า “ซาร่า” ถอยให้กับเขาได้ไหม
“ซาร่าก็ไม่เคยสู้กับใครนะ ซาร่าก็อยู่เหมือนเดิมมาตั้งแต่แรกค่ะ ทุกวันนี้ก็คุยกันเองค่ะ มันเป็นเรื่องในครอบครัว คิดว่ามันเป็นเรื่องที่พ่อแม่สามารถคุยกันได้เสมอเพื่อลูกค่ะ (แสดงคุยกันมากขึ้น?) จริงๆก็คุยกันตลอดค่ะ แค่มันจะมีช่วงหนึ่งช่วงที่ เรามีปัญหากันโควิดช่วงนั้นอาจจะตึงๆไม่พอใจกันก็เป็นเรื่องปกติทุกๆบ้านต่อให้คุณไม่ได้แยกทางกัน เป็นสามีภรรยาอยู่ในบ้านกันมันก็ต้องมีตึงกันบ้างในบางครั้ง อย่างตอนนี้มันดีขึ้นแล้ว ถามว่าผ่อนคลายมากกว่าช่วงที่ผ่านมาไหม คือเราคุยกันแค่เรื่องลูกเหมือนทุกๆครั้งค่ะ เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไร รู้สึกปกติค่ะ”
“ไมค์” ส่งทนายไกล่เกลี่ย “ซาร่า” ยอมให้เซ็นรับรองบุตร ลั่นไม่เคยกีดกันพ่อเจอลูก
ตอนนี้ยังมีสิ่งที่ “ซาร่า” อยากได้จาก “ไมค์” เพิ่มเติมอยู่ไหม
“ซาร่าก็ไม่เคยเรียกร้องนะ ทุกอย่างมันอยู่ภายใต้กฎหมาย ผู้พิพากษาเป็นคนตัดสินและมองถึงประโยชน์ของบุตรเราทั้งคู่”
หลังจากการเซ็นรับรองบุตรแล้ว เงื่อนไขอื่นๆอย่างค่าเลี้ยงดู ค่าใช้จ่ายต่างๆ เรามีการคิดวางแผนบ้างหรือยัง
“อันนี้ต้องให้ผู้พิพากษา ทนาย ตัดสินไกล่เกลี่ย”
จะมีข้อเรียกร้องมากกว่า 4 ข้อ ที่เราเคยเรียกร้องไปไหม
“มันเรียกว่าข้อเรียกร้องไม่ได้ค่ะ มันเป็นเหตุและผลที่เราเสนอต่อศาล เพราะไม่ว่าทนายทั้งสองฝั่งจะเขียนอะไรไป สุดท้ายแล้วมันไม่ใช่คำสั่งตายตัวว่ามันต้องเป็นแบบนี้ สุดท้ายแล้วผู้พิพากษาก็ต้องมาดูเหตุและผลข้อเท็จจริงว่าอันนี้มันได้มั้ย ไม่ว่าจะเป็นไมค์หรือซาร่าเราไม่สิทธิ์ที่แบบจะเอาอันนั้นอันนี้ สุดท้ายแล้วมันอยู่ที่ดุลยพินิจของศาลของศาลว่าอันไหนที่มันเหมาะสมต่อบุตรของเรา (วันที่ 24 คิดว่ามันจะจบลงยังไง?) อยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี”
จะมีการเซ็นรับรองบุตรกันในวันนั้นเลยไหม
“รับรองบุตรมันเกิดขึ้นอยู่แล้วค่ะ เพราะว่าไมค์เขาเป็นคุณพ่อน้องตั้งแต่วันที่ซาร่าให้คุณไมค์เขาเซ็นใบเกิดตั้งแต่วันที่น้องเกิด เพราะฉะนั้นความเป็นพ่อมันเกิดขึ้นตั้งแต่วันนั้นแล้วค่ะ”
เรื่อง “วาดิม” ตอนนี้ เรามีการตัดขาดกับเขาไปแล้วหรือว่ายังไง
“เรื่องนี้ซาร่าไม่ขอพูดถึงแล้วกันนะคะ เพราะว่าเขาไม่ใช่คนในวงการซาร่า ไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวของเขามาพูด"
ตอนนี้ทำหน้าที่แม่เต็มที่
“เต็มที่ค่ะ (ใช้คำว่าแม่เลี้ยงเดี่ยวได้ไหม) ซาร่าไม่ขอใช้คำนี้แล้วละกันเพราะซาร่าไม่เข้าใจนิยามของแม่เลี้ยงเดี่ยวที่แท้จริงว่ามันคืออะไร ก่อนหน้านี้ทุกคนให้คำนิยามซาร่าว่าแม่เลี้ยงเดี่ยว เราก็ติดว่า อ๋อ แม่เลี้ยงเดี่ยว แต่ ณ วันนี้ด้วยอะไรหลายๆ อย่างทำให้เรายังไม่เข้าใจในคำนี้จริงๆ"
รู้สึกว่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นมันหนักเกินไปไหมสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง
"ก็หนักนะคะ ถ้าจะบอกว่าไม่หนักมันก็คงโกหกเกินไป แต่รับมือได้ รับมือไหว"
ลูกคนเล็กอยู่กับเราที่กรุงเทพฯหรือว่าอยู่ที่ภูเก็ต
"เราเลี้ยงลูกเองอะค่ะไม่ว่าเราอยู่ตรงไหน เหมือนตอนที่เลี้ยงแม็กซ์เวลล์เราก็ไปด้วยกัน ทุกที่เพราะว่าน้องยังกินนมจากอกค่ะ เราจะห่างกับลูกได้ก็ตอนที่เขาเข้าโรงเรียน หย่านมค่ะ"
